พูดถึงห้างอิเซตัน หลายคนรู้จักในฐานะห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น และหลายคนก็น่าจะต้องเคยเดินเล่นเที่ยวช้อปกันที่ห้างนี้มาบ้าง เพราะเคยเป็นห้างที่เคยมีสาขาในประเทศไทยตั้งอยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ถ้าจำกันได้ ซึ่ง อิเซตัน ไม่ว่าจะเป็นสาขาในประเทศไทย (อดีต) หรือสาขาในประเทศญี่ปุ่นต่างก็เป็นห้างสรรพสินค้าในเครือ Isetan Mitsukoshi Group (อิเซตัน มิตสึโคชิ กรุ๊ป) หนึ่งในกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและได้รับความนิยมอย่างมาก เป็นห้างสรรพสินค้าที่รู้จักกันในฐานะศูนย์กลางแห่งแฟชั่นและยังคงรักษาจิตวิญญาณแห่ง "โอโมเทนาชิ" หรือหัวใจของการบริการแบบญี่ปุ่น

กระทู้นี้ก็เลยจะมาแนะนำห้างสรรพสินค้าในเครือ Isetan Mitsukoshi Group จำนวน 3 แห่งใจกลางโตเกียวให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก ไปโตเกียวเมื่อใด จดไว้จะได้ไปช้อปฯ กันให้สนุก ซึ่งห้างแต่ละแห่งที่แนะนำก็จะมีร้านค้า ร้านรวงที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกัน


ก่อนอื่น ถึงจะมาเดินเที่ยวห้างแต่ก็อย่าลืมเอาพาสปอร์ตมากันด้วยนะ ไม่ใช่แค่ติดตัวเผื่อไว้สำหรับการช้อปปิ้งทำ Tax Refund แต่ห้างฯ ในเครือ Isetan Mitsukoshi Group มีแจก "SHOPPING COUPON" ซึ่งเป็นคูปองส่วนลด 5% สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนญี่ปุ่นเท่านั้น ที่สำคัญคือฟรี

รับสิทธิ์ SHOPPING COUPON ง่าย ๆ แค่มีแอป MITSUKOSHI ISETAN! เพียงดาวน์โหลดแอป MITSUKOSHI ISETAN ก็สามารถรับคูปองช้อปปิ้งสุดพิเศษได้ทันที!
ดูรายละเอียดแอปและเงื่อนไขการใช้งานคูปองได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลยค่ะ
https://cp.mistore.jp/global/en/app.html

※「GUEST CARD」ได้ยุติการออกบัตรตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม2568 แต่ยังสามารถใช้งานได้จนถึงวันหมดอายุ

ส่วนเรื่องการทำ Tax Refund สะดวกสบาย ไม่ยุ่งยาก สามารถไปที่เคาน์เตอร์สำหรับTax Refundภายในห้างได้เลย ยิ่งถ้าใช้ SHOPPING COUPON ในการช้อปฯ ด้วยแล้ว นอกจากจะได้รับส่วนลด  5% สามารถใช้บริการปลอดภาษีเพิ่มเติมได้ แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำให้เพื่อน ๆ สอบถามข้อมูลที่ร้านค้าก่อนการใช้บริการกันนะ  

เตรียมพบกับแอปพลิเคชันใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากมิตสึโคชิ อิเซตัน ที่เปิดตัวในวันที่ 26 มีนาคมนี้! โดยการเปิดตัวครั้งนี้จะมาแทนที่ระบบเดิม ซึ่งหมายความว่าการออกบัตรรูปแบบเก่าจะสิ้นสุดลง

ตามมาเดินเที่ยวเล่นห้างสรรพสินค้ากันเลย ห้างแรกที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ คือ Isetan Shinjuku หรือ “อิเซตัน ชินจูกุ”ห้างชื่อดังที่ตั้งอยู่ในย่านยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างชินจูกุ เป็นห้างสรรพสินค้าที่ไปเน้นที่กลุ่มวัยรุ่นมีความทันสมัย นำเทรนด์ ที่นี่มีครบทั้งสินค้าแฟชัน เครื่องสำอาง เครื่องประดับ นาฬิกา แบรนด์ดัง ๆ ชั้นนำคือมารวมอยู่ที่นี่และมีให้เลือกซื้อแบบจุก ๆ นอกจากแฟชันแล้ว ชั้นใต้ดินที่เป็นโซนอาหารก็มีวัตถุดิบญี่ปุ่นสไตล์ และของที่ระลึกให้เลือกซื้อเพียบด้วยเช่นกัน


Isetan Shinjuku จะมีโซนสินค้าสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ อยู่ที่ตึก The Men’s Building ตามชื่อที่นี่ก็จะรวมทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับแฟชันสำหรับผู้ชายเสื้อผ้า ผม รองเท้า เครื่องประดับ มี ISETAN MEN’S เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องวัสดุคุณภาพสูง และการออกแบบที่ซับซ้อน มีสินค้าให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะชอบสไตล์ไหนรับรองจัดได้หมดที่สำคัญมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำสินค้าด้วย


ส่วนคอสตูม สายแฟสำหรับผู้หญิงที่นี่ก็มีให้ช้อปกันสุดตัวเหมือนกัน ละลานตา มีทั้งแบรนด์ญี่ปุ่นแบรนด์อินเตอร์ เทรนด์ล่าสุดจากทั่วโลก


ชั้นเครื่องสำอางที่ห้างก็จัดเต็มไม่แพ้ที่ไหน อยู่ที่ชั้น 1 และ 2 ของอาคารหลักที่นี่จะรวมสินค้าจากแบรนด์ดังเยอะมาก ภายใต้คอนเซปต์ความงามสำหรับผู้หญิงทุกคน มุมน้ำหอมนี้จะรวมกลิ่นแบรนด์ดังทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 40 แบรนด์ นอกจากนี้ Isetan Beauty Apothecary ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นใต้ดินสองของอาคารหลัก ยังมีสินค้าให้เลือกมากมาย เช่น เครื่องสำอางจากธรรมชาติ อาหารเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย

ในส่วนของสินค้าเครื่องใช้ภายในบ้าน ประเภทจาน ชาม เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งสินค้าของญี่ปุ่นที่ควรหิ้วกลับ เพราะวัสดุคุณภาพดีมาก ลวดลายก็สวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของแต่งบ้าน แจกันและสิ่งของต่าง ๆ หมวดอุปกรณ์ประกอบอาหารแนะนำหม้อ กระทะ พวกเครื่องใช้ในครัว และเครื่องมืออื่น ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ ยังมีภาชนะบนโต๊ะอาหารแบบญี่ปุ่นและอุปกรณ์สำหรับพิธีชงชาซึ่งทำจากวัสดุหลากหลาย มีงานแสดงสินค้าจากศิลปินในประเทศและการสาธิตการแกะสลักชื่ออีกด้วย


มาเรื่องอาหารการกินบ้าง ถ้าเป็นสายของกินจัดหนักจัดแน่นควรต้องมาที่นี่อย่างยิ่ง เพราะว่าที่อิเซตัน ชินจูกุเป็นแหล่งรวมร้านขนมชื่อดังและร้านค้าเก่าแก่จากทั่วโลก คุณภาพดี ทานเองก็ดี ซื้อฝากก็ได้ เป็นของขวัญก็เก๋ไก๋ มีทั้งขนมหวานที่กำลังได้รับความนิยมของแผนกขนมสไตล์ตะวันตกที่จำหน่ายเฉพาะที่ Isetan Shinjuku ขนมหวานที่รังสรรค์โดยเชฟขนมอบชื่อดัง ส่วนขนมญี่ปุ่นและชาญี่ปุ่นก็มีเหมือนกัน มีโซนขายขนมทำสดตามฤดูกาลมีร้านค้าที่สามารถชงชาญี่ปุ่นให้ดื่มกันเดี๋ยวนั้นได้ด้วย


แผนกอาหารสำเร็จรูปก็ไม่น้อยหน้า มีร้านค้ารวม ๆ กันประมาณ 50 ร้านที่จำหน่ายอาหารสำเร็จรูปของญี่ปุ่น เอเชีย และยุโรปรวมถึงกล่องเบนโตะและซูชิให้เลือกเพียบ ที่สำคัญอร่อยทุกร้าน

จากย่านชินจูกุ ขอขยับมาอีกที่กับห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของญี่ปุ่นที่ย่านนิฮงบาชิ มีชื่อว่า Nihombashi Mitsukoshi นิฮงบาชิ มิตซูโคชิ ฮอนเต็น ตัวอาคารหลักของห้างได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่นด้วยนะ

ห้างสรรพสินค้า Nihombashi Mitsukoshi Main Store ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 351 ปีที่แล้ว บรรยากาศคลาสสิกและอาคารสไตล์เรอเนซองส์เป็นเอกลักษณ์ให้บริการสินค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่อาหารในชั้นใต้ดินของห้างฯ แฟชั่น งานหัตถกรรมดั้งเดิม ไปจนถึงงานศิลปะ

ต้นกำเนิดของ Nihombashi Mitsukoshi Main Store คือร้านขายผ้า “Echigoya” ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อ และในปี 1904 ได้ประกาศเป็นห้างสรรพสินค้า (Department Store) อย่างเป็นทางการ กลายเป็น ห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของญี่ปุ่น เมื่อทราบว่าตัวอาคารหลักได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น สมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติในปี 2016 ก็คงช่วยให้สัมผัสถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของที่นี่ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าตัวอาคารหลักในปัจจุบันจะมีการต่อเติมและปรับปรุงหลายครั้ง แต่ยังคงไว้ซึ่งความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของยุคสมัยก่อน และยังคงเปล่งประกายความสง่างามมาจนถึงปัจจุบัน


อีกหนึ่งสถานที่ที่คนชอบบอนไซหรืออยากสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นจริง ๆ ไม่ควรพลาด ที่นี่มีร้านขายบอนไซเก่าแก่ที่ก่อตั้งในสมัยเอโดะ ชื่อว่า SEIKOUEN清香園 ที่นี่มีต้นบอนไซหลายชนิด เช่น ต้นสน ต้นพลัม และต้นเชอร์รี่ แค่มองดูก็เพลินแล้ว


^{ppantip.com ได้รับอนุญาตจาก Isetan  และ ชิล ชิล เจแปน (Chill Chill Japan) ให้ใช้รูปภาพ สำหรับประกอบบทความแล้ว}

อย่างที่บอกด้านบนว่าห้างนี้เป็นห้างที่รักษาความเก๋าอย่างดีเยี่ยม ที่นี่จึงรวบรวมสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นไว้มากมาย หนึ่งในนั้นคือ “เอโดะคิริโกะ” (Edokiriko) ซึ่งเป็นชื่อเรียกทั่วไปสำหรับเครื่องแก้วที่ผลิตในเอโดะ・โตเกียว ตั้งแต่ปลายยุคเอโดะจนถึงปัจจุบัน หากสนใจ สามารถไปชมได้ที่ชั้น 5 ของอาคารหลักค่ะ!

เอโดะคิริโกะมีต้นกำเนิดในช่วงปลายยุคเอโดะ และความน่าทึ่งของงานชิ้นนี้คือเทคนิคการสร้างสรรค์ที่ใช้ความเชี่ยวชาญด้านแสงอย่างลึกซึ้ง
ไม่ว่าจะเป็นการหักเหของแสงผ่านร่องลึก การรวมเส้นบาง ๆ เพื่อสร้างเอฟเฟกต์การสะท้อนแสง หรือการทำให้กระจกดูเหมือนฝ้าเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลให้กับแสง ความพิเศษเหล่านี้ทำให้เอโดะคิริโกะได้รับการยกย่องเป็นงานฝีมือดั้งเดิมจากรัฐบาลกรุงโตเกียวในปี 1985 และในปี 2002ก็ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมว่าเป็นงานฝีมือดั้งเดิมที่มีคุณค่าอย่างยิ่งค่ะ!


มาถึงห้างดังทั้งที จะพลาดโซนเครื่องสำอางไปไม่ได้ ต้องแวะสำรวจที่ชั้นเครื่องสำอางกันสักหน่อยค่ะ!


ที่ชั้น B1 มีโซนขนมที่เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝาก หนึ่งในร้านแนะนำคือ Saika no Hoseki
ร้านนี้มีชุดเยลลี่ผลไม้ที่สามารถรับประทานได้ที่อุณหภูมิห้อง
ความพิเศษของเยลลี่นี้อยู่ที่สีสันสดใสและรสชาติที่หลากหลาย
โดยแต่ละชิ้นเต็มไปด้วยรสผลไม้เข้มข้นที่คัดสรรมาอย่างดีจากทั้งในญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ
รับรองถูกใจทั้งคนซื้อและคนรับแน่นอนค่ะ!


เนื้อเยลลี่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติอูมามิและเนื้อฉ่ำ ได้รับการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน โดยมีให้เลือกถึง
15 รสชาติคลาสสิก เช่น แอปริคอต สตรอว์เบอร์รี ส้ม พลัมแดง พลัมเขียว ราสเบอร์รี เกรปฟรุต แอปเปิล
มัสกัต เลมอน สับปะรด กล้วย องุ่น พีช และลูกพรุน
แต่ละชิ้นถูกบรรจุแยกไว้ในห่ออย่างดีเพื่อความสะดวกในการรับประทาน
ผลิตภัณฑ์นี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 1993 และได้รับความนิยมในฐานะของขวัญยอดฮิต
แถมแพ็กเกจยังมาในกล่องเหล็กลายน่ารักที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีกด้วยค่ะ!