ขออนุญาตลงข้อมูลประกอบ แบบสรุปดังนี้ครับ
ว่าด้วยการรับสมัครนักศีกษาเข้าเรียนต่อคณะแพทย์ ของ ม. ขอนแก่น
ขอกล่าวถึงเฉพาะ 2 รอบแรกที่ผมสงสัยน่ะครับ คือ
รอบที่ 1 คือรอบพอร์ตโฟลิโอ แบ่งเป็น 2 โครงการคือ MDX กับ MD02
รอบที่ 2 คือรอบโควต้า
ตามประกาศหลักเกณฑ์ฉบับเดิมปี 2567 ของคณะแพทย์ มข. แจ้งไว้ว่า
1.การสอบเก็บคะแนน NETSAT สามารถสอบได้ทั้งหมด 4 ครั้ง (สอบได้ตั้งแต่ม.5เทอม1)
2.จากการสอบทั้ง 4 ครั้ง(ใครจะไม่สมัครทั้ง 4 ครั้งก็ได้) ให้เอาคะแนนสูงสุดของแต่ละวิชาที่ได้ แล้วเอาคะแนนมารวมกันคิดออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามตารางค่าน้ำหนักที่ได้กำหนดไว้
(ซึ่งตรงนี้เด็กที่กำลังขึ้น ม.6 สามารถสอบได้ 4 รอบคือ รอบที่ 1 ส.ค.67/ รอบที่2 ก.พ.68 / รอบที่ 3 ส.ค.68 / รอบที่ 4 ก.พ. 69)
ประกาศฉบับใหม่ล่าสุดที่ประกาศให้ทราบต่อสาธารณะ ออกประกาศมาเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีใจความสำคัญๆดังนี้
*สำหรับเด็กที่กำลังอยู่ชั้น ม.6 ในปัจจุบัน การสอบเก็บคะแนน NETSAT ใช้ได้แค่ 2 ครั้งคือ รอบเดือน ก.พ.68 และ ส.ค.68 เท่านั้น และต้องใช้คะแนนครั้งใดครั้งหนึ่งทั้งฉบับเท่านั้น*
รายละเอียดตามเอกสารด้านล่างนี้ครับ
จากรายละเอียดของประกาศฉบับใหม่ ผมเห็นว่ามีผลกระทบเสียหายย้อนหลังกับเด็กนักเรียนที่กำลังจะขึ้น ม.6 เป็นอย่างมาก
ซึ่งตามความคิดเห็นส่วนตัวผม เกณฑ์ใหม่ที่ออกมาควรจะประกาศใช้กับเด็กที่กำลังขึ้น ม.5 จึงจะเหมาะสมกว่าเพราะจะไม่มีผลเสียย้อนหลังกับเด็กที่กำลังขึ้น ม.6
แต่ประกาศฉบับใหม่ที่ประกาศออกมานั้น ทางคณะแพทย์ มข.ให้มีผลทันทีกับเด็กที่กำลังขึ้น ม.6
โดยส่วนตัวผมมองว่าผลเสียหายที่เกิดขึ้นกับเด็กที่กำลังขึ้นชั้น ม.6 ได้แก่
1.ต้องเสียสมัครสอบที่ได้จ่ายไปแล้วในเดือน สิงหาคม 67 โดยเปล่าประโยชน์ (เพราะไม่สามารถนำมาใช้ยื่นคะแนนเข้าคณะแพทย์ มข.ได้)
2.เด็กที่ผ่านการสอบในเดือน ส.ค. 67 บางคนที่สอบได้คะแนนดีจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว รอเพียงการยื่นคะแนนสอบ ซึ่งบางคนก็ไม่ได้สมัครสอบรอบ กพ.68 ที่ผ่านมา หรืออาจจะสมัครสอบแค่บางวิชาที่คะแนนยังไม่เป็นที่น่าพอใจ จึงเป็นผลให้เสียสิทธิในรอบ ก.พ. 68 ไปโดยปริยาย
เนื่องจากประกาศใหม่ระบุไว้ว่าต้องใช้คะแนนทั้งฉบับ(ก.พ.68 หรือ ส.ค.68 เท่านั้น)
และประกาศฉบับใหม่ก็ประกาศหลังจากที่มีการประกาศคะแนนสอบ NETSAT รอบเดือน ก.พ. 68 ไปแล้ว(ประกาศคะแนนไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ.68)
3.การตัด MCAT ออก เท่าที่ทราบบางคนลงคอร์สติวไปหลายหมื่น และบางคนลงทะเบียนสอบในไทยไม่ทัน ต้องไปลงสอบที่สิงคโปร์แทน
เสียค่าตั๋วเครื่องบินไปแล้ว เกิดความเสียหายไม่น้อยเช่นกัน
4.การตัด CU-TEP ออก ซึ่งเด็กหลายๆคนได้วางแผนสอบเก็บคะแนนกันไปเป็นส่วนใหญ่ เพราะค่าสมัครไม่แพง มีสนามสอบภูมิภาคหลายสนาม
เดินทางสะดวก สอบได้หลายครั้ง อีกทั้งคะแนน CU-TEP สามารถใช้ยื่นได้หลายมหาวิทยาลัย ซึ่งจริงๆตรงนี้ ไม่น่าตัดออกเลย
(ถ้ามาเปรียบเทียบกับ kept x ของ มข. ซึ่งเด็กๆ ต้องสอบเก็บคะแนนกัน kept-x เท่าที่ทราบปีนี้เปิดสอบ 5 รอบ และใช้ยื่นได้แค่ มข. เท่านั้น)
5.การประกาศลดค่าน้ำหนักคะแนนวิชาภาษาอังกฤษในการสอบ NETSAT ลงจาก 30 เปอร์เซ็นต์เหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกิดผลเสียกับเด็กที่สอบได้คะแนนดีในรอบ ส.ค.67 และ ก.พ.68 เป็นอย่างมาก
6.การเสียสิทธิ์ใช้คะแนนสอบ NETSAT ในรอบเดือน ก.พ.69 เหลือเพียง คะแนน NETSAT ในรอบเดือน ก.พ.68 และเดือน ส.ค.68 เท่านั้น
ผมมีข้อสงสัยดังนี้ครับ
จากประกาศใหม่ที่ออกมาเมื่อวันที่ 10 มี.ค.68
แล้วมีผลบังคับย้อนหลังทำให้เกิดความเสียหายหรือเสียประโยชน์กับบุคคลใดๆโดยเฉพาะเด็กที่กำลังขึ้นชั้น ม.6
แบบนี้ถือว่าเป็นประกาศที่ขัดต่อข้อกฏหมายข้อใดบ้างหรือไม่ครับ
(เท่าที่เข้าใจการจะมีผลบังคับย้อนหลังได้โดยไม่ขัดต่อหลักกฏหมาย ก็ต่อเมื่อมีผลดีหรือมีคุณประโยชน์เท่านั้น)
ผิดถูกประการใด
ขอคำชี้แนะและคำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ขอสอบถามเกี่ยวกับประกาศของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในการรับนักศึกษาแพทย์ ว่าขัดกับหลักกฏหมายข้อไหนบ้างหรือไม่ครับ
ว่าด้วยการรับสมัครนักศีกษาเข้าเรียนต่อคณะแพทย์ ของ ม. ขอนแก่น
ขอกล่าวถึงเฉพาะ 2 รอบแรกที่ผมสงสัยน่ะครับ คือ
รอบที่ 1 คือรอบพอร์ตโฟลิโอ แบ่งเป็น 2 โครงการคือ MDX กับ MD02
รอบที่ 2 คือรอบโควต้า
ตามประกาศหลักเกณฑ์ฉบับเดิมปี 2567 ของคณะแพทย์ มข. แจ้งไว้ว่า
1.การสอบเก็บคะแนน NETSAT สามารถสอบได้ทั้งหมด 4 ครั้ง (สอบได้ตั้งแต่ม.5เทอม1)
2.จากการสอบทั้ง 4 ครั้ง(ใครจะไม่สมัครทั้ง 4 ครั้งก็ได้) ให้เอาคะแนนสูงสุดของแต่ละวิชาที่ได้ แล้วเอาคะแนนมารวมกันคิดออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ ตามตารางค่าน้ำหนักที่ได้กำหนดไว้
(ซึ่งตรงนี้เด็กที่กำลังขึ้น ม.6 สามารถสอบได้ 4 รอบคือ รอบที่ 1 ส.ค.67/ รอบที่2 ก.พ.68 / รอบที่ 3 ส.ค.68 / รอบที่ 4 ก.พ. 69)
ประกาศฉบับใหม่ล่าสุดที่ประกาศให้ทราบต่อสาธารณะ ออกประกาศมาเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีใจความสำคัญๆดังนี้
*สำหรับเด็กที่กำลังอยู่ชั้น ม.6 ในปัจจุบัน การสอบเก็บคะแนน NETSAT ใช้ได้แค่ 2 ครั้งคือ รอบเดือน ก.พ.68 และ ส.ค.68 เท่านั้น และต้องใช้คะแนนครั้งใดครั้งหนึ่งทั้งฉบับเท่านั้น*
รายละเอียดตามเอกสารด้านล่างนี้ครับ
จากรายละเอียดของประกาศฉบับใหม่ ผมเห็นว่ามีผลกระทบเสียหายย้อนหลังกับเด็กนักเรียนที่กำลังจะขึ้น ม.6 เป็นอย่างมาก
ซึ่งตามความคิดเห็นส่วนตัวผม เกณฑ์ใหม่ที่ออกมาควรจะประกาศใช้กับเด็กที่กำลังขึ้น ม.5 จึงจะเหมาะสมกว่าเพราะจะไม่มีผลเสียย้อนหลังกับเด็กที่กำลังขึ้น ม.6
แต่ประกาศฉบับใหม่ที่ประกาศออกมานั้น ทางคณะแพทย์ มข.ให้มีผลทันทีกับเด็กที่กำลังขึ้น ม.6
โดยส่วนตัวผมมองว่าผลเสียหายที่เกิดขึ้นกับเด็กที่กำลังขึ้นชั้น ม.6 ได้แก่
1.ต้องเสียสมัครสอบที่ได้จ่ายไปแล้วในเดือน สิงหาคม 67 โดยเปล่าประโยชน์ (เพราะไม่สามารถนำมาใช้ยื่นคะแนนเข้าคณะแพทย์ มข.ได้)
2.เด็กที่ผ่านการสอบในเดือน ส.ค. 67 บางคนที่สอบได้คะแนนดีจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว รอเพียงการยื่นคะแนนสอบ ซึ่งบางคนก็ไม่ได้สมัครสอบรอบ กพ.68 ที่ผ่านมา หรืออาจจะสมัครสอบแค่บางวิชาที่คะแนนยังไม่เป็นที่น่าพอใจ จึงเป็นผลให้เสียสิทธิในรอบ ก.พ. 68 ไปโดยปริยาย
เนื่องจากประกาศใหม่ระบุไว้ว่าต้องใช้คะแนนทั้งฉบับ(ก.พ.68 หรือ ส.ค.68 เท่านั้น)
และประกาศฉบับใหม่ก็ประกาศหลังจากที่มีการประกาศคะแนนสอบ NETSAT รอบเดือน ก.พ. 68 ไปแล้ว(ประกาศคะแนนไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ.68)
3.การตัด MCAT ออก เท่าที่ทราบบางคนลงคอร์สติวไปหลายหมื่น และบางคนลงทะเบียนสอบในไทยไม่ทัน ต้องไปลงสอบที่สิงคโปร์แทน
เสียค่าตั๋วเครื่องบินไปแล้ว เกิดความเสียหายไม่น้อยเช่นกัน
4.การตัด CU-TEP ออก ซึ่งเด็กหลายๆคนได้วางแผนสอบเก็บคะแนนกันไปเป็นส่วนใหญ่ เพราะค่าสมัครไม่แพง มีสนามสอบภูมิภาคหลายสนาม
เดินทางสะดวก สอบได้หลายครั้ง อีกทั้งคะแนน CU-TEP สามารถใช้ยื่นได้หลายมหาวิทยาลัย ซึ่งจริงๆตรงนี้ ไม่น่าตัดออกเลย
(ถ้ามาเปรียบเทียบกับ kept x ของ มข. ซึ่งเด็กๆ ต้องสอบเก็บคะแนนกัน kept-x เท่าที่ทราบปีนี้เปิดสอบ 5 รอบ และใช้ยื่นได้แค่ มข. เท่านั้น)
5.การประกาศลดค่าน้ำหนักคะแนนวิชาภาษาอังกฤษในการสอบ NETSAT ลงจาก 30 เปอร์เซ็นต์เหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกิดผลเสียกับเด็กที่สอบได้คะแนนดีในรอบ ส.ค.67 และ ก.พ.68 เป็นอย่างมาก
6.การเสียสิทธิ์ใช้คะแนนสอบ NETSAT ในรอบเดือน ก.พ.69 เหลือเพียง คะแนน NETSAT ในรอบเดือน ก.พ.68 และเดือน ส.ค.68 เท่านั้น
ผมมีข้อสงสัยดังนี้ครับ
จากประกาศใหม่ที่ออกมาเมื่อวันที่ 10 มี.ค.68
แล้วมีผลบังคับย้อนหลังทำให้เกิดความเสียหายหรือเสียประโยชน์กับบุคคลใดๆโดยเฉพาะเด็กที่กำลังขึ้นชั้น ม.6
แบบนี้ถือว่าเป็นประกาศที่ขัดต่อข้อกฏหมายข้อใดบ้างหรือไม่ครับ
(เท่าที่เข้าใจการจะมีผลบังคับย้อนหลังได้โดยไม่ขัดต่อหลักกฏหมาย ก็ต่อเมื่อมีผลดีหรือมีคุณประโยชน์เท่านั้น)
ผิดถูกประการใด
ขอคำชี้แนะและคำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ