สวัสดีค่ะ มีเรื่องอัดอั้น อยากปรึกษาค่ะ
เราเป็นทันตแพทย์ เรียนจบป.เอกต่างประเทศ(ได้ทุนเรียน) พึ่งจะกลับไทยมาทำงานได้ประมาณ 2-3 ปีค่ะ
ตอนนี้ทำงานไปด้วย กำลังเรียนเฉพาะทางต่ออีก 3 ปี ตอนนี้อายุ 30 ปีแล้วค่ะ
คบหากับแฟนมาได้ 6-7 ปี แฟนถามเรื่องการแต่งงานแล้วค่ะ
พอพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่ทีไร ก็โดนบ่ายเบี่ยงมาตลอดเลยค่ะ
หลักๆคือ บ้านเรามีปม คือยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองค่ะ ทุกวันนี้เช่าบ้านอยู่ ชื่อก็อยู่ในทะเบียนบ้านของญาติที่รู้จักกันค่ะ
หลังจากเราเรียนจบกลับมา แม่ก็ถามตลอดแกมกดดันว่าเมื่อไหร่จะซื้อบ้านเสียที อยากให้ซื้อก่อนแต่งงานอีกค่ะ
เราถึงแม้จะมีเงินเดือนมหาลัย 4 หมื่น + ทำงานพิเศษ 3 หมื่น ก็แบ่งมาจ่ายค่าเรียนต่อเฉพาะทาง ให้ที่บ้าน ลงทุน และเหลือเก็บอีกค่ะ
หลังๆเริ่มชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมเราให้ซื้อบ้าน เพราะไม่อยากจะเอาชื่อไปไว้กับบ้านญาติ เพราะกลัวเค้าจะมองว่าลูกโตทำงานแล้วทำไมไม่หาซื้อบ้านเป็นของตัวเองเสียที
เข้าใจค่ะว่าสักดิ์ศรีมันค้ำคอ แต่ถามหน่อยแทนที่จะกังวลเรื่องนั้น มากังวลว่าลูกตนจะผ่อนไหวหรือไม่ดีกว่าไหม
เราไม่อยากซื้อบ้านตอนนี้ค่ะ เพราะคิดว่าตึงเกินไป และเราเป็นเสาหลักครอบครัว พึ่งเริ่มทำงาน อยากเก็บเงิน ไม่อยากจมไปกับภาระหนี้บ้าน
อยากรอให้การงานเติบโต เข้าที่เข้าทาง อยากแต่งงานเริ่มต้นครอบครัวค่ะ เพร่ะเป็นผู้หญิงก็ถึงวัยมีครอบครัวแล้ว ทั้งนี้ก็ยังจะส่งเสียดูแลที่บ้านไม่ให้ขาดค่ะ
พ่อแม่เราใกล้เกษียณแล้วค่ะ เข้าใจว่าไม่มีเงินเก็บพอที่จะดูแลตนเอง เราต้องซัพพอรตต่อไปอีกค่ะ
ชีวิตเราต้นทุนน้อยค่ะ พ่อแม่ไม่มีรถหรือบ้านไว้ให้เลย เข้าใจว่าเราเป็นความหวังของครอบครัว แต่เราประเมินและวางแผนการเงินแล้วว่า ยังไม่ถึงเวลาจริงๆ อยากให้ที่บ้านเข้าใจและเลิกกดดันเรื่องนี้ค่ะ ต้องคุยอย่างไรดีคะ
วันนี้คุยกับแม่ พอไม่เข้าหูก้โดนหงุดหงิดใส่ เงียบใส่เราอีกค่ะ
ที่บ้านกดดันให้ซื้อบ้าน แต่เรายังไม่พร้อม
เราเป็นทันตแพทย์ เรียนจบป.เอกต่างประเทศ(ได้ทุนเรียน) พึ่งจะกลับไทยมาทำงานได้ประมาณ 2-3 ปีค่ะ
ตอนนี้ทำงานไปด้วย กำลังเรียนเฉพาะทางต่ออีก 3 ปี ตอนนี้อายุ 30 ปีแล้วค่ะ
คบหากับแฟนมาได้ 6-7 ปี แฟนถามเรื่องการแต่งงานแล้วค่ะ
พอพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่ทีไร ก็โดนบ่ายเบี่ยงมาตลอดเลยค่ะ
หลักๆคือ บ้านเรามีปม คือยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองค่ะ ทุกวันนี้เช่าบ้านอยู่ ชื่อก็อยู่ในทะเบียนบ้านของญาติที่รู้จักกันค่ะ
หลังจากเราเรียนจบกลับมา แม่ก็ถามตลอดแกมกดดันว่าเมื่อไหร่จะซื้อบ้านเสียที อยากให้ซื้อก่อนแต่งงานอีกค่ะ
เราถึงแม้จะมีเงินเดือนมหาลัย 4 หมื่น + ทำงานพิเศษ 3 หมื่น ก็แบ่งมาจ่ายค่าเรียนต่อเฉพาะทาง ให้ที่บ้าน ลงทุน และเหลือเก็บอีกค่ะ
หลังๆเริ่มชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมเราให้ซื้อบ้าน เพราะไม่อยากจะเอาชื่อไปไว้กับบ้านญาติ เพราะกลัวเค้าจะมองว่าลูกโตทำงานแล้วทำไมไม่หาซื้อบ้านเป็นของตัวเองเสียที
เข้าใจค่ะว่าสักดิ์ศรีมันค้ำคอ แต่ถามหน่อยแทนที่จะกังวลเรื่องนั้น มากังวลว่าลูกตนจะผ่อนไหวหรือไม่ดีกว่าไหม
เราไม่อยากซื้อบ้านตอนนี้ค่ะ เพราะคิดว่าตึงเกินไป และเราเป็นเสาหลักครอบครัว พึ่งเริ่มทำงาน อยากเก็บเงิน ไม่อยากจมไปกับภาระหนี้บ้าน
อยากรอให้การงานเติบโต เข้าที่เข้าทาง อยากแต่งงานเริ่มต้นครอบครัวค่ะ เพร่ะเป็นผู้หญิงก็ถึงวัยมีครอบครัวแล้ว ทั้งนี้ก็ยังจะส่งเสียดูแลที่บ้านไม่ให้ขาดค่ะ
พ่อแม่เราใกล้เกษียณแล้วค่ะ เข้าใจว่าไม่มีเงินเก็บพอที่จะดูแลตนเอง เราต้องซัพพอรตต่อไปอีกค่ะ
ชีวิตเราต้นทุนน้อยค่ะ พ่อแม่ไม่มีรถหรือบ้านไว้ให้เลย เข้าใจว่าเราเป็นความหวังของครอบครัว แต่เราประเมินและวางแผนการเงินแล้วว่า ยังไม่ถึงเวลาจริงๆ อยากให้ที่บ้านเข้าใจและเลิกกดดันเรื่องนี้ค่ะ ต้องคุยอย่างไรดีคะ
วันนี้คุยกับแม่ พอไม่เข้าหูก้โดนหงุดหงิดใส่ เงียบใส่เราอีกค่ะ