🌞 ผิวของเราต้องเผชิญแสงแดดและมลภาวะทุกวัน ส่งผลทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ เช่น ริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ และโรคผิวหนัง หากละเลยการดูแล ผิวอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นและแสงแดดรุนแรงขึ้น ยิ่งกระตุ้นให้ผิวถูกทำร้ายเพิ่มมากขึ้น
แพทย์หญิงดวงกมล ทัศนพงศากุล แพทย์ประจำศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า แสงแดดและมลภาวะเป็นปัจจัยที่อาจทำร้ายผิว โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่แสงแดดแรงขึ้น การปกป้องผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผิวของเราประกอบด้วยโมเลกุลของน้ำ โปรตีน คอลลาเจน อีลาสติน และไฮยารูรอนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid) ซึ่งช่วยให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น และยืดหยุ่น อย่างไรก็ตามแสงแดด โดยเฉพาะรังสี UVA, UVB และแสงที่มองเห็นได้ มีพลังงานสูง (Visible Light) สามารถทำลายโครงสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น นอกจากนี้แสงแดดยังทำให้ไฮยาลูโรนิค แอซิดในผิวเสื่อมสภาพ ลดการกักเก็บความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน สูญเสียความยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอยก่อนวัย
🌞 การได้รับแสงแดดมากเกินไปโดยไม่มีการป้องกัน อาจนำไปสู่ปัญหาผิวที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยและความหย่อนคล้อย เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ และความเสื่อมของคอลลาเจนในชั้นผิว
🌞 นอกจากแสงแดดที่ทำลายผิวเราแล้วนั้น ยังมีตัวการอย่างมลภาวะหรือมลพิษจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งเต็มไปด้วยสารพิษต่างๆ อาทิ ฝุ่น PM 2.5 ภัยเงียบที่มีอนุภาคขนาดเล็กมากและสามารถแทรกซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้โดยตรง อนุภาคฝุ่นจะกระตุ้นปฏิกิริยาออกซิเดชันในผิวหนัง ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ กระตุ้นความเปลี่ยนแปลงของเซลล์ผิว ก่อให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ และอาจส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ในระดับพันธุกรรม
🌞 ผลกระทบจากแสงแดดและภัยจากมลภาวะ กระทบต่อทั้งระบบทางเดินหายใจ หัวใจ และสมอง อีกทั้ง ยังทำให้ผิวหนังเกิดปัญหาต่างๆ เช่น ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ระคายเคือง ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง สิวอักเสบ ริ้วรอย จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ เพื่อรักษาสมดุลของผิวหนัง
ควรปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้
👩⚕️ ล้างหน้าอย่างอ่อนโยนทุกเช้าและก่อนนอน
👩⚕️ ใช้โทนเนอร์ที่ช่วยปรับสมดุลผิว
👩⚕️ บำรุงผิวด้วยครีมหรือเซรั่มที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ทั้งเช้าและก่อนนอน
👩⚕️ ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป
👩⚕️ รับประทานอาหารที่มีวิตามิน E, C, B และสารต้านอนุมูลอิสระ
👩⚕️ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
🌞 นอกจากการดูแลตนเองในเบื้องต้นแล้ว ปัจจุบันยังมีหัตถการที่ช่วยรักษาและฟื้นฟูสภาพผิวหน้าหลังเผชิญกับแสงแดดและมลภาวะสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น การผลักวิตามินด้วยการใช้คลื่นเสียง หรือกระแสไฟฟ้า การใช้แสงที่มีความเข้มข้นสูง (Intense Pulsed Light) ในการรักษากระ รอยดำ รอยแดง และสีผิวไม่สม่ำเสมอ รวมถึงการใช้เลเซอร์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
🌞 แสงแดดและมลภาวะเป็นภัยเงียบที่ค่อยๆ ทำลายผิว หากละเลย อาจเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ควรเริ่มดูแลผิวของคุณตั้งแต่วันนี้ ด้วยการป้องกันแสงแดด เลี่ยงมลภาวะ และบำรุงผิวอย่างเหมาะสม เพื่อผิวที่แข็งแรง สุขภาพดี ชะลอความเสื่อมของผิว ลดความเสี่ยงต่อโรคผิวหนัง อีกทั้งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการออกกำลังกาย ยังเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรงจากภายในอีกด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พญ. ดวงกมล ทัศนพงศากุล
แพทย์ประจำศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลเวชธานี
“แสงแดดและมลภาวะ ศัตรูตัวร้ายทำลายผิวหนัง”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้