1.ด้านการคมนาคม
รูปแบบถนน
- ไทย เน้นการขยายเส้นทางให้กว้างขวาง บุกเบิกถนนใหม่ทุกปี ทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการสัญจรโดยใช้รถส่วนตัว แต่ไม่ค่อยสร้างทางด่วนระหว่างเมือง ทำให้รัฐบาลเสียโอกาสในการเรียกเก็บเงินจากทางด่วน
-
มาเลเซีย เน้นการพัฒนาถนนเท่าที่จำเป็น ถนนเส้นรองต่างๆมักจะแคบกว่า ส่วนใหญ่เส้นรองไม่มีไหลทาง หากใช้เส้นทางรองการขับรถจะไม่ค่อยสะดวก แต่รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับทางด่วนเชื่อมต่อระหว่างเมือง ทำให้รัฐบาลสามารถเก็บค่าทางด่วนได้มหาศาล (แต่สำหรับรถจักรยานยนต์ใช้งานฟรี)
ถนนต่างจังหวัดในไทย
ถนน 4 เลน
ถนน 2 เลน
ถนนต่างจังหวัดในมาเลเซีย
ถนน higthway

ถนน 2 เลน
เ
ส้นทางรถไฟ
- ไทย เน้นใช้รางเดิมที่มีอยู่
ทางรถไฟส่วนใหญ่ยังเป็นรางเดี่ยว ไม่ค่อยมีการพัฒนาด้านนี้มากนักหรือพัฒนาได้ช้า ทำให้เสียโอกาสในหลายๆด้าน เช่น การขนส่งสินค้าที่ล่าช้า รอบการเดินรถถูกจำกัด ปัญหาเหล่านี้ทำให้การรถไฟไม่ตอบโจทย์ภาคการขนส่งมากนัก ทำให้กลุ่มเป้าหมายหลักของการรถไฟคือ กลุ่มคนรากหญ้า ซึ่งโครงการร่างคู่อยู่ระหว่างการพัฒนา
-
มาเลเซีย ทางรถไฟส่วนใหญ่เป็นรางคู่รวมถึงสถานีต่างๆจัดสรรอย่างเป็นระบบ มีรั้วกั้นตลอดสาย มีการขายตั๋วแบบอัตโนมัติ (Kiosk) รอบการเดินรถรวมถึงการควบคุมเวลาทำได้ดีกว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้เป็นที่น่าสนใจต่อภาคเอกชนในการเข้ามาใช้บริการ เหตุนี้มาเลเซียเป็นประเทศหนึ่งที่นิยมขนส่งสินค้าทางรถไฟ ในขณะที่ไทยนิยมใช้รถยนต์ในการขนส่ง และสามารถอัพเกรดราคาตั๋วได้สูงขึ้น แต่ขณะที่มาเลเซียฝั่งตะวันออกส่วนใหญ่ยังเป็นรางเดี่ยว (อยู่ขั้นตอนการพัฒนารางคู่)
เส้นทางรถไฟไทย
เส้นทางรถไฟมาเลเซีย
รูปแบบการขนส่งสินค้า
- ไทย การขนส่งสินค้าส่วนใหญ่นิยมใช้ รถบรรทุก รถพ่วง รถกระบะดัดแปลงเป็นหลัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะถนนในไทยมีสภาพดีและกว้างขวาง แต่ก็มีข้อเสียคือถนนรับน้ำหนักค่อนข้างมาก อาจจะมาจากการบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำให้รัฐต้องซ่อมบำรุงบ่อย อีกทั้งการจราจรบนท้องถนนค่อนข้างหนาแน่น และที่สำคัญการขนส่งส่วนใหญ่ดำเนินการโดยภาคเอกชนเป็นหลัก ทำให้รัฐขาดผลประโยชน์ด้านนี้ ยกเว้นภาษีน้ำมัน (แต่ก็ถูกเรียกเก็บกันถ้วนหน้า)
-
มาเลเซีย การขนส่งระหว่างเมืองนิยมใช้รถไฟเป็นหลัก ส่วนใหญ่ตัวเมืองกระจายออกไปตามเส้นทางหลักทำให้ง่ายต่อการขนส่งไปยังจุดหมายต่างๆ ข้อดีคือรัฐสามารถเก็บค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้มาก ในมาเลเซียการใช้รถพ่วงถือเป็นข้อห้าม ข้อเสียคือเอกชนได้ผลประโยชน์จากการขนส่งค่อนข้างน้อย สำหรับการขนส่งระหว่างประเทศ มาเลเซียมีท่าเรือกระจายตามเมืองต่างๆ ทำให้การขนส่งออกสู่ตลาดโลกไม่ต้องมารวมที่จุดศูนย์กลาง
ระบบขนส่งมวลชนในเมืองและต่างจังหวัด
ไทย การดำเนินกิจการต่างๆส่วนใหญ่เอกชนจัดตั้งกันเอง เช่น รถสองแถว วินมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ เป็นต้น ส่วนรัฐมีหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและควบคุม ข้อดีคือ สามารถสร้างรายได้แก่ชุมชน ข้อเสียคือรัฐขาดผลประโยชน์ และเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้ยาก เพราะถูกผูกขาดโดยภาคเอกชน
มาเลเซีย
การขนส่งส่วนใหญ่ บริหารโดยรัฐ เช่น รถเมล์ repid KL หรือรถไฟฟ้า (ในมาเลเซียไม่มีรถสองแถว) ข้อดีคือรัฐสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศได้ และสามารถปรับปรุงให้ทันสมัยได้ง่ายกว่า เพราะไม่ถูกผูกขาดโดยเอกชน
ปล.สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดในกระทู้นี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนตัว บางส่วนมาจากประสบการณ์ บางส่วนมาจากการสืบค้น
(มีต่อ)
ความแตกต่างด้านการพัฒนาบ้านเมืองระหว่างไทยกับมาเลเซีย
รูปแบบถนน
- ไทย เน้นการขยายเส้นทางให้กว้างขวาง บุกเบิกถนนใหม่ทุกปี ทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการสัญจรโดยใช้รถส่วนตัว แต่ไม่ค่อยสร้างทางด่วนระหว่างเมือง ทำให้รัฐบาลเสียโอกาสในการเรียกเก็บเงินจากทางด่วน
- มาเลเซีย เน้นการพัฒนาถนนเท่าที่จำเป็น ถนนเส้นรองต่างๆมักจะแคบกว่า ส่วนใหญ่เส้นรองไม่มีไหลทาง หากใช้เส้นทางรองการขับรถจะไม่ค่อยสะดวก แต่รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับทางด่วนเชื่อมต่อระหว่างเมือง ทำให้รัฐบาลสามารถเก็บค่าทางด่วนได้มหาศาล (แต่สำหรับรถจักรยานยนต์ใช้งานฟรี)
ถนนต่างจังหวัดในไทย
ถนน 4 เลน
ถนน 2 เลน
ถนนต่างจังหวัดในมาเลเซีย
ถนน higthway
ถนน 2 เลน
เส้นทางรถไฟ
- ไทย เน้นใช้รางเดิมที่มีอยู่ ทางรถไฟส่วนใหญ่ยังเป็นรางเดี่ยว ไม่ค่อยมีการพัฒนาด้านนี้มากนักหรือพัฒนาได้ช้า ทำให้เสียโอกาสในหลายๆด้าน เช่น การขนส่งสินค้าที่ล่าช้า รอบการเดินรถถูกจำกัด ปัญหาเหล่านี้ทำให้การรถไฟไม่ตอบโจทย์ภาคการขนส่งมากนัก ทำให้กลุ่มเป้าหมายหลักของการรถไฟคือ กลุ่มคนรากหญ้า ซึ่งโครงการร่างคู่อยู่ระหว่างการพัฒนา
- มาเลเซีย ทางรถไฟส่วนใหญ่เป็นรางคู่รวมถึงสถานีต่างๆจัดสรรอย่างเป็นระบบ มีรั้วกั้นตลอดสาย มีการขายตั๋วแบบอัตโนมัติ (Kiosk) รอบการเดินรถรวมถึงการควบคุมเวลาทำได้ดีกว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้เป็นที่น่าสนใจต่อภาคเอกชนในการเข้ามาใช้บริการ เหตุนี้มาเลเซียเป็นประเทศหนึ่งที่นิยมขนส่งสินค้าทางรถไฟ ในขณะที่ไทยนิยมใช้รถยนต์ในการขนส่ง และสามารถอัพเกรดราคาตั๋วได้สูงขึ้น แต่ขณะที่มาเลเซียฝั่งตะวันออกส่วนใหญ่ยังเป็นรางเดี่ยว (อยู่ขั้นตอนการพัฒนารางคู่)
เส้นทางรถไฟไทย
เส้นทางรถไฟมาเลเซีย
รูปแบบการขนส่งสินค้า
- ไทย การขนส่งสินค้าส่วนใหญ่นิยมใช้ รถบรรทุก รถพ่วง รถกระบะดัดแปลงเป็นหลัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะถนนในไทยมีสภาพดีและกว้างขวาง แต่ก็มีข้อเสียคือถนนรับน้ำหนักค่อนข้างมาก อาจจะมาจากการบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำให้รัฐต้องซ่อมบำรุงบ่อย อีกทั้งการจราจรบนท้องถนนค่อนข้างหนาแน่น และที่สำคัญการขนส่งส่วนใหญ่ดำเนินการโดยภาคเอกชนเป็นหลัก ทำให้รัฐขาดผลประโยชน์ด้านนี้ ยกเว้นภาษีน้ำมัน (แต่ก็ถูกเรียกเก็บกันถ้วนหน้า)
- มาเลเซีย การขนส่งระหว่างเมืองนิยมใช้รถไฟเป็นหลัก ส่วนใหญ่ตัวเมืองกระจายออกไปตามเส้นทางหลักทำให้ง่ายต่อการขนส่งไปยังจุดหมายต่างๆ ข้อดีคือรัฐสามารถเก็บค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้มาก ในมาเลเซียการใช้รถพ่วงถือเป็นข้อห้าม ข้อเสียคือเอกชนได้ผลประโยชน์จากการขนส่งค่อนข้างน้อย สำหรับการขนส่งระหว่างประเทศ มาเลเซียมีท่าเรือกระจายตามเมืองต่างๆ ทำให้การขนส่งออกสู่ตลาดโลกไม่ต้องมารวมที่จุดศูนย์กลาง
ระบบขนส่งมวลชนในเมืองและต่างจังหวัด
ไทย การดำเนินกิจการต่างๆส่วนใหญ่เอกชนจัดตั้งกันเอง เช่น รถสองแถว วินมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ เป็นต้น ส่วนรัฐมีหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและควบคุม ข้อดีคือ สามารถสร้างรายได้แก่ชุมชน ข้อเสียคือรัฐขาดผลประโยชน์ และเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้ยาก เพราะถูกผูกขาดโดยภาคเอกชน
มาเลเซีย
การขนส่งส่วนใหญ่ บริหารโดยรัฐ เช่น รถเมล์ repid KL หรือรถไฟฟ้า (ในมาเลเซียไม่มีรถสองแถว) ข้อดีคือรัฐสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศได้ และสามารถปรับปรุงให้ทันสมัยได้ง่ายกว่า เพราะไม่ถูกผูกขาดโดยเอกชน
ปล.สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดในกระทู้นี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนตัว บางส่วนมาจากประสบการณ์ บางส่วนมาจากการสืบค้น
(มีต่อ)