JJNY : เท้งเผยมีทีเด็ด ย้ำดีลแลกประเทศ│วิป 3ฝ่าย ถกเคาะเวลาซักฟอก│เงินบาทอ่อนค่า│ผู้พิพากษาสหรัฐชี้ปิด USAID อาจขัดรธน.

เท้ง เผยมีทีเด็ด อภิปรายอิ๊งค์ โวคนในครอบครัว ย้ำดีลแลกประเทศ แลกประโยชน์ส่วนตัว
https://www.matichon.co.th/politics/news_5098765
.
.
‘เท้ง’ เผยมีทีเด็ด อภิปรายอิ๊งค์ ไม่ใช่แค่คำว่า ‘บุคคลในครอบครัว’ แจงแค่เขียนเป็นทางการในญัตติ บอกเป็นไปได้ มีโยงไปถึง ‘ยิ่งลักษณ์’ ยันจะฉายให้เห็น ‘รบ.เพื่อไทย’ ดีลแลกประเทศเพื่อ ‘ชินวัตร’ เสี้ยม รอดู ‘นายกฯอิ๊งค์’ จะคุมเสียง-สั่ง รมต.ชี้แจงแทนได้หรือไม่
.
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเจรจาเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันนี้ ว่า อยากให้การอภิปรายเดินหน้าอย่างราบรื่น ซึ่งควรจะต้องมีข้อสรุปให้ได้ว่าจะอภิปรายในกรอบเวลากี่ชั่วโมง รวมถึงกติกาในการหักเวลาระหว่างกัน เช่น การประท้วงควรจะต้องไปหักเวลาในแต่ละฝ่าย เพื่อไม่ให้กินเวลาฝ่ายอื่น เพราะฉะนั้น ตอนนี้สิ่งที่ตนคาดหวังคืออยากให้หาข้อสรุปตรงกันให้ได้
.
ส่วนที่รัฐบาลมีมติให้เวลาฝ่ายค้าน 23 ชั่วโมง และฝ่ายรัฐบาล 7 ชั่วโมง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่ายังสามารถปรับยืดหยุ่นกันได้ แต่ส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการตั้งกรอบจำนวนวัน ที่ควรจะต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพในการประชุมมากที่สุด เช่น ไม่ควรจะต้องเลิกดึกเกินไปเพราะนายกรัฐมนตรีคงไม่สามารถชี้แจงได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องเลิกใกล้เที่ยงคืน
.
ท่านนายกฯ ก็คงรวบรวมประเด็นได้ไม่หมด อีกประการหนึ่งคือประชาชนที่กำลังรับฟังอยู่ทางบ้าน อาจจะรับฟังได้ไม่ทั่วถึง เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าหลักที่สำคัญถ้ารัฐบาลเปิดกว้าง ควรจะต้องยึดหลักว่าต้องให้อภิปรายอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างมากที่สุด” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
เมื่อถามว่าหากต่อรองเวลาฝ่ายค้านเป็น 25 ชั่วโมง จะรับได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนยังไม่อยากให้ข่าวก่อนถึงเวลา ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นการเสียมารยาทด้วย ยืนยันในหลักว่าเราสามารถปรับยืดหยุ่นกันได้เสมอ แต่หลักที่ควรจะมีร่วมกันคือการทำให้การอภิปรายครั้งนี้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ฝั่งรัฐบาลเองก็พูดเสมอว่าอยากให้ฝ่ายค้านอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ สำหรับตนการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์คือประชาชนสามารถติดตาม รับทราบข้อมูลข่าวสารได้อย่างถ้วนหน้า
.
เมื่อถามถึงสาเหตุของการเปลี่ยนชื่อในญัตติจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลในครอบครัว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คำว่าบุคคลในครอบครัวสามารถอภิปรายได้กว้างขึ้น ซึ่งธีมในการอภิปรายครั้งนี้คือคำว่าดีลแลกประเทศ หมายความว่าเรามองเห็นว่าพรรคเพื่อไทยเอาผลประโยชน์ของประเทศมาแลกกับผลประโยชน์ของบุคคลในครอบครัว เพราะฉะนั้น การเปลี่ยนชื่อจากนายทักษิณเป็นบุคคลในครอบครัว สำหรับพวกเราเองมองว่าเป็นการเปิดกว้างในการอภิปรายได้มากขึ้นด้วยซ้ำ
.
ในเรื่องของการใช้คำในการอภิปราย ในวันจริงผมเชื่อว่าจะมีคำอีกหลากหลาย นอกเหนือจากคำว่าบุคคลในครอบครัว การใช้คำว่าบุคคลในครอบครัวเป็นภาษาทางการ ที่ใส่เป็นภาษาเขียนไว้ในญัตติ แต่ผมคิดว่าเป็นคำที่ค่อนข้างมีความเหมาะสมดีแล้ว” นายณัฐพงษ์กล่าว
.
เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์กันว่าการใช้ของบุคคลในครอบครัว สามารถลากเอาญาติคนอื่นมาได้ด้วย เช่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้เห็นในการอภิปรายหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ แต่ก็อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ที่เรามองว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ รวมถึงการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ได้เอาผลประโยชน์ของประชาชนของประเทศเป็นตัวตั้ง แต่เอาผลประโยชน์ของบุคคลในครอบครัวชินวัตรเป็นตัวตั้ง
.
เมื่อถามว่าข้อมูลที่อธิบายลึกแค่ไหน นายณัฐพงษ์กล่าวว่า มีหลายส่วนที่ได้มา เราไม่เคยเปิดเผยผ่านสื่อมวลชนมาก่อน ยืนยันว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด
.
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า การอภิปรายในครั้งนี้ ถ้าจะเล็งเห็นผลถึงการลงมติถอดถอนนายกรัฐมนตรีเลย ต้องเรียนตามข้อเท็จจริงว่าเป็นไปได้ยาก แต่ข้อมูลที่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ตนเชื่อว่าจะใช้เป็นหลักฐานในการยื่นฟ้องร้องต่อไป ถ้านายกรัฐมนตรีไม่สามารถชี้แจงได้อย่างชัดเจน ข้อมูลหลักฐานในครั้งนี้มีแนวโน้มสูงที่จะนำไปสู่การยื่นถอดถอนได้ในอนาคต
.
เมื่อถามว่าอีกคนให้ฝ่ายค้านที่ถูกจับตาอีกคนคือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีการแบ่งเวลาอย่างไรบ้าง นายณัฐพงษ์กล่าวว่า มีการแบ่งกันอยู่แล้ว พรรคพลังประชารัฐที่ผ่านมาก็แสดงจุดยืนว่าจะขออภิปรายด้วย อย่างไรก็ต้องมีการจัดสรรเวลาอยู่แล้ว ส่วนภายในจะให้ใครมาเป็นผู้อภิปรายของพรรคพลังประชารัฐ เป็นเรื่องของแต่ละพรรค
.
นายณัฐพงษ์ยืนยันว่า จำนวนเสียงในการลงมติ จะสะท้อนส่วนสำคัญว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพมากน้อยขนาดไหน เพราะฉะนั้น ทุกคะแนนเสียงที่จะโหวตเห็นชอบให้กับนายกรัฐมนตรี จะเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถประเมินได้ว่าตกลงแล้ว นายกรัฐมนตรีสามารถควบคุมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลได้จริงหรือไม่ จะมอบหมายให้รัฐมนตรีชี้แจงแทนได้หรือไม่
.
เมื่อถามว่าจะฉายภาพให้เห็นถึงรอยร้าวพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาการดำเนินงานในฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างกฎหมายต่างๆ ที่ไม่สามารถเดินหน้าได้ พอพรรคร่วมรัฐบาลไม่เอา พรรคเพื่อไทยก็ต้องถอยตาม สิ่งต่างๆเหล่านี้ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความไม่ลงรอยกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว การอภิปรายในวันครั้งนี้ จะยิ่งเป็นการชี้ให้สังคมเห็นว่าปัญหาของรัฐบาลชุดนี้คือเรื่องนี้จริงๆ
.

.
วิป 3 ฝ่าย ถกเคาะเวลาซักฟอก “วิสุทธิ์” ชิ่งออกห้องประชุม บอกยังตกลงเวลาไม่ได้ ลั่นไม่ใช่พ่อค้าที่ต้องมาต่อรองราคา
https://ch3plus.com/news/political/morning/435480
.
การประชุมวิป 3 ฝ่าย ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เป็นประธานการประชุม โดยมีตัวแทนจากวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และ คณะรัฐมนตรี เข้าร่วม
.
โดยนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะผู้แทนฝ่ายรัฐบาล กล่าวว่า วานนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้แจ้งว่าคณะรัฐมนตรีมีความพร้อมมาชี้แจงต่อสภาฯ ในวันที่ 24 - 25 มีนาคม และลงมติในวันที่ 26 มีนาคม เนื่องจากวันที่ 27 มีนาคม นายกรัฐมนตรีมีภารกิจประชุมคณะรัฐมนตรี
.
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เมื่อวานที่ประชุมพรรคเพื่อไทยได้หารือข้อเสนอของวิปฝ่ายค้าน ในการขออภิปราย 30 ชั่วโมง ซึ่งได้ข้อสรุปว่า เราให้ได้ 23 ชั่วโมง ถือว่ามากที่สุดแล้ว เพราะหากอภิปรายคนละครึ่งชั่วโมง จะสามารถอภิปรายได้ 46 คน แต่ถ้าคนละ 1 ชั่วโมง ก็จะได้ 23 คน ส่วนหากการอภิปรายมีการพาดพิงรัฐมนตรีหรือบุคคลใด ก็ควรจะมีเวลาในการชี้แจง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย จะใช้เวลา 7 ชั่วโมง ซึ่งถ้าหากใช้เวลาอภิปราย 2 วัน พรรคเพื่อไทยก็ยินดีที่จะมาร่วมประชุมตั้งแต่เวลา 08.00 น. ทุกคนพร้อมที่จะมาเป็นองค์ประชุมให้ จึงขอยืนยันในหลักการเดิม เป็นการถอยมากที่สุดแล้ว มากกว่านี้คงไม่ได้แล้ว เพราะหากประชุมตั้งแต่ 08.00 น. จะใช้เวลาทั้งหมด 32 ชั่วโมง ก็ถือว่าเยอะเกินแล้ว
.
ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านยังเห็นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจถือว่ามีความสำคัญในการตรวจสอบ จึงขอใช้เวลาให้มากที่สุด แต่จะเป็นกี่วัน ก็สามารถพูดคุยกันได้ แต่ขอฝ่ายรัฐบาลไม่บิดเวลาของฝ่ายค้านมากจนเกินไป และดูจะไม่เป็นธรรม หากฝ่ายรัฐบาลเป็นคนกำหนดเวลาว่าจะให้เท่านั้นเท่านี้ เพราะว่าฝ่ายรัฐบาลไม่ใช่คนเตรียมข้อมูลในการอภิปราย แต่ฝ่ายค้านเป็นคนเตรียมข้อมูล ส่วนนายกรัฐมนตรีต้องการเวลาเท่าไหร่ เราก็เคารพ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ฝ่ายรัฐบาลก็ให้เกียรติในเนื้อหาที่ฝ่ายค้านเตรียมมาเสมอ
.
ต่อมาเมื่อเวลา 10.45 น. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล เดินจากห้องประชุมวิป 3 ฝ่าย หารือกรอบเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังรัฐบาลเคาะให้อภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 24 - 25 มีนาคม และลงมติ ในวันที่ 26 มีนาคม
.
โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ประชุมยังไม่สามารถตกลงเรื่องกรอบเวลากันได้ แต่เรื่องของวันเป็นที่ยุติแล้ว เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอมาพร้อมนำเอกสารข้อมูล การอภิปรายไม่ไว้วางใจในอดีตตั้งแต่สมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เพื่อยืนยันว่าในอดีตที่ผ่านมาเคยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 1 วันและ 2 วัน พร้อมกล่าวว่า เหตุผลที่ตนออกมาจากห้องประชุมก่อน เพราะตนไม่ใช่พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องมานั่งต่อราคากัน
.

.
ค่าเงินบาทอ่อนค่า 33.62 บาท จับตาราคาทองคำ พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
https://www.dailynews.co.th/news/4512645/
.
ค่าเงินบาทอ่อนค่า 33.62 บาท จับตาราคาทองคำ พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
.
ค่าเงินบาทอ่อนค่า 33.62 บาทต่อดอลลาร์ จับตาทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก หลังพุ่งทำสถิติแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
วันที่ 19 มี.ค. น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 33.60-33.62 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้ (09.26 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.58 บาทต่อดอลลาร์
.
โดยเงินบาทอ่อนค่ากลับมาตามจังหวะการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก หลังจากที่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ประกอบกับเงินดอลลาร์มีปัจจัยบวก (จากตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด) เข้ามาช่วยชะลอแรงก่อนผลการประชุม FOMC ในคืนนี้  
.
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.50-33.75 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ประเด็นเกี่ยวกับสงครามการค้าของสหรัฐ และคู่ค้าสำคัญ ผลการประชุม BOJ และผลการประชุมเฟดในคืนนี้ 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่