พ่อแม่ทวงเงินยากที่สุดแล้ว มันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาค้ำคอ
เรื่องคือเราเป็นคนอดออม ทำงานเสริมตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่เคยเหลือเงินเก็บเลย เพราะโดนพ่อแม่ยืมไปแล้วไม่เคยได้คืน
ตั้งแต่ป.2 ยันปี 2 เงินเก็บก็ยัง 0 บาท เรียนจบก็ยังไม่มีค่ารถไปทำงานด้วยซ้ำ แววตั้งตัวไม่มีเลย
ส่วนตัวคิดว่า "ยืม" ก็คือยืม ก็ต้องคืน ส่วนที่ "ขอ" ก็คือขอ ให้แล้วให้เลย
ถ้ายืมไม่คืนมันเป็นปมนะ มันเสียความไว้ใจกับพ่อแม่ตัวเอง
ช่วงหลังเราก็เลยแกล้งไม่มีเงิน แกล้งจน
(เช่น ไม่อัพรูปกินเที่ยวหรือชีวิตดี๊ดีให้ที่บ้านรู้, ไปเปิดบัญชีใหม่ลับๆ, แยกกระเป๋าอย่างเด็ดขาด, ทำตัวให้จนที่สุด, บอกไปว่ามีภาระเหมือนกัน, ให้ยืมนิดเดียวพอ)
จนมีเงินเก็บหลักแสน ทางเลือกชีวิตเยอะขึ้น ได้งานดีๆทำ
ในเมื่อความกตัญญูค้ำคอ คนเป็นลูกไม่มีสิทธิ์ทวงเงิน ก็เลยหาวิธีทำให้เงินไม่ออกจากเราแต่แรก
กะว่าถ้าตั้งตัวได้ จะได้ช่วยแบบหายใจคล่องๆ หน่อย (ขืนให้ตลอดจนไม่เหลืออะไร เดี๋ยวก็ตุยกันหมดบ้านพอดี)
คิดแบบนี้เป็นลูกที่แย่ไหมคะ ถ้าคุณเป็นพ่อเป็นแม่แล้วรู้เรื่องนี้จะเสียใจไหม
ถ้าเราแกล้งจนเพื่อป้องกันพ่อแม่ยืมเงิน (ซึ่งก็ไม่เคยได้คืน) จะบาปไหม
เรื่องคือเราเป็นคนอดออม ทำงานเสริมตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่เคยเหลือเงินเก็บเลย เพราะโดนพ่อแม่ยืมไปแล้วไม่เคยได้คืน
ตั้งแต่ป.2 ยันปี 2 เงินเก็บก็ยัง 0 บาท เรียนจบก็ยังไม่มีค่ารถไปทำงานด้วยซ้ำ แววตั้งตัวไม่มีเลย
ส่วนตัวคิดว่า "ยืม" ก็คือยืม ก็ต้องคืน ส่วนที่ "ขอ" ก็คือขอ ให้แล้วให้เลย
ถ้ายืมไม่คืนมันเป็นปมนะ มันเสียความไว้ใจกับพ่อแม่ตัวเอง
ช่วงหลังเราก็เลยแกล้งไม่มีเงิน แกล้งจน
(เช่น ไม่อัพรูปกินเที่ยวหรือชีวิตดี๊ดีให้ที่บ้านรู้, ไปเปิดบัญชีใหม่ลับๆ, แยกกระเป๋าอย่างเด็ดขาด, ทำตัวให้จนที่สุด, บอกไปว่ามีภาระเหมือนกัน, ให้ยืมนิดเดียวพอ)
จนมีเงินเก็บหลักแสน ทางเลือกชีวิตเยอะขึ้น ได้งานดีๆทำ
ในเมื่อความกตัญญูค้ำคอ คนเป็นลูกไม่มีสิทธิ์ทวงเงิน ก็เลยหาวิธีทำให้เงินไม่ออกจากเราแต่แรก
กะว่าถ้าตั้งตัวได้ จะได้ช่วยแบบหายใจคล่องๆ หน่อย (ขืนให้ตลอดจนไม่เหลืออะไร เดี๋ยวก็ตุยกันหมดบ้านพอดี)
คิดแบบนี้เป็นลูกที่แย่ไหมคะ ถ้าคุณเป็นพ่อเป็นแม่แล้วรู้เรื่องนี้จะเสียใจไหม