คนหนึ่งเสียชีวิต อีกคนแค่ออกจากราชการ ใครได้ใครเสีย?

 
จากกรณี ที่ตำรวจ สภ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยสามารถจับกุมตัวได้ 3 ราย และอยู่ระหว่างหลบหนีอีก 1 ราย หลังตัวแทนบริษัทประกันภัย จากบริษัทต่างๆ และบริษัทประกันภัยกลาง เข้าร้องเรียนที่ ภ.จว.สกลนคร เนื่องจากพบความผิดปกติ ในการทำประกันภัย ในคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น พบพิรุธหลายประการ ที่เชื่อว่า น่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง เพื่อหวังเงินประกัน จนนำมาสู่การขอหมายจับและจับกุมผู้ต้องหา
13.00 น. วันที่ 9 มีนาคม 2568 ที่ห้องประชุม สภ.ศรีวิชัย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร พ.ต.อ.จิรโรจน์ โรจน์ภานุพัชร์ รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร เรียกประชุมด่วนชุดสืบสวน ภ.จว.สกลนคร สภ.วานรนิวาส และ สภ.ศรีวิชัย เร่งคลี่คลายคดีสำคัญ หลังจากเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2568 ได้มีตัวแทนบริษัทประกันภัยจากบริษัทต่างๆ และบริษัทประกันภัยกลาง ได้เดินทางมาที่ ภ.จว.สกลนคร เพื่อยื่นหนังสือ ให้ตรวจสอบความผิดปกติของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2568 เป็นเหตุให้นายวิเชียร จิตเย็น อายุ 32 ปี ที่อยู่ 150 ม.15 ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุ ว่ามีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุหรือ ไม่อย่างไร
โดยพบข้อพิรุธหลายประเด็น บริษัทประกันภัย ได้ตรวจสอบรถยนต์ทั้งสามคันแล้วว่า มีการทำประกันภัยไว้หลายกรมธรรม์ และหลายบริษัท ในระยะเวลาก่อนเกิดเหตุไม่นานคือ ภาคบังคับ 22 กรมธรรม์ วงเงินประกันภัยที่น่าจะได้รับ ประมาณ 14 ล้านบาท ซึ่งต่อมา สืบสวน ภ.จว.สกลนคร ได้ทำการสืบสวนจนพบความผิดปกติ และนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย โดยสามารถจับกุมได้เมื่อวานนี้ 3 ราย คือ นายสมศักดิ์ โวเบ้า ชาวอำเภอพังโคน สกลนคร, นายพีรพัฒน์ รักกุศล, นายสกล สอนแก้ว ชาวอำเภอวานรนิวาส สกลนคร ส่วนนายพรชนก อ่อนสุระทุม อยู่ระหว่างหลบหนี ตร.กำลังตามล่าตัว โดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พ.ต.อ.วีระศักดิ์ พิมพ์มีลาย รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการร้องเรียน จากตัวแทนบริษัทประกันภัยหลายแห่ง พล.ต.ต.สมจิตร เหล่ามงคลนิมิต ผบก.ภ.จว.สกลนคร ได้แต่งตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนทันที จนนำมาสู่การออกหมายจับ และจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น คดีนี้น่า จะเป็นการฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากบาดแผลของผู้เสียชีวิต มีร่องรอยคล้ายถูกทำร้าย หรือร่องรอยเกิดจากอุบัติเหตุ ก็ยังไม่ชัดเจน ซึ่งยังคงต้องรอผลการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนมากกว่านี้ ส่วนผู้ร่วมขบวนการนั้นน่าจะมีมากกว่า 4 คนที่ออกหมายจับไปแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังบ้านผู้เสียชีวิต ที่ บ.สุวรรณคีรี ม.15 ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไปพบนางจันที อายุ 56 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต บอกกับผู้สื่อข่าวว่า นายวิเชียร ผู้ตาย ซึ่งเป็นลูกชายของตนนั้น มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดจนมีอาการก้าวร้าว มักก่อเหตุทำร้ายพ่อแม่และหลานชาย ที่เป็นลูกของนางสาวบัวเรียนพี่สาว อยู่เป็นประจำ จนได้เคยนำตัวเข้ารักษามาแล้ว วันที่นายวิเชียรเสียชีวิตนั้น ตอนบ่ายมีคนชื่อเมฆ ซึ่งเป็นหลานเขยมารับไป โดยที่ตนเองก็ไม่รู้ว่าไปไหน จนกระทั่งช่วงดึกนางสาวบัวเรียน พี่สาวผู้ตายบอกกับตนว่า มีคนมาโทรมาบอกว่า นายวิเชียรตกรถจนเสียชีวิต ส่วนเรื่องประกันอะไรต่างๆ นั้น ตนเองไม่รู้ ทุกอย่างลูกสาวตนเป็นคนจัดการ
จากการสอบสวน ทราบว่า นายสมศักดิ์ อายุ 56 ปี ขับรถยนต์กระบะ ป้ายทะเบียน กพ 2576 สกลนคร โดยมีนายวิเชียรฯ ผู้ตายนั่งโดยสารกระบะหลังไปด้วย โดยขับจากบ้านนาบัวมุ่งหน้าไปทาง อ.เจริญศิลป์ ขณะเดียวกันนั้น มีนายพรชนก อายุ 41 ปี ขับรถ ป้ายทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ ขับตามหลังรถของนายสมศักดิ์ไปในทางเดียวกัน โดยได้ลากจูงรถยนต์ ป้ายทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี ไปด้วย และมีนายพีรพัฒน์ เป็นผู้ควบคุมรถ ขณะเกิดเหตุ นายวิเชียรฯ ผู้เสียชีวิต ได้พลัดตกจากหลังรถกระบะ นายพรชนก ที่ขับรถกระบะตามหลังมา เมื่อเห็นมีวัตถุตกหล่นจากรถคันหน้า จึงได้หักพวงมาลัยรถหลบพ้นร่างนายวิเชียรฯ แต่รถยนต์ที่ถูกลากจูงไป ได้ทับร่างของนายวิเชียรฯ เมื่อขับรถไปได้ประมาณ 500 เมตร นายสมศักดิ์ ที่ขับกระบะ ที่มีนายวิเชียรอยู่ด้านหลังกระบะ ได้จอดรถเพื่อดูนายวิเชียร แต่ที่หลังรถกระบะ ไม่มีนายวิเชียรอยู่แล้ว จึงได้กลับไปยังที่เกิดเหตุ ก็พบว่านายวิเชียรฯ เสียชีวิตแล้ว พ.ต.ท.นันท์มนัส โพธิ์ศรี สว.สอบสวนฯ สภ.วานรนิวาส จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายสมศักดิ์ นายพรชนก และนายพีรพัฒน์ ว่าขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยผู้ต้องหาทั้งสาม ให้การรับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหา
จากการสอบถาม นางสาวบัวเรียน อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนายวิเชียร ผู้ตาย จึงทราบว่าก่อนเกิดเหตุประมาณเดือนตุลาคม 2567 นายสกล อายุ 38 ปี ชาว ต.คูสะคาม อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ซึ่งเป็นญาติ ได้เข้ามาช่วยเหลือ เกี่ยวกับเงินประกันภัยของบิดา จึงได้พูดคุยปรับทุกข์กับนายสกล ถึงพฤติกรรมของนายวิเชียร ผู้ตาย ที่ชอบทำร้ายบิดามารดาและบุตรชายของ น.ส.บัวเรียน จึงได้พูดออกไปด้วยอารมณ์โมโหว่า “ช่วยเอามันไปตายไหนก็ได้เพื่อสั่งสอน” โดยไม่ได้มีเจตนาทำตามที่พูด
หลังจากนั้นนายสกล ได้โทรศัพท์มาหา น.ส.บัวเรียน บอกว่า จะพานายวิเชียรไปสั่งสอน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ต่อมาในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาก่อนเที่ยงวัน นายสกล ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า จะมาเอานายวิเชียรผู้ตาย ไปสั่งสอน ซึ่งวันนั้น ตนไม่ได้อยู่บ้าน ไปตัดมันสำปะหลัง คาดว่า นายสกล ได้มารับนายวิเชียร ไปสั่งสอน จากนั้นเวลา 23.00 น. ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า นายวิเชียร ได้เกิดอุบัติเหตุตกจากรถยนต์เสียชีวิต เมื่อเดินทางไปถึงโรงพยาบาลได้ยืนยันว่าใช่ เป็นน้องชายจริง และไม่ติดใจสาเหตุการตาย และไม่ต้องการชันสูตรพลิกศพ เชื่อว่าการตาย เกิดจากนายสกล เป็นผู้กระทำแน่นอน และได้มารับศพที่โรงพยาบาลเพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และได้เดินทางไปชี้ตัวผู้ต้องหา ที่ สภ.วานรนิวาส โดยยืนยันตัวตนผู้ต้องหา และมีการตกลงกันว่า จะชดใช้เงินเพื่อช่วยเหลือ จำนวน 150,000 บาท ให้กับน.ส.บัวเรียน
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2568 ขณะที่ น.ส.บัวเรียน อยู่ที่บ้านพัก ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนาย มาสอบถามรายละเอียด เกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายวิเชียร น.ส.บัวเรียน สำนึกผิด และสงสาร ที่นายวิเชียร ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ เสียชีวิตโดยไม่เป็นธรรม เนื่องจากถูกนายสกลกับพวกฆ่าตาย น.ส.บัวเรียนจึงเล่ารายละเอียดเหตุการณ์ความจริงที่เกิดขึ้น เพื่อประกอบการดำเนินคดี
14.00 น.วันที่ 12 มี.ค. 2568 ที่ สภ.วานรนิวาส จ.สกลนคร พล.ต.ต.สมจิตร เหล่ามงคลนิมิต ผบก.ภ.จ.สกลนคร และ พ.ต.อ.พงศ์พัชร์ แจ้งหมื่นไวย์ รอง ผบก.ภ.จ.สกลนคร เดินทางไปร่วมสอบปากคำ พ.ต.ท.นันท์มนัส โพธิ์ศรี สว.(สอบสวน) สภ.วานรนิวาส พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีอุบัติเหตุรถชนกัน จนเป็นเหตุให้นายวิเชียร จิตเย็น เสียชีวิต และถูกกลุ่มผู้ต้องหาซัดทอดว่า เป็นหนึ่งในผู้ร่วมวางแผนฆ่านายวิเชียร เนื่องจากเป็นคนไปซื้อกรมธรรม์รถยนต์หลายสิบกรมธรรม์ จากบริษัทประกันภัยในพื้นที่ ตำรวจมีคลิปกล้องวงจรปิดจากบริษัทต่างๆ เป็นหลักฐานมัดตัว ก่อนสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหา ตำรวจนำตัวนายพรชนก หรือเก่ง อ่อนสุระ มาชี้ตัว พ.ต.ท.นันท์มนัส เพื่อยืนยันว่า อยู่ร่วมขบวนการได้อย่างถูกต้อง จากนั้น นำตัวนายพรชนก ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสว่างแดนดิน
ขณะที่ พ.ต.ท.นันท์นมัส หลังเปลี่ยนสถานะจากพนักงานสอบสวน ตกเป็นผู้ต้องหา ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นตาย โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ถึงกับนั่งคอตก หน้าถอดสี เนื่องจากก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า พ.ต.ท.นันท์มนัส แต่งกายครึ่งท่อน สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว นุ่งกางเกงขายาวสีกากี เดินทางมารับทราบคำสั่ง ให้ย้ายไปประจำ สภ.ศรีวิชัย อ.วานรนิวาส คาดว่า ชุดสืบสวนจะออกอุบาย ให้เดินทางมาที่ สภ.วานรนิวาส เพื่อจะแจ้งข้อกล่าวหาและคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดี เนื่องจากเกรงว่า พ.ต.ท.นันท์มนัส อาจหลบหนี หรือเข้าไปยุ่งเหยิง ทำลายพยานหลักฐาน
ต่อมาเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ นำตัว พ.ต.ท.นันท์มนัส ไปค้นห้องพักในแฟลตตำรวจ ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหลัง สภ.วานรนิวาส อายัดเอกสารต่างๆ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก พร้อมโทรศัพท์มือถือ เพื่อนำไปตรวจสอบว่าได้ติดต่อกับใครบ้าง ขณะเดียวกัน ได้ตรวจค้นห้องทำงานของ พ.ต.ท.นันท์มนัส ภายใน สภ.วานรนิวาส ด้วย จากนั้น นำตัวเข้าห้องขัง เปลี่ยนเสื้อจากเสื้อยืดสีขาว เป็นเสื้อยืดสีน้ำเงิน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าเกี่ยวข้องกับการฆ่าจัดฉากอำพราง หวังเงินประกันชีวิตด้วยหรือไม่ พ.ต.ท.นันท์มนัส ตอบคำถามเพียงสั้นๆ ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย
พล.ต.ต.สมจิตร เหล่ามงคลนิมิต ผบก.ภ.จ.สกลนคร กล่าวว่า จากการสอบถาม พ.ต.ท.นันท์มนัส ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ให้การอ้างว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการจัดฉากฆ่า ตามที่ผู้ต้องหารายอื่นซัดทอด แต่ตำรวจเชื่อว่า คดีนี้ ก่อเหตุอย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมายหรือบาปกรรม มีหลักฐานและพยานแน่นหนาอยู่แล้ว ส่วนมูลเหตุที่ตำรวจสนใจคดีนี้ เนื่องจากบริษัทประกันภัย ตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบเหตุจากรถได้มาพบเพื่อร้องเรียน ให้เหตุผลว่า วงเงินประกันสูงเกินไป กรมธรรม์มีมากถึง 22 กรมธรรม์ น่าจะมีเงื่อนงำ เป็นสาเหตุของการจับกุม และยังสั่งให้ขยายผล รื้อฟื้นไปถึงคดีจราจรเก่าๆ ที่มีผู้เสียชีวิตอีกหลายคดีว่า เป็นการจัดฉากฆ่า หวังเงินประกันด้วยหรือไม่ ในวันที่ 13 มี.ค.2568 จะนำตัว พ.ต.ท.นันท์มนัส ไปขออำนาจศาลฝากขัง และจะมีคำสั่ง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่