พบเจ็ตหลุมดำที่ยาวทำลายสถิติฮะ

กระทู้สนทนา
เป็นที่ทราบกันดีว่าหลุมดำนั้นคือวัตถุที่มีแรงโน้มถ่วงมหาศาลที่สามารถดูดกลืนทุกสรรพสิ่งไม่เว้นแม้แต่แสงลงไปสู่จุดศูนย์กลางได้ ซึ่งเราไม่สามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของวัตถุที่ร่วงหล่นไปในหลุมดำผ่านเส้นสมมติที่เรียกว่า ‘ขอบฟ้าเหตุการณ์’ (Event Horizon) ได้เลย แต่ทว่าหากสสารนั้น ไม่ว่าจะเป็นดาวฤกษ์ หรือกลุ่มแก๊สไฮโดรเจน มีปริมาณมากพอไปถึงจุด ๆ หนึ่ง ก็จะทำให้สสารดังกล่าววนรอบหลุมดำด้วยความรวดเร็วเสียจนสสารนั้นกลายเป็นพลาสม่าที่มีพลังงานสูงมากและเริ่มเรืองแสงออกมารอบ ๆ ขอบฟ้าเหตุการณ์
.
จนกระทั่งสนามแม่เหล็กของหลุมดำได้เหนี่ยวนำให้พลาสม่าเลี้ยวเบนและพุ่งไปยังขั้วเหนือและใต้ของหลุมดำ คล้ายกับการที่สนามแม่เหล็กของโลกได้เบี่ยงเบนอนุภาคมีประจุจากดวงอาทิตย์ไปยังบริเวณขั้วโลกจนเกิดแสงเหนือแสงใต้ แต่ในกรณีของหลุมดำนี้ สนามแม่เหล็กกลับทรงพลังมากพอที่จะทำให้พลาสม่าพลังงานสูงพุ่งออกไปในห้วงอวกาศอย่างรุนแรง ถึงขนาดที่ว่าล่าสุดมีการตรวจพบว่าพบเปลวพลังงานที่ยาวกว่า 24 ล้านปีแสง พุ่งออกมาจากหลุม ณ ใจกลางกาแล็กซี่ที่มีชื่อว่า ‘อัลคีโอเนียส’ (Alcyoneus) เมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ทำลายสถิติเป็นเปลวพลังงานที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในประวัติศาสตร์
.
ตามปกติแล้วเปลวพลังงาน หรือ นักดาราศาสตร์เรียกว่า ‘เจ็ตสัมพัทธ์’ (Relativistic Jet) ที่มาจากดาวหลุมดำนั้น จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณไม่กี่ร้อยกี่พันปีแสงเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น เจ็ตจากหลุมดำ M87 ซึ่งเป็นหลุมดำที่เราสามารถถ่ายรูปได้สำเร็จเป็นครั้งแรกนั้น มีความยาวเจ็ตประมาณ 5,000 ปีแสงเท่านั้น น้อยกว่าเจ็ตที่เราเพิ่งค้นพบถึง 4,800 เท่า โดยเจ็ตดังกล่าวนั้นมีความยาวมากกว่า 24 ล้านปีแสง และเพื่อให้เห็นความใหญ่โตของมันมากขึ้น หากเราลองเปรียบเทียบขนาดกาแล็กซี่ทางช้างเผือกของเราที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 100,000 ปีแสง ก็จะพบว่าเจ็ตนี้ก็ยังมีความยาวมากถึง 240 เท่าอยู่ดี
.
ถึงขนาดที่ว่าเจ็ตจากอัลคลีโนเนียสนี้ทะลุไปยังห้วงอาณาเขตของอวกาศที่เรียกว่า ‘เดอะ วอยด์’ (The Void) ซึ่งเป็นช่องว่างกว้างใหญ่ไพศาลที่อยู่ระหว่างกลุ่มกระจุกกาแล็กซี่ ลองนึกภาพดูว่ากาแล็กซี่ทุกแห่งหนในจักรวาลของเรานั้นเกาะกลุ่มกันเหมือนสายธารที่โยงใยไปมาในห้วงอวกาศ คล้ายกับใยแมงมุมที่สุกสกาวไปด้วยแสงสว่างจากดาราจักรหลายแสนล้านแห่ง ในขณะที่ในเดอะวอยด์นั้นคือพื้นที่ว่างเปล่า หนาวเหน็บ ไร้ซึ่งไออุ่นจากดาวฤกษ์ใด ๆ จนเราอาจเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่มีอะไรดำรงอยู่เลยมาเป็นเวลาหลายพันล้านปี แต่ทว่า เจ็ตจากหลุมดำอัลคลีโนเนียส กลับทะลุทะลวงเข้าไปในเดอะวอยด์และมอบแสงสว่างให้กับพื้นที่ว่างเปล่านั้นได้
.
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่การค้นพบนี้ได้สร้างความฉงนให้กับนักดาราศาสตร์เป็นจำนวนมาก เพราะว่าพื้นที่เดอะวอยด์นั้นไม่ควรจะมีอะไรดำรงอยู่เลยเสียด้วยซ้ำ ซึ่งหนึ่งในสมมติฐานที่ได้รับการเสนอมา ก็คือตอนที่หลุมดำจากกาแล็กซี่อัลคลีโนเนียสเริ่มปลดปล่อยเปลวพลาสม่าพลังงานสูงเมื่อหลายพันล้านปีก่อนนั้น เดอะวอยด์ ยังไม่ได้กว้างใหญ่ขนาดนี้ เพราะจักรวาลยังคงมีขนาดที่เล็กอยู่ ตามอัตราการขยายตัวของจักรวาลที่ยังไม่ได้มากเท่าในปัจจุบัน ทั้งในอดีตจักรวาลยังมีความหนาแน่นของสสารมากกว่านี้ถึง 10 เท่า ซึ่งอาจส่งผลให้มีอะไรตกไปในหลุมดำมากขึ้นตามไปด้วย
.
โดยพลังงานจากเจ็ตจากหลุมดำนี้นั้นทรงพลังมากพอที่จะรบกวนกลุ่มแก๊สไฮโดรเจนที่อยู่ในอวกาศได้ จากเดิมที่นักดาราศาสตร์คิดว่ามีเพียงแค่การระเบิดของดาวฤกษ์หรือซูเปอร์โนวาเท่านั้นที่จะรบกวนกลุ่มแก๊สนี้ได้ จนอาจกล่าวได้ว่าเจ็ตจากหลุมดำ ณ ใจกลางกาแล็กซี่อัลคลีโนเนียสเปลี่ยนแปลงความเข้าใจเรื่องเจ็ตจากหลุมดำไปตลอดกาล ว่าเจ็ตสามารถมีขนาดที่ใหญ่โตมหึมามากกว่า 24 ล้านปีแสงได้ แถมยังปลดปล่อยพลังงานได้อย่างต่อเนื่องและยาวนานอีกด้วย เหมาะสมกับชื่อ ‘อัลคลีโนเนียส’ ชื่อยักษ์ตามปกรณัมกรีก ซึ่งเป็นลูกของไกอาเทพีผู้ให้กำเนิดโลกและจักรวาล
.
โมเดลจำลองความมหึมาของเจ้ตหลุมดำนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่