ว่าด้วยเรื่องทฤษฎีเรื่องวิวัฒนากาวของมนุษย์ และ สิ่งมีชีวิต

มนุษย์เราเกิดมาจากสัตฝ์เซลเดียวแล้ววิวัฒนาการขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาเป็นมนุษย์ในปัจจุบัน แล้วอยู่ดีๆผมก็นึกถึง ทฤษฎีอันนึง
มุมมองของสิ่งมีชีวิตและมิติที่รับรู้ได้ผ่านมุมมองแต่ละอย่าง เริ่มจาก
1.ไวรัส นั้นเป็นเหมือนสิ่งกึ่งมีชีวิตแล้วเพราะมีโครงสร้างทางกายภาพ และ ขยายพันธุ์หากแต่การรับรู้ของมันจะมองเป็นมิติที่ 1
2.สิ่งมีชีวิตเซลเดียว การพัฒนาโครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้นทำให้มันมีการตรวจจับแรงกระทำจากภายนอกโดย โดยมุมมองของมันคือมิติที่ 2
3.สิ่งมีชีวิตหลายเซลที่ไม่มีระบบประสาทเช่นพวกฟองน้ำทะเล แมงกระพรุน สิ่งมีชีวิตพวกนี้อาจจะไม่ได้รับรู้ถึงการมีเวลาโดยมุมมองของมันคือมิติที่ 3
4.สิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการจนสามารถรับรู้ถึงเวลาได้หรือสัตว์หลายๆตัวที่เรารู้จักในปัจจุบัน คือมิติที่ 4

ในพวกสิ่งมีชีวิตที่ได้กล่าวไว้ข้างบนที่เราสามารถตรวจจับหรือเข้าใจมันเนื่องจากเราฮยู่ในมิติที่ 4 โดยถึงตรงนี้มนุษย์อาจจะเป๋นสิ่งมีชีวิตที่กำลังวิวัผฒนาการเพื่อเข้าไปอาศัยอยู่ในมิติที่ 5 การวิวัฒนาการของมนุษย์นั้นอาจจะมาจากเทคโนโลยี การที่มนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีนั้นอาจจะมาจากสัญชาติญานและ วิวัฒนาการมาเรื่อยๆโดยเราไม่ได้สังเกตุ แม้ศักยภาพของมนุษย์จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก แต่ถ้าหากมองย้อนกลับไปในอดีตมนุษย์ก็กำลัง วิวัฒนาการผ่านความรู้และเทคโนโลยีมาเริ่อยๆ โดยมนุษย์ไม่รู้ตัวเพราะจริงๆแล้วการวิวัฒนาการล้วนมาจากภายนอกทั้งสิ้นตั้งแต่สิ่งมีชีวิตเซลเดียวจนถึงปัจจุบัน และ สสารคือสิ่งที่มีอยู่ประมาณ 5% เท่านั้นเพราะอีก 95% ที่เหลืออาจจะอยู่ในมิติที่สูงกว่า ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ

ปล.ภายนอกในที่นี้คือ ปฏิกริยาเคมี และ เทคโนโลยีก็คือปฏิกริยาเคมีชนิดหนึ่งเหมือนกัน


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่