สวัสดีผู้ใช้เว็บไซต์ Pantip ทุกท่านนะครับ
วันนี้ผมมีเรื่องอยากจะมาเล่าสู่กันฟังครับ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "รักครั้งแรก" ของตัวกระผมเอง.
อาจจะเขียนและเรียบเรียงภาษาได้ไม่สวยงามมาก แต่จะพยายามถ่ายทอดเรื่องราวและความรู้สึกให้ได้มากที่สุดนะครับ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ.
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณผมอยู่ มัธยมต้น (ย้อนไปนานนิดนึง) ผมก็เป็นเด็กที่จะเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น อยากรู้ อยากลองสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะความรักครับผมเป็นเด็กชายคนนึงที่เห็นเพื่อนๆเริ่มมีแฟน มีความรักกันก็เริ่มไฝ่หา อยากจะมีความที่หวานสดชื่นเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆบ้าง... จนมาวันนึงมี ผู้หญิงคนนึงขอแอด Facebook มา และเธอก็เป็นฝ่ายที่ทักมาก่อน ยอมรับครับว่าตอนนั้นจิตใจมันฟูมาก เบ่งบานมาก (ตามประสาคนไม่เคยมีความรักอะเนาะ) คุยแนะนำตัวกันไปมาจนมาได้รู้ว่าเธอเป็นรุ่นน้อง ซึ่งเรียนอยู่ โรงเรียนหญิงล้วน ประจำจังหวัดของผมนั่นเอง ผมตัดสินใจส่องเฟสของน้องเค้าดู น้องคนนี้น่ารักมากๆๆในสายตาของผม ณ ตอนนั้น // ซึ่งนับเวลาตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ผ่านมาได้ 13 ปี แล้ว // แต่ผมยังคงจำรูปโปรไฟล์ของน้องเค้าได้แม่นจนถึงทุกวันนี้ เป็นรูปมุมข้าง น้องผมยาวสีดำ ดัดฟัน ผิวขาว ผมยอมรับว่าเริ่มชอบน้องหลังจากที่เห็นรูปโปรไฟล์ และรูปอื่นๆที่น้องเค้าลง รอยยิ้มน้องดูเป็นมิตร และเฟรนด์ลี่ อย่างที่เห็นและรู้สึกได้เลยครับ หลังจากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีความสุขมากๆสำหรับผมในวัย เด็กน้อย เบิกบานเหมือนดอกไม้ที่ได้รับน้ำฝนแรกของปี ผมและน้องคนนี้คุย และเข้ากันได้มากกว่าที่คิดครับ จนวันนึงผมก็ขอน้องเค้าลองคบกันดู เพราะตอนนั้นบอกเลยว่ามีใจให้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว
* ความรักของผม และน้องคนนี้ดำเนินมาเรื่อยๆ แบบหวานชื่นมากๆครับ ผมดูแลในทุกๆสิ่งที่ผมสามารถทำ และดูแลให้น้องได้ รวมถึงเคยเจอแม่ของน้อง บอกได้เลยว่าแม่ของน้องก็ปลื้มผมไม่น้อย เพราะไปเล่าให้คนในครอบครัวของเค้าฟังทุกคน (น้องเล่าให้ผมฟัง) *
** จนมาถึงเกือบๆจะขึ้น ม.ปลาย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมเริ่มจะมีอิทธิพลในชีวิตของเขา
"ในด้านลบ" เยอะมากจนเกินไป ด้วยความเป็นเด็กเนาะครับ หวง ห่วง หึง หนักมากๆ ไม่ยอมให้ไปไหนทำอะไรคนเดียวและก็ลงเอยด้วยการมีปัญหางอนกันบ่อยๆ แต่ก็ยังสามารถประคองกันมาได้จน เราทั้ง 2 คน สอบขึ้นชั้น มัธยมปลาย ความรักดำเนินมาจนเกือบจะถึงเกือบสิ้นปี ผมจำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่กลับมามีปัญหาเรื่องเดิมๆกันบ่อยอย่างมาก และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนวันที่ไม่คาดคิดก็มาถึงครับ น้องพิมพ์มาบอกผมว่า "หนูว่าเราห่างกันสักพักเถอะ" ทำนองประมาณว่าห่างกันเพื่อให้ได้คิดทบทวนในสิ่งต่างๆ และค่อยหันมหน้ากลับมาคุย มาเครียร์กัน ยอมรับครับตอนนั้นผมเสียใจมากๆ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ มันคิดวนเวียนอยู่ภายในหัว กลายเป็นคนเก็บตัวไปโดยปริยายไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากคุยกับใคร นั่งฟังแต่เพลงเศร้าๆ (คิดย้อนกลับไปแล้วก็ตลกตัวเอเหมือนกันครับ 55555) หลังจากนั้นน้องก็เงียบไปครับไม่คุย ไม่พิมพ์หาผม มีแต่ฝ่ายผมที่ทักไปหาเป็นช่วงๆ "กินข้าวหรือยัง" "ทำอะไรอยู่" "เป็นยังไงบ้าง"
แต่ก็ถามคำตอบคำครับ ตัวผมเองนั้นพร้อมที่จะหันหน้ากลับมาเครียร์กับน้อง แต่น้องดูเหมือนยังไม่พร้อม และยังคงเงียบกันต่อไป จนยาวมาถึงสิ้นปี.
*** ผมจำเหตุการณ์นี้ได้แม่นมากๆ เพราะเป็นช่วงที่ผมและครอบครัวเดินทางไปพักผ่อน และ Countdown ที่ พัทยาครับ ผมและครอบครัวมีความสุขกันมากกับงานสังสรรค์ปีใหม่ จนเริ่มนับถอยหลังที่จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ' 10..9...8..7 ... 1 ' เข้าสู่ปีใหม่อย่างเต็มตัว เสียงพลุจุดฉลอง อย่างมีความสุข และก็มีเสียงแจ้งเตือนเข้ามาที่ ทรศ. ของผมครับ นั่นคือน้องครับ ผมรู้สึกในใจน้องคงส่งข้อความมา HNY นั่นแหละ แล้วนี่คงเป็นโอกาสเหมาะที่จะเริ่มหันหน้ามาคุยกันและเป็นอย่างเดิม
" HNY นะคะ พี่...." (ตามด้วยประโยคยาวเหยียด) น้องเผยความในใจออกมาทั้งหมด ตลอดระยะเวลาที่เราคบกัน ซึ่งมันเป็นไปในทาง ลบครับ.
ใช่ครับ .... สุดท้ายแล้วน้องบอกเลิกผม... มันเป็นอะไรที่เสียใจอย่างมากผมจำได้ว่าเดินไปบอกแม่ และร้องไห้ครับ ทุกคนในครอบครัวกอดผมและให้กำลังใจผม ส่วนผมนั้นร้องไห้หนักมากครับ นี่คือเหตุการณ์ที่ผมไม่เคยลืมจริงๆ มันเป็นอะไรที่โครตจะฝังใจจริงๆ.
แต่ชีวิตของเรานั้นจำเป็นที่ต้องก้าวต่อไป .... (แบบวงกลม 555555)
ชีวิตของผมก็ดำเนินต่อไป จนกำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงขึ้น มหาวิทยาลัยครับ ในระหว่างทางนั้นผมก็กลับทักไปหาน้องอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความที่เราจบกันด้วยดี ยังคงเป็น พี่-น้อง ที่ดีมาโดยตลอด มีโทรหากันบ้างแต่น้อยมากครับ ส่วนใหญ่จะแชทคุยกัน น้องก็ดูปฏิกิริยาดีนะครับ คุยกันดีมากมีหยอกมีแซวกัน แต่ผมก็ไม่คิดเข้าข้างตัวเองหรอกครับ เพราะมันอาจจะเจ็บอีกครั้งก็เป็นได้...
* เดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงเมื่อผมขึ้นมหาวิทยาลัย ปี 2 น้องเข้า ปี 1 ก็เรียน มหาวิทยาลัยเดียวกันครับ วันนั้นน้องจะไปมอบตัวที่มหาวิทยาลัย น้องก็เลยมาขอคำปรึกษากับผมในเรื่องของเอกสารว่าต้องใช้อะไรบ้าง ทำอะไรยังไง ผมเลยถือโอกาสนี้ขับรถไปส่งน้องครับ ไม่น่าเชื่อครับว่าน้องยอมให้ผมไปรับไปส่งจริงๆ ผมดีใจมากจริงๆครับเพราะเราได้นั่งคุยกัน 2 คน ได้เห็นหน้าเห็นตากัน มันเป็นอะไรที่โครตจะดีจริงๆครับ แต่อย่างที่บอกครับผมไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เพราะคิดแค่ว่าน้องคงไม่ยอมกลับมาคบกับผมแน่ๆ ยังไงก็ไม่มีทาง ผมรู้สึกได้ "เป็นแค่พี่น้องดูแลกันไปแบบนี้แหละดีแล้ว" นั่นเป็นความคิดของผม ณ ขณะนั้นซึ่งมันทำให้ผมไม่เคยคุย หรือ ถามน้องตรงๆเลยว่าอยากกลับมาคบกันเหมือนเดิมไหม...
** ยินดีต้อนรับสู่พี่ปี 3 .... ผมขึ้นปี 3 น้องอยู่ ปี 2 เราก็ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกันตลอดมา ได้เจอกันบ่อยขึ้นเพราะเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ผมเรียนบริหารธุรกิจ ส่วนน้องเรียน สาธารณสุข ครับ อยู่มาวันนึงน้องชวนผมไปปาร์ตี้วันเกิดครับในวันเกิดนั้นก็มีเพื่อนๆของน้องเยอะแยะมากมาย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้หญิงล้วนทั้งหมด ปาร์ตี้ สังสรรค์ กันจนดึกมากๆแล้ว น้องเมามากครับไม่รู้เรื่องเลย และไม่สามารถเข้านอนที่หอในได้ เพราะต้องจดชื่อ และน้องเกรงใจรูมเมท น้องจึงขอนอนที่ห้องผมครับ ผมคิดอยู่นานมากๆเพราะมันเป้นอะไรที่ผมไม่ได้คิดไว้จริงๆ ว่าน้องจะมาขอนอนที่ห้องผม มันดูไม่เหมาะสม และมันไม่ดีครับ แต่สุดท้ายแล้ว นี่คือตัวเลือกสุดท้ายครับ น้องก็มานอนที่ห้องผมด้วยอาการเมาอย่างมากพูดไม่รู้เรื่อง จนตื่นมาเช้าอีกวันนึงน้องรู้สึกแย่มากๆ ที่เมาขนาดนั้นก็ขอโทษ ขอโพยกันไป ส่วนตัวผมนั้นไม่มีอะไรครับ ไม่ได้ทำอะไรน้อง ผมขอสาบานต่อหน้าไฟ และสิ่งศักดิ์บนโลกนี้ครับ เพราะผมเห็นว่าเป็นพี่น้อง กันเราควรต้องดูแลน้องให้ดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่ผมต้องทำ และควรที่จะทำที่สุด
***เหตุการณ์คืนนั้นก็ผ่านไปด้วยดี จนมีเพื่อนของน้องคนนึงทักมาหาผมครับ เพื่อนน้องคนนี้ขอชื่อย่อว่า น้อง ข. นะครับ น้อง ข. ทักมาคุยถามว่าเมื่อคืนนี้เป็นยังไงบ้าง ผมก็แปลกใจครับในทีแรกว่าทำไมต้องทักมาด้วย แต่ก็ตอบๆไปครับ (ยอมรับว่าน้อง ข. หน้าตาน่ารักมากๆ สวยมากๆ) ผมและน้อง ข. ก็คุยกันไปกันมาครับ จนนั่นแหละครับ ผมตัดสินใจอะไรก็ไม่รุ้ด้วยความโง่ และบ้า ผมตัดสินใจจีบน้อง ข. ครับจน น้องแฟนเก่าผมนั้นเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ตอนนั้นผมหน้ามืดตามัวมากครับ ไม่รู้แล้วอะไรควรทำ ไม่ควรทำ ไม่ได้นึกถึงว่าการที่ไปจีบน้อง ข. ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่ม น้องที่เป็นแฟนเก่าของผมนั้นมันไม่ดี และไม่ควรอย่างไร จนผมตกลงคบเป็นแฟนกับน้อง ข. ครับ // แต่ต้องแลกมาด้วย น้องที่เคยเป็นแฟนเก่าของผมต้องทะเลาะ และเลิกคบเพื่อนกับน้อง ข. เรียกได้ว่ากลุ่มแตกครับ...***
นี่แหละครับ เป็นเหตุการณ์เรื่องราวความรักของตัวกระผม * ที่ไม่ว่าเวลามันจะผ่านมาเนิ่นนานเท่าไหร่ ก็ยังลืมไม่ได้ ลืมไม่ลงสักที จนตอนนี้ทั้งน้อง ข. และน้องแฟนเก่า จะเรียนจบปริญญาทั้ง 2 คนแล้ว ผมก็ยังไม่ลืมน้องแฟนเก่าไปได้เลย ยังคงคิดถึงเสมอ และได้แต่โทษตัวเองว่าไม่น่าจะทำสิ่งแย่ๆแบบนั้นต่อน้องเขาเลย ผมเสียใจมาก และจมปรักกับความรู้สึกอยู่ในทุกๆครั้ง ที่นึกถึง
ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ พี่ๆที่เข้ามาอ่านเคยเจอเหตุการณ์แบบผม หรือเคยมีประสบการณ์แบบผมไหมนะครับ ยังไงก็ขอบพระคุณมากๆครับที่ทนอ่านจนจบ 555555
ทำไมรักครั้งแรกมักลืมยาก ... ?
วันนี้ผมมีเรื่องอยากจะมาเล่าสู่กันฟังครับ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "รักครั้งแรก" ของตัวกระผมเอง.
อาจจะเขียนและเรียบเรียงภาษาได้ไม่สวยงามมาก แต่จะพยายามถ่ายทอดเรื่องราวและความรู้สึกให้ได้มากที่สุดนะครับ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ.
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณผมอยู่ มัธยมต้น (ย้อนไปนานนิดนึง) ผมก็เป็นเด็กที่จะเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น อยากรู้ อยากลองสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะความรักครับผมเป็นเด็กชายคนนึงที่เห็นเพื่อนๆเริ่มมีแฟน มีความรักกันก็เริ่มไฝ่หา อยากจะมีความที่หวานสดชื่นเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆบ้าง... จนมาวันนึงมี ผู้หญิงคนนึงขอแอด Facebook มา และเธอก็เป็นฝ่ายที่ทักมาก่อน ยอมรับครับว่าตอนนั้นจิตใจมันฟูมาก เบ่งบานมาก (ตามประสาคนไม่เคยมีความรักอะเนาะ) คุยแนะนำตัวกันไปมาจนมาได้รู้ว่าเธอเป็นรุ่นน้อง ซึ่งเรียนอยู่ โรงเรียนหญิงล้วน ประจำจังหวัดของผมนั่นเอง ผมตัดสินใจส่องเฟสของน้องเค้าดู น้องคนนี้น่ารักมากๆๆในสายตาของผม ณ ตอนนั้น // ซึ่งนับเวลาตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ผ่านมาได้ 13 ปี แล้ว // แต่ผมยังคงจำรูปโปรไฟล์ของน้องเค้าได้แม่นจนถึงทุกวันนี้ เป็นรูปมุมข้าง น้องผมยาวสีดำ ดัดฟัน ผิวขาว ผมยอมรับว่าเริ่มชอบน้องหลังจากที่เห็นรูปโปรไฟล์ และรูปอื่นๆที่น้องเค้าลง รอยยิ้มน้องดูเป็นมิตร และเฟรนด์ลี่ อย่างที่เห็นและรู้สึกได้เลยครับ หลังจากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีความสุขมากๆสำหรับผมในวัย เด็กน้อย เบิกบานเหมือนดอกไม้ที่ได้รับน้ำฝนแรกของปี ผมและน้องคนนี้คุย และเข้ากันได้มากกว่าที่คิดครับ จนวันนึงผมก็ขอน้องเค้าลองคบกันดู เพราะตอนนั้นบอกเลยว่ามีใจให้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว
* ความรักของผม และน้องคนนี้ดำเนินมาเรื่อยๆ แบบหวานชื่นมากๆครับ ผมดูแลในทุกๆสิ่งที่ผมสามารถทำ และดูแลให้น้องได้ รวมถึงเคยเจอแม่ของน้อง บอกได้เลยว่าแม่ของน้องก็ปลื้มผมไม่น้อย เพราะไปเล่าให้คนในครอบครัวของเค้าฟังทุกคน (น้องเล่าให้ผมฟัง) *
** จนมาถึงเกือบๆจะขึ้น ม.ปลาย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมเริ่มจะมีอิทธิพลในชีวิตของเขา
"ในด้านลบ" เยอะมากจนเกินไป ด้วยความเป็นเด็กเนาะครับ หวง ห่วง หึง หนักมากๆ ไม่ยอมให้ไปไหนทำอะไรคนเดียวและก็ลงเอยด้วยการมีปัญหางอนกันบ่อยๆ แต่ก็ยังสามารถประคองกันมาได้จน เราทั้ง 2 คน สอบขึ้นชั้น มัธยมปลาย ความรักดำเนินมาจนเกือบจะถึงเกือบสิ้นปี ผมจำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่กลับมามีปัญหาเรื่องเดิมๆกันบ่อยอย่างมาก และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนวันที่ไม่คาดคิดก็มาถึงครับ น้องพิมพ์มาบอกผมว่า "หนูว่าเราห่างกันสักพักเถอะ" ทำนองประมาณว่าห่างกันเพื่อให้ได้คิดทบทวนในสิ่งต่างๆ และค่อยหันมหน้ากลับมาคุย มาเครียร์กัน ยอมรับครับตอนนั้นผมเสียใจมากๆ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ มันคิดวนเวียนอยู่ภายในหัว กลายเป็นคนเก็บตัวไปโดยปริยายไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากคุยกับใคร นั่งฟังแต่เพลงเศร้าๆ (คิดย้อนกลับไปแล้วก็ตลกตัวเอเหมือนกันครับ 55555) หลังจากนั้นน้องก็เงียบไปครับไม่คุย ไม่พิมพ์หาผม มีแต่ฝ่ายผมที่ทักไปหาเป็นช่วงๆ "กินข้าวหรือยัง" "ทำอะไรอยู่" "เป็นยังไงบ้าง"
แต่ก็ถามคำตอบคำครับ ตัวผมเองนั้นพร้อมที่จะหันหน้ากลับมาเครียร์กับน้อง แต่น้องดูเหมือนยังไม่พร้อม และยังคงเงียบกันต่อไป จนยาวมาถึงสิ้นปี.
*** ผมจำเหตุการณ์นี้ได้แม่นมากๆ เพราะเป็นช่วงที่ผมและครอบครัวเดินทางไปพักผ่อน และ Countdown ที่ พัทยาครับ ผมและครอบครัวมีความสุขกันมากกับงานสังสรรค์ปีใหม่ จนเริ่มนับถอยหลังที่จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ' 10..9...8..7 ... 1 ' เข้าสู่ปีใหม่อย่างเต็มตัว เสียงพลุจุดฉลอง อย่างมีความสุข และก็มีเสียงแจ้งเตือนเข้ามาที่ ทรศ. ของผมครับ นั่นคือน้องครับ ผมรู้สึกในใจน้องคงส่งข้อความมา HNY นั่นแหละ แล้วนี่คงเป็นโอกาสเหมาะที่จะเริ่มหันหน้ามาคุยกันและเป็นอย่างเดิม
" HNY นะคะ พี่...." (ตามด้วยประโยคยาวเหยียด) น้องเผยความในใจออกมาทั้งหมด ตลอดระยะเวลาที่เราคบกัน ซึ่งมันเป็นไปในทาง ลบครับ.
ใช่ครับ .... สุดท้ายแล้วน้องบอกเลิกผม... มันเป็นอะไรที่เสียใจอย่างมากผมจำได้ว่าเดินไปบอกแม่ และร้องไห้ครับ ทุกคนในครอบครัวกอดผมและให้กำลังใจผม ส่วนผมนั้นร้องไห้หนักมากครับ นี่คือเหตุการณ์ที่ผมไม่เคยลืมจริงๆ มันเป็นอะไรที่โครตจะฝังใจจริงๆ.
แต่ชีวิตของเรานั้นจำเป็นที่ต้องก้าวต่อไป .... (แบบวงกลม 555555)
ชีวิตของผมก็ดำเนินต่อไป จนกำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงขึ้น มหาวิทยาลัยครับ ในระหว่างทางนั้นผมก็กลับทักไปหาน้องอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความที่เราจบกันด้วยดี ยังคงเป็น พี่-น้อง ที่ดีมาโดยตลอด มีโทรหากันบ้างแต่น้อยมากครับ ส่วนใหญ่จะแชทคุยกัน น้องก็ดูปฏิกิริยาดีนะครับ คุยกันดีมากมีหยอกมีแซวกัน แต่ผมก็ไม่คิดเข้าข้างตัวเองหรอกครับ เพราะมันอาจจะเจ็บอีกครั้งก็เป็นได้...
* เดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงเมื่อผมขึ้นมหาวิทยาลัย ปี 2 น้องเข้า ปี 1 ก็เรียน มหาวิทยาลัยเดียวกันครับ วันนั้นน้องจะไปมอบตัวที่มหาวิทยาลัย น้องก็เลยมาขอคำปรึกษากับผมในเรื่องของเอกสารว่าต้องใช้อะไรบ้าง ทำอะไรยังไง ผมเลยถือโอกาสนี้ขับรถไปส่งน้องครับ ไม่น่าเชื่อครับว่าน้องยอมให้ผมไปรับไปส่งจริงๆ ผมดีใจมากจริงๆครับเพราะเราได้นั่งคุยกัน 2 คน ได้เห็นหน้าเห็นตากัน มันเป็นอะไรที่โครตจะดีจริงๆครับ แต่อย่างที่บอกครับผมไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เพราะคิดแค่ว่าน้องคงไม่ยอมกลับมาคบกับผมแน่ๆ ยังไงก็ไม่มีทาง ผมรู้สึกได้ "เป็นแค่พี่น้องดูแลกันไปแบบนี้แหละดีแล้ว" นั่นเป็นความคิดของผม ณ ขณะนั้นซึ่งมันทำให้ผมไม่เคยคุย หรือ ถามน้องตรงๆเลยว่าอยากกลับมาคบกันเหมือนเดิมไหม...
** ยินดีต้อนรับสู่พี่ปี 3 .... ผมขึ้นปี 3 น้องอยู่ ปี 2 เราก็ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกันตลอดมา ได้เจอกันบ่อยขึ้นเพราะเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ผมเรียนบริหารธุรกิจ ส่วนน้องเรียน สาธารณสุข ครับ อยู่มาวันนึงน้องชวนผมไปปาร์ตี้วันเกิดครับในวันเกิดนั้นก็มีเพื่อนๆของน้องเยอะแยะมากมาย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้หญิงล้วนทั้งหมด ปาร์ตี้ สังสรรค์ กันจนดึกมากๆแล้ว น้องเมามากครับไม่รู้เรื่องเลย และไม่สามารถเข้านอนที่หอในได้ เพราะต้องจดชื่อ และน้องเกรงใจรูมเมท น้องจึงขอนอนที่ห้องผมครับ ผมคิดอยู่นานมากๆเพราะมันเป้นอะไรที่ผมไม่ได้คิดไว้จริงๆ ว่าน้องจะมาขอนอนที่ห้องผม มันดูไม่เหมาะสม และมันไม่ดีครับ แต่สุดท้ายแล้ว นี่คือตัวเลือกสุดท้ายครับ น้องก็มานอนที่ห้องผมด้วยอาการเมาอย่างมากพูดไม่รู้เรื่อง จนตื่นมาเช้าอีกวันนึงน้องรู้สึกแย่มากๆ ที่เมาขนาดนั้นก็ขอโทษ ขอโพยกันไป ส่วนตัวผมนั้นไม่มีอะไรครับ ไม่ได้ทำอะไรน้อง ผมขอสาบานต่อหน้าไฟ และสิ่งศักดิ์บนโลกนี้ครับ เพราะผมเห็นว่าเป็นพี่น้อง กันเราควรต้องดูแลน้องให้ดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่ผมต้องทำ และควรที่จะทำที่สุด
***เหตุการณ์คืนนั้นก็ผ่านไปด้วยดี จนมีเพื่อนของน้องคนนึงทักมาหาผมครับ เพื่อนน้องคนนี้ขอชื่อย่อว่า น้อง ข. นะครับ น้อง ข. ทักมาคุยถามว่าเมื่อคืนนี้เป็นยังไงบ้าง ผมก็แปลกใจครับในทีแรกว่าทำไมต้องทักมาด้วย แต่ก็ตอบๆไปครับ (ยอมรับว่าน้อง ข. หน้าตาน่ารักมากๆ สวยมากๆ) ผมและน้อง ข. ก็คุยกันไปกันมาครับ จนนั่นแหละครับ ผมตัดสินใจอะไรก็ไม่รุ้ด้วยความโง่ และบ้า ผมตัดสินใจจีบน้อง ข. ครับจน น้องแฟนเก่าผมนั้นเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ตอนนั้นผมหน้ามืดตามัวมากครับ ไม่รู้แล้วอะไรควรทำ ไม่ควรทำ ไม่ได้นึกถึงว่าการที่ไปจีบน้อง ข. ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่ม น้องที่เป็นแฟนเก่าของผมนั้นมันไม่ดี และไม่ควรอย่างไร จนผมตกลงคบเป็นแฟนกับน้อง ข. ครับ // แต่ต้องแลกมาด้วย น้องที่เคยเป็นแฟนเก่าของผมต้องทะเลาะ และเลิกคบเพื่อนกับน้อง ข. เรียกได้ว่ากลุ่มแตกครับ...***
นี่แหละครับ เป็นเหตุการณ์เรื่องราวความรักของตัวกระผม * ที่ไม่ว่าเวลามันจะผ่านมาเนิ่นนานเท่าไหร่ ก็ยังลืมไม่ได้ ลืมไม่ลงสักที จนตอนนี้ทั้งน้อง ข. และน้องแฟนเก่า จะเรียนจบปริญญาทั้ง 2 คนแล้ว ผมก็ยังไม่ลืมน้องแฟนเก่าไปได้เลย ยังคงคิดถึงเสมอ และได้แต่โทษตัวเองว่าไม่น่าจะทำสิ่งแย่ๆแบบนั้นต่อน้องเขาเลย ผมเสียใจมาก และจมปรักกับความรู้สึกอยู่ในทุกๆครั้ง ที่นึกถึง
ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ พี่ๆที่เข้ามาอ่านเคยเจอเหตุการณ์แบบผม หรือเคยมีประสบการณ์แบบผมไหมนะครับ ยังไงก็ขอบพระคุณมากๆครับที่ทนอ่านจนจบ 555555