เริ่มจาก ส.ค. ปี65 เพื่อน(พ.)ที่คบกันมานานขอยืมบัญชีไปรับเงินของบริษัท(บ.) เราถ้าไปว่าทำไมไม่บัญชีตัวเองพ.ให้คำตอบมาว่าเป็นการเปิดดิลเลอร์เลยใช่ชื่อพนักงานเปิดไม่ได้ เป็นดิลเลอร์ขายไข่ไก่ให้กับบ.
เพื่อนทำฝ่ายจัดซื้อ ที่จะได้รับส่วนต่างจากบ.ผ่านบัญชีดิลเลอร์ เช่น พ.รับไข่มา4บาท ใช้ชื่อดิลเลอร์ขายต่อบ.5บาท

เราจึงให้ยืมใช้บัญชีเปิดไว้นานแล้วแต่ไม่ค่อยได้ฝาก-ถอนเงิน เริ่มจากส.ค.65–ส.ค.67 มีเงินเข้าบช. เดือนละ1-2ครั้ง ยอดเงิน1-3แสน/ครั้ง เมื่อเงินเข้าบัญชีมาเราก็โอนออกไปยังบัญชรพ.ต่อทันที โดนต้องแสกนใบหน้าเนื่องจากเยอะ เราไม่เคยหักเก็บเงินไว้หรือขอแบ่งส่วนต่างใดๆจาก พ.เลย เราเข้าใจมาตลอดว่าเป็นค่าคอมมิชชั่นของพ.

จนเมื่อ 28 ต.ค.67 เอาฝากเงินเข้าบช.ตัวเองที่ให้พ.ยืมแล้วนึกขึ้นได้ว่าผิดเลขบช.เลยจะกดโอนออกแต่ ไม่สามารถโอนเงินออกได้ เราจึงโทรถามคอลเซ็นเตอร์ของธ. เจ้าหน้าที่แจ้งว่าบช.โดนอายัดโดนตำรวจ และให้เบอร์ติดต่อของร้อยเวร(รว.)มา เรารีบโทรหารว.ทันที ท่านแจ้งว่าเราโดนอายัดบช.เนื่องจาก บ.มีการแจ้งความดำเนินคดีกับพ.และพวก(ก็คือเรา) ฐานร่วมกันฉ้อโกง และนัดให้เราเข้าพบในวันที่ 30 ต.ค.67 เราก็เข้าไปให้การกับรว. ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการฉ้อโกงเพียงแต่ให้ยืมบช.ไปเท่านั้น

หลังจากเข้าพบรว. ก็ทราบข้อมูลมาว่า พ.น้ำบช.เราไปขายไข่กินส่วนต่างจริงตามที่พ.เคยบอกแต่!! มีการวางบิลซ้ำ เบิกบิลเก่า หรือลักษณะอื่นๆประมาณนี้ด้วย ตลอดระยะเวลามีการรับเข้าโอนออก 47 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท หลังจากรับทราบเรื่องและออกจาก สภ.แล้ว เราก็โทรหาพ.

เราเร่งรัดให้พ.รีบไปจัดการกับ บ. ให้เรียบร้อย พ.ก็บอกให้เราไม่ต้องกังวลจะเข้าไปไกล่เกลี่ยดำเนินการให้เรียบร้อย ระหว่างนั้นเราก็ไม่นิ่งนอนใจ คอยโทรถามความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ทุกครั้งที่ติดตามเรื่อง พ.บอกว่าจะขอเขาไกล่เกลี่ย ผ่อนชำระแต่ไม่พบ เจ้เจ้าของบ. จนเวลาผ่านไป

ตำรวจเรียกเข้าพบ เพื่อหาทางจบร่วมกับบ. แต่ทางฝั่งบ. อยากได้เงินเป็นก้อนจำนวน 2 ล้านแล้วจะถอนแจ้งความ แต่พ.ใช้เงินไปหมดเลยไม่เหลือเลย แต่จะขอวางเงินก้อน1แสนแล้วผ่อนเดือนละ1หมื่นจนครบปีก็วางอีก1แสนผ่อนเดือนละ1หมื่นจนครบ ซึ่งแน่นอนว่าบ.ไม่ยอม เป็นเราๆก็คงไม่ยอม หื้อออ เล่นถึงตรงนี้แล้วจะร้อง😭

สรุปคือตกลงกันไม่ได้ ตำรวจส่งฟ้อง พ.=ผตห.1 เรา=ผตห.2 เบื้องต้นตำรวจส่งฟ้องผตห.1 ฐานฉ้อโกง(เงินสด) ส่วนผตห.2แจ้งเพียงข้อเท็จจริงแต่ไม่แจ้งข้อกล่าวหาเนื่องจากไม่มีส่วนร่วมกระทำความผิด เราก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่...พอถึงอัยการ อัยการไม่ยอมรับสำนวนส่งกลับมาให้รว.สอบใหม่ ดับความหวังนั่งน้ำตาริน พิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติเรียบร้อย ร่วมกันฉ้อโกง

คำถามคือ
1.เราจะทำยังไง ให้ผู้เสียหายบ.ให้อัยการ ให้ศาล เชื่อว่าเราไม่ได้เอาเงินเขาไป เพื่อนยืมบช.ไปเฉยๆจริงๆ

2.ถ้าเราคุยกับผสห.ให้เขาไม่ติดใจเอาความเรา ถ้าเขายอมถอนฟ้องเราจะยังได้รับโทษให้ฐานความผิดอื่นอยู่ไหน ข้อหาใด

3.ถ้าผสห.ไม่ยอม เราจะไปจบที่โทษฐานใด ได้รับโทษแบบไหน ขอบรรเทาโทษได้หรือไม่

ปล.เราไม่เคยต้องโทษมาก่อน ตอนนี้กำลังรักษาโรงมะเร็งเจ้านมระยะที่3 อยู่ในกระบวนการรักษาต้องเข้ารับคีโม ฉายแสง ถ้าเราต้องติดคุกจะไม่สะดวกในการรักษา และเราก็เป็นห่วงลูกเราด้วยค่ะพึ่งขึ้น6ขวบกำลังจะขึ้นป.1 เราพยายามจะไม่เครียดแต่มันช่างยากเหลือเกินค่ะ นอนไม่ค่อยหลับ จากเบื่ออาหารอยู่แล้วยิ่งกลืนอะไรไม่ลงเลยค่ะ ขอความกรุณาท่านผู้รู้ช่วยเมตตาแนะนำแนวทางออกให้เราด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ