เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ ของมหาเศรษฐี วอร์เรน บัฟเฟตต์ เพิ่มน้ำหนักลงทุนใน 5 บริษัทเทรดดิ้งยักษ์ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ใกล้แตะเพดาน 10%
บริษัท "เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ อิงค์" ของมหาเศรษฐีตำนานนักลงทุนวีไอ "วอร์เรน บัฟเฟตต์" (Warren Buffett) เพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน 5 บริษัทเทรดดิ้งรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีขึ้นตามมาเพียง 3 สัปดาห์ หลังจากที่บัฟเฟตต์เขียนจดหมายประจำปีถึงผู้ถือหุ้น และทำให้เกิดการคาดเดาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวดังกล่าวมาแล้ว
สัดส่วนที่เพิ่มการถือหุ้นใน 5 บริษัทดังกล่าวตามเอกสารที่บริษัทแจ้งต่อกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น มีดังนี้
มิตซุย แอนด์ โค (Mitsui & Co.) เพิ่มเป็น 9.82% จากเดิม 8.09%
มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (Mitsubishi Corp.) เพิ่มเป็น 9.67% จากเดิม 8.31%
ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น (Sumitomo Corp.) เพิ่มเป็น 9.29% จากเดิม 8.23%
อิโตชู (Itochu) เพิ่มเป็น 8.53% จากเดิม 7.47%
มารุเบนิ (Marubeni) เพิ่มเป็น 9.30% จากเดิม 8.30%
ข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บัฟเฟตต์ระบุในจดหมายประจำปีถึงผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนก.พ. ว่า เบิร์กไชร์กำลังพิจารณาเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทเทรดดิ้งญี่ปุ่น
บลูมเบิร์ก ระบุว่า การที่นักลงทุนผู้มากประสบการณ์รายนี้ให้ความสำคัญกับหุ้นญี่ปุ่น อาจช่วยหนุนความเชื่อมั่นที่ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น และสงครามการค้าโลกได้
ทั้งนี้ บัฟเฟตต์ซื้อหุ้นในบริษัทเทรดดิ้งเหล่านี้ตั้งแต่ปี 2563 และต่อมาก็เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในเดือนมิถุนายน 2566 โดยเดิมทีเขาตกลงที่จะถือหุ้นไว้ต่ำกว่า 10% แต่ในจดหมายประจำปีถึงนักลงทุน เขากล่าวว่าบริษัทเทรดดิ้งเหล่านี้ตกลงที่จะผ่อนปรนเพดานการถือหุ้น "ในระดับปานกลาง" และทำให้บัฟเฟตต์เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นแต่ละบริษัทไปเกือบแตะเพดาน 10%
จดหมายถึงผู้ถือหุ้นทำให้นักลงทุนต่างคาดเดากันถึงการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของบัฟเฟตต์ ขณะที่เบิร์กไชร์เพิ่งขายพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นออกไปหลายงวดรวมมูลค่า 2.818 แสนล้านเยน (ราว 6.36 หมื่นล้านบาท) ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นดีลพันธบัตรญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 ในปี 2567
'บัฟเฟตต์' เพิ่มน้ำหนักลงทุน 5 หุ้นเทรดดิ้งใหญ่สุดของญี่ปุ่น