สวัสดีค่ะ วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ของน้องหมาอายุ 14 ปีที่เป็นฝีรากฟันค่ะ น้องมีหินปูนเยอะมาก จนอยู่ๆ วันนึงสังเกตเห็นว่าตาน้องบวมๆ ข้างนึง ไม่บวมมาก แต่ก็พาไปหาหมอที่คลินิกแถวบ้านเลย (คุณหมอบอกว่าถ้ามาช้าจะกลายเป็นหนองๆ แล้วทะลุจากรากฟันไปตรงแก้มบริเวณตาเลย)
พอคุณหมอตรวจแล้วก็บอกว่าน้องเป็น ฝีรากฟัน ต้องวางยาสลบและถอนฟันออก แต่ด้วยอายุที่มากแล้ว การวางยามีความเสี่ยงสูง หมอจึงแนะนำให้ไปที่โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬาฯ เพราะมีเครื่องมือที่พร้อมกว่าสำหรับการดูแลหากฉุกเฉิน
วันถัดมาเราไปถึงโรงพยาบาลตอน 6 โมงเช้า กดบัตรคิวที่เวชระเบียน ได้คิวที่ 8 หลังจากนั้นต้องกรอกประวัติและทำบัตรประจำตัวสัตว์ก่อนจะได้รับคิวใหม่ของแผนกอายุรกรรม แล้วก็พาน้องไปตรวจร่างกายอย่างละเอียด ทั้งตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เอคโค่หัวใจ ตรวจเลือด และอื่นๆ (เค้าจะให้ใบๆ มา แล้วเราก็เดินพาไปตรวจห้องต่างๆ ค่ะ) แล้วหมอบอกว่าหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ จึงให้ยากระตุ้นหัวใจมากินก่อนวันผ่าตัดและยาอื่นๆ ค่าใช้จ่ายวันนี้ประมาณ 3000 บาทค่ะ
พอถึงวันนัดวางยา เราไปถึงประมาณ 6 โมง กดบัตรคิวและยื่นใบนัดเหมือนเดิม และมีนัดวางยา 9 โมง จากนั้นเรารออยู่ข้างนอก ระหว่างนั้นมีหมอมาอัปเดตอาการเป็นระยะๆ ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็เสร็จค่ะ วันแรกหลังผ่าตัด น้องยังซึมๆ หมอแนะนำให้กินอาหารเหลวก่อนและต้องกินยาให้ครบ ค่าใช้จ่ายวันนี้ตอนแรกหมอบอกประมาณ 10,000 บาทค่ะ แต่สรุปแล้ว 7,000 บาทค่ะ
ส่วนตัวคิดว่าทางโรงพยาบาลรักษาดีมากๆ ค่ะ ใส่ใจในการดูแลน้องหมา คุณหมอเก่งและให้คำปรึกษาเราอย่างดี อธิบายทุกอย่างละเอียด คอยอัปเดตอาการตลอด ทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นและลดความกังวลไปได้เยอะมากเลยค่ะ และตอนนี้น้องหมาของเราแข็งแรงดี กินเก่ง และปากหอมแล้วค่ะ แล้วเราก็เลยเริ่มดูแลฟันให้น้องหมาอีกตัวดีขึ้น ซื้อหูวัวมาให้แทะและเช็ดฟันให้ค่ะ
สุดท้ายนี้ขอให้น้องหมาทุกตัวสุขภาพแข็งแรง และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังดูแลน้องหมาที่ป่วยอยู่ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีและน้องหมากลับมาสดใสเหมือนเดิมนะคะ 🐕🌟💖
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ ถ้ามีคำถามอะไรถามเพิ่มเติมได้นะคะ

หมาอายุ 14 ปีเป็นฝีรากฟัน
พอคุณหมอตรวจแล้วก็บอกว่าน้องเป็น ฝีรากฟัน ต้องวางยาสลบและถอนฟันออก แต่ด้วยอายุที่มากแล้ว การวางยามีความเสี่ยงสูง หมอจึงแนะนำให้ไปที่โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬาฯ เพราะมีเครื่องมือที่พร้อมกว่าสำหรับการดูแลหากฉุกเฉิน
วันถัดมาเราไปถึงโรงพยาบาลตอน 6 โมงเช้า กดบัตรคิวที่เวชระเบียน ได้คิวที่ 8 หลังจากนั้นต้องกรอกประวัติและทำบัตรประจำตัวสัตว์ก่อนจะได้รับคิวใหม่ของแผนกอายุรกรรม แล้วก็พาน้องไปตรวจร่างกายอย่างละเอียด ทั้งตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เอคโค่หัวใจ ตรวจเลือด และอื่นๆ (เค้าจะให้ใบๆ มา แล้วเราก็เดินพาไปตรวจห้องต่างๆ ค่ะ) แล้วหมอบอกว่าหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ จึงให้ยากระตุ้นหัวใจมากินก่อนวันผ่าตัดและยาอื่นๆ ค่าใช้จ่ายวันนี้ประมาณ 3000 บาทค่ะ
พอถึงวันนัดวางยา เราไปถึงประมาณ 6 โมง กดบัตรคิวและยื่นใบนัดเหมือนเดิม และมีนัดวางยา 9 โมง จากนั้นเรารออยู่ข้างนอก ระหว่างนั้นมีหมอมาอัปเดตอาการเป็นระยะๆ ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็เสร็จค่ะ วันแรกหลังผ่าตัด น้องยังซึมๆ หมอแนะนำให้กินอาหารเหลวก่อนและต้องกินยาให้ครบ ค่าใช้จ่ายวันนี้ตอนแรกหมอบอกประมาณ 10,000 บาทค่ะ แต่สรุปแล้ว 7,000 บาทค่ะ
ส่วนตัวคิดว่าทางโรงพยาบาลรักษาดีมากๆ ค่ะ ใส่ใจในการดูแลน้องหมา คุณหมอเก่งและให้คำปรึกษาเราอย่างดี อธิบายทุกอย่างละเอียด คอยอัปเดตอาการตลอด ทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นและลดความกังวลไปได้เยอะมากเลยค่ะ และตอนนี้น้องหมาของเราแข็งแรงดี กินเก่ง และปากหอมแล้วค่ะ แล้วเราก็เลยเริ่มดูแลฟันให้น้องหมาอีกตัวดีขึ้น ซื้อหูวัวมาให้แทะและเช็ดฟันให้ค่ะ
สุดท้ายนี้ขอให้น้องหมาทุกตัวสุขภาพแข็งแรง และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังดูแลน้องหมาที่ป่วยอยู่ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีและน้องหมากลับมาสดใสเหมือนเดิมนะคะ 🐕🌟💖
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ ถ้ามีคำถามอะไรถามเพิ่มเติมได้นะคะ