สวัสดีค่ะ วันนี้อารมณ์ดีเลยทำให้อยู่ดีๆ ก็คิดถึงเกาหลีใต้ขึ้นมา
เลยอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้อ่านเล่นๆ กัน
เราไปเกาหลีมาเมื่อ Jun 66 และ Dec 66 นะคะ
สำหรับเราให้คะแนนเกาหลีใต้ ที่ 8.5/10 ค่ะ และทั้งหมดต่อไปนี้คือความเห็นส่วนตัวค่ะ
เราได้ไปเกาหลีมา 2 ครั้ง ครั้งแรกไปกับเพื่อนคนนึง และครั้งที่สองไปเคาท์ดาวน์ปีใหม่คนเดียวค่ะ
จากความรู้สึกที่สัมผัสได้ คิดว่าเกาหลีเป็นประเทศที่เรียกว่า พัฒนาจนสัมผัสได้ทุกส่วน
ทั้งการเดินทาง เทคโนโลยี ตึก/ร้าน/อาคาร ต่างๆ และที่สำคัญประทับใจที่สุด คือ "ทางเท้า" ค่ะ
ส่วนตัวมองว่าแทบจะเป็นประเทศที่เรียกว่าทำให้คนหลงอยู่ในห้วงความทรงจำได้ดีเลย
และการโปรโมทพื้นที่ท่องเที่ยวของเกาหลี เราต้องยกให้เลยจริงๆ
เอาล่ะ จะพูดรวมๆ ในมุมมองของตัวเองทั้งข้อดีและข้อเสียให้ ดังนี้ค่ะ
1. เราขอยกสิ่งที่ชวนเซ็งที่สุดในประเทศนี้นั่นคือ "ประชากร" ข้อนี้ยาวหน่อย
แต่เพราะทำเรา culture shock หลายครั้งมาก ดีที่เราเสพข่าวเกาหลีเยอะเลยทำใจเรื่องนี้มาประมาณนึง
แต่พอเจอเองแล้วก็แอบอึ้งๆ แต่ก็ไม่ได้กวนใจมาก ยกตัวอย่าง
การเดินเข้า-ออกรถไฟฟ้า บ้านเราคือต้องรอคนออกคนนอกถึงเข้าใช่มั้ยคะ แต่บ้านเขาก็สวนกันไปเลยค่ะ
การเดินชน แต่เรารู้สึกว่าเรื่องการเดินชนนี่ถ้าวัยรุ่นเขาจะหันมาขอโทษนะคะ แต่ถ้าผู้ใหญ่หน่อย
ก็จะเดินผ่านไปเลย ก็ช็อคแหละ แต่ทำใจมาแล้วเลยปล่อยๆ มันไป
มีหลายคนที่เขาต้อนรับนักท่องเที่ยวแม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
แต่ก็ยังมีหลายคนที่ไม่โอเคเวลาเราพูดภาษาเกาหลีไม่ได้เช่นกัน และสิ่งที่จะได้กลับมานั่นคือการ
"โดนวีนและชักสีหน้าใส่" (ทำทำไมฟะ?)
หรือถ้ารู้ว่าไม่ใช่คนเกาหลี ก็จะทำท่าปัดมือแบบไปซะๆ แล้วก็เดินหนีค่ะ
ที่เราใช้คำว่า "ชวนเซ็ง" เพราะมันแค่เป็นเรื่องจุกจิกที่ชวนให้เซ็ง แต่ไม่ได้ทำให้มู้ดแย่
บวกกับเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้เท่าไหร่ เหตุผลเพราะ
- ฟังไม่ออกค่ะ ใครจะด่าก็ด่าแต่ถ้าฉันฟังไม่ออก ก็แค่ทำหน้างงๆ ใส่ไป
เดี๋ยวก็เงียบกันไปเองค่ะ
- เรามองเห็นอะไรที่ดีกว่านั้น เพราะว่าจริงๆ แล้วคนเกาหลีถ้าจะน่ารัก ก็น่ารักมากๆ
เช่น เรามองว่าคนเกาหลีโดยเฉพาะคุณลุงคุณป้าที่เปิดกิจการร้านอาหาร ถ้านิสัยดีๆ หน่อย
แทบจะเป็นนักเอนเตอร์เทนให้ต่างชาติดีๆ คนนึงเลยค่ะ (แต่อาจไม่เฟรนลี่เท่าคนไทย)
ถ้าบอกมาจากไทย เท่าที่เจอส่วนใหญ่ก็จะตอบว่า "Ohh Lisa" หรือไม่ก้
"I want to go Phuket" อยู่ 2 อย่างค่ะ
2. ที่พักในโซล ราคากลางๆ ไม่ถูกไม่แพง ถ้าคิดจะนอน airbnb ทั่วไปหรือโรงแรม 2-3 ดาว
ขอให้ทำใจเรื่องขนาดห้องและความบางของกำแพงไว้ได้เลย ข้างห้องเปิดตู้เสื้อผ้าเราก็ได้ยินแล้ว
และความกว้างอย่างมากก็ 10-11 ตร.ม. ค่ะ ที่แย่ที่สุดสำหรับเราในทริปนี้ คือ ไม่มีสายชำระค่ะ
เรายกให้เป็นสิ่งที่แย่ที่สุดในทริปแล้ว 55555 จริงๆ เรื่องที่พักก็ไม่ได้ซีเรียสมาก
ขอห้องน้ำสะอาดก็พอ เพราะคิดจะเอาไว้เป็นแค่ที่นอน สุดท้ายก็อยู่ข้างนอกมากกว่า
แต่มันแคบซะจนอึดอัดไปหมด จะกางกระเป๋าทีต้องยกขึ้นมาไว้บนเตียงถึงจะพอมีพื้นที่ให้กางค่ะ
ตัดภาพไปที่ Busan ราคาพอกัน แต่เราได้ห้องใหญ่มากกกกค่ะ และ facilities ดีสุดๆ
3. เรื่องสูบบุหรี่นี่จัดให้ว่า "หนักมาก" ในเกาหลี แต่ไม่ซีเรียสอีกตามเคยค่ะ
พูดตามตรงว่าบ้านเขามีมารยาทในการสูบมากกว่าบ้านเราประมาณนึง
แต่อย่าได้หาไปเดินโซนที่เป็นพวกผับ/ร้านเบียร์ ตรงนั้นนึกว่าหมอกลงค่ะ
แย่ที่สุดคือคนเกาหลีถมน้ำหลายพร่ำเพรื่อมาก
แต่เรามองว่ามันยังมีข้อดีตรงที่ ถ้ามันไม่ใช่โซนสถานบันเทิง เขาจะมี smoking area ไว้ให้เฉพาะ
และเท่าที่เจอคือคนเกาหลีจะทำตามกฎระเบียบได้ดีค่ะ สูบบุหรี่แค่ในโซนที่จัดไว้ให้
ส่วนตัวยังไม่เคยเจอคนเดินสูบบุหรี่แบบที่ไทย ดังนั้นถึงแม้เราจะยกให้ข้อนี้เป็นข้อเสียข้อนึง
แต่เพราะประเทศไทยก็ไม่ได้ต่างกันเลยรู้สึกว่าเป็นข้อเสียที่ทำใจไว้แล้วค่ะ
4. ถ้าถามถึงผับข้อนี้อาจจะต้องขอข้ามเพราะไม่คิดจะเข้าผับเกาหลี
แต่ถ้าถามถึงสถานที่ท่องเที่ยว/ช็อปปิ้ง/บาร์เงียบๆ/ที่เดินเล่น ในมุมของเรา
- ขอยกให้ seongsu / itaewon ดีที่สุดค่ะ
(hidden spot ที่ itaewon เยอะมาก แต่เดินเหนื่อยมากค่ะตรง itaewon
รู้สึกว่ามันเหมือนจะชันกว่าตรงอื่น เหมือนเดินไต่เขาตลอดเวลาเลย)
- รองลงมา คือ apgujeong / hannam อันนี้เราเน้นเดินเล่น ชมเมือง ชมพื้นที่เอา
- gangnam ก็โอเค แต่มองว่า 4 ที่ก่อนหน้ามีอะไรให้ทำได้มากกว่า
- myeongdong / hongdae เราไม่ชอบค่ะ เพราะมันวุ่นวาย เหมือนรวมทุกสัญชาติบนโลกอยู่ที่นี่
แต่ของมันมีให้ช็อปเยอะ street food ก็มีให้เยอะ และมันเดินง่ายคนเลยจะชอบไปกัน
5. ข้อนี้เป็นที่รู้ ๆ กัน คือ เกาหลีเป็นประเทศที่ไม่มีสีเลย จริงๆ แล้วแฟชั่นเกาหลีดีมากสำหรับเรา
และเราเองก็ชอบพวกเสื้อผ้าเกาหลีมาก แต่เพราะ fashion standard แข็งแกร่งมาก
ทุกคนเลยแต่งตัว pattern เดียวกันเกือบหมด บอกตามตรงว่าเรื่องการแต่งตัวบ้านเรากินขาดค่ะ
และแน่นอนที่บอกว่ามีแต่ขาว/ดำ อันนี้จริงนะคะ ไม่เชื่อลองใส่สีสดๆ ขึ้น metro ดู
บอกเลยว่าคนที่มั่นใจในการแต่งตัวต้องมีแอบเขินมั่งแหละ 55555
6. บางอย่างที่เกาหลี ก็ไม่ได้ถูกไปกว่าที่ไทยค่ะ อย่าโดนหลอกน้าา
เช่น เครื่องสำอางค์ใน Oliveyoung บางแบรนด์ที่เข้าไทยมาแล้ว ราคาพอๆ กับที่เกาหลีเลยค่ะ
แต่ถ้า skincare เหมือนว่าจะถูกกว่าจริง พวกเสื้อผ้าก็ต้องถูกกว่าอยู่แล้วเพราะเป็นแบรนด์บ้านเขาเอง
ส่วนพวกรองเท้าที่เกาหลีรู้สึกว่าจะถูกกว่าแต่ไม่ได้ถูกแบบญี่ปุ่น
7. เราไม่ใช่สายคาเฟ่ แต่กาแฟ/เครื่องดื่มที่เกาหลี รสชาตแย่ที่สุดเท่าที่เคยกินมา (คหสต)
บอกก่อนว่าเราไม่ใช่คอกาแฟนะคะ กินเอาประทังชีวิตและการตื่นตัวของสมองแต่ละวันเฉยๆ
แต่ของเกาหลีนี่แย่มากขนาดเราที่กินกาแฟแบบไม่รู้แบบไหนเรียกว่าอร่อยจริงยังรู้สึกไม่ดีเลยอ่ะ
พูดตามตรงเลย อย่าว่าเรานะคะ แม้แต่พวกเมนูชามะนาวหรือชาผลไม้อะไรพวกนี้ เราให้แย่ทั้งหมด
มันเป็นรสชาตแบบ "หวาน-จืด" มันไม่ใช่หวานนัวแบบบ้านเราอ่ะ คือเราสั่งน้ำอะไรมากินไม่เคยกินหมด
หรือจะพวกเมนูน้ำอร่อย สมูทตี้ นมปั่น ต่างๆ กินได้ครึ่งแก้วก็ถือว่าเก่งมากแล้วค่ะ
(คือถ้าอยากกินอะไรแบบนี้เราไปหาร้านบนห้างกินยังรู้สึกปลอดภัยต่อความรู้สึกมากกว่า 5555)
8. การเดินทางเกาหลี ไปคนเดียวก็ไม่ต้องกลัวหลงเลยค่ะ เอาจริงๆ ตอนเราไปเที่ยวคนเดียว
เกาหลีมี metro อยู่แทบจะทุกซอก คือมันสะดวกมาก สายรถไฟก็ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด แต่นี่คือข้อดี
เพราะมันทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเดินทางง่ายสุดๆ และค่าเดินทางก็ไม่แพง แต่ถ้าแท็กซี่จะแพงมาก
9. เรื่องทางเท้าตามที่ต้นกระทู้ได้เกริ่นไป มันดีมากจริงๆนะ บอกเลยว่าเดินได้ทั้งวัน
อยู่ไทยเราไม่ชอบเดินเลย แต่ไปเกาหลี 1 km++ เราก็เดินค่ะ ยิ่งอากาศดีเราเดินปล่อยใจสบายๆ ได้เลย
เพราะทางมันเรียบ ไม่มีรถวิ่งทางเท้า ไม่เหม็นท่อ และไม่มีกองขยะเรี่ยราดค่ะ (หรือยังไม่เจอ?)
10. เราชอบการให้คุณค่ากับศิลปะและวัฒนธรรมของเกาหลีมาก มันยัดอยู่ทุกๆ ที่ที่เราเดินผ่าน
ต่อให้จะเป็น culture ที่เก่าแค่ไหน เกาหลีก็เอามาผสมปนกับสมัยปัจจุบันได้อย่างดี นี่คือจุดแข็งของเกาหลีเลย
ถึงแม้ความสมัยใหม่จะชัดเจนมาก แต่ก็ยังทำให้ความโบราณมันดันสมัยใหม่ไปด้วยกันได้อย่างกลมกลืน
art museum / exhibition มีเยอะมากยิ่งกว่าห้างสรรพสินค้า หาดูได้ง่ายและทำถึงมากนะคะ
สถาปัตยกรรม หรือแม้แต่ตึกร้านบ้านเรือนที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งมันยังดูดีและมีระเบียบมากๆ
นี่คือสิ่งที่เราชอบที่สุดในเกาหลีค่ะ แม้จะมีแต่ตึกและอาคารสูงๆ เต็มไปหมด แต่เขาวางผังเมืองมาดีมากๆ
ทำให้เราเดินไปเรื่อยๆ แบบไม่อึดอัดเลยค่ะ
11. ค่าอาหารการกินแพงกว่าบ้านเราแน่นอน แต่เป็นแพงที่รับได้และสมเหตุสมผล
ถ้ากินน้อยแบบเราก็ตกมื้อละประมาณ 500 บาท บางวัน 1,000 เราก็ยังเหลือค่ะ
แต่เรากินน้อยมากและกินยากเลยไม่ได้เสียเงินเยอะ ปิ้งย่างเข้าไปแค่ครั้งเดียวเพราะเฉยๆ ไม่ได้ว้าว
ชอบทานอาหารจานเดี่ยวบ้านเขามากกว่าเพราะอิ่มกว่า ส่วนของใน mart ราคาไม่แพงค่ะ
12. เราไม่ได้รู้สึกว่าอาหารเกาหลีอร่อยว้าว แสงออกปากอะไรแบบนั้น
คือ ความอร่อยถือว่าอยู่ในระดับที่กินได้เรื่อยๆ ไม่ได้อะไร แต่ไม่ได้เซอไพรส์
อาจจะเพราะเราเอง ที่ติดรสอาหารแบบไทยที่รสจะครบเครื่อง กลมกล่อม
แต่เกาหลีมันจะมีความ เผ็ดจืด เค็มจืด อธิบายไม่ถูก แต่มันมีรสชาตอยู่ข้างเดียว
พอจะนึกออกมั้ยคะ 55555
13. คนเกาหลีเสียงดังสุดๆ โดยเฉพาะผู้หญิง หัวเราะเสียงดังมาก เม้ากันไม่เกรงใจคนรอบข้างเลย
คือมันดังมากอ่ะ ดังกว่าคนไทยอีกนะคะ จริงๆ นะ อันนี้ไม่ได้พูดเว่อ ดังจนหงุดหงิด ต้องเดินหนีอ่ะ
14. คนเกาหลีมีแฟนกันเยอะมาก เราที่ชอบเที่ยวคนเดียวเห็นทีคือแทบจะขอให้ฟ้าประทาน
พระเอกซีรี่สักคนเดินชนกันหน่อยได้ไหม มันเยอะมากจริงๆ ค่ะ เดตกันจริงจังมาก มองซ้ายขวาบนล่าง
ยังไงก็เจอคนเดินเป็นคู่กันค่ะ จัดให้เป็นประเทศที่ประชากรโสดน้อยที่สุด
ไปฮ่องกงยังไม่เจอขนาดนี้5555 (กรี๊ด)
อ้อ สิ่งที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนทำ คือ ไปเดินเล่นริมแม่น้ำฮัน แนะนำจริงๆ ค่ะ ตรงไหนก็ได้ที่เขามีให้เดิน
เราชอบไปเดินตรง hangang park จำไม่ได้ว่าฝั่งไหน แล้วก็ข้ามไป nodeul island พูดตามตรงว่าฟีลดีมากๆ
ลมดี อากาศดี น้ำไม่เหม็น เข้าใจเลยว่าทำไมคนเกาหลีชอบชวนกันไปเดินเล่น นั่งเล่นที่ริมน้ำ
ยิ่งอากาศดีเท่าไหร่นี่ เรานั่งมองน้ำมองฟ้าได้เป็นชั่วโมงเลยค่ะ ยิ่งชอบสิงอยู่ในสวนสาธารณะอยู่
ปล. เรายังไม่เคยโดนเรื่อง ตม. เลย (ก็ดีแล้ว)
ทริคของเราคือ ตาแข็งใส่ ตม. อ่ะค่ะ ก็จ้องหน้าตาไม่กระพริบสู้ไป แต่งตัวปกติ เดินไป ก็ไม่ได้โดนถามอะไร
มีแค่รอบแรกที่เราลงปูซานแต่กลับโซล ก็ถามแค่มาคนเดียวหรอ (รอบนั้นเราพาสขาวด้วย) แค่นี้
กับรอบสองที่ไปปีใหม่คนเดียว อันนี้ไม่โดนอะไรเลย ปล่อยตัวผ่านไปเฉยๆ ค่ะ
สุดท้ายนี้ เราขอยกให้เกาหลีเป็นประเทศที่ ถ้ามีเงินแล้วมีเวลาก็จะไปเรื่อยๆ ค่ะ เราชอบมากๆ ไม่เบื่อเลย
บ้างก็บอกว่ามันไม่มีอะไร แต่ถ้าคนที่มองว่ามันมี มันก็จะมีเยอะมากเลยค่ะ
ส่วนตัวเราชอบเพราะเราเป็นพวกไปเที่ยวปล่อยสมอง เปิดหูเปิดตาเดินไปเรื่อยๆ เลยไม่ได้คิดอะไรเยอะ
ขอแค่มันน่าเดินและมีอะไรสวยๆ งามๆ ให้ดูก็พอ ซึ่งเกาหลีนี่จัดว่าถูกใจเรามาก
แอบคิดไว้ว่ารอบหน้าถ้ามีเพื่อนไปด้วยจะลองออกไปเที่ยวพวกชนบทดู road trip น่าจะสนุกดีค่ะ ^^
((เกาหลียังชอบขนาดนี้ ไม่อยากคิดว่าไปญี่ปุ่นจะชอบขนาดไหน 5555))
รีวิวเกาหลี ฉบับไม่เอาแต่ด้านดีแต่ก็ไม่ได้มีแต่ด้านแย่
เลยอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้อ่านเล่นๆ กัน
เราไปเกาหลีมาเมื่อ Jun 66 และ Dec 66 นะคะ
สำหรับเราให้คะแนนเกาหลีใต้ ที่ 8.5/10 ค่ะ และทั้งหมดต่อไปนี้คือความเห็นส่วนตัวค่ะ
เราได้ไปเกาหลีมา 2 ครั้ง ครั้งแรกไปกับเพื่อนคนนึง และครั้งที่สองไปเคาท์ดาวน์ปีใหม่คนเดียวค่ะ
จากความรู้สึกที่สัมผัสได้ คิดว่าเกาหลีเป็นประเทศที่เรียกว่า พัฒนาจนสัมผัสได้ทุกส่วน
ทั้งการเดินทาง เทคโนโลยี ตึก/ร้าน/อาคาร ต่างๆ และที่สำคัญประทับใจที่สุด คือ "ทางเท้า" ค่ะ
ส่วนตัวมองว่าแทบจะเป็นประเทศที่เรียกว่าทำให้คนหลงอยู่ในห้วงความทรงจำได้ดีเลย
และการโปรโมทพื้นที่ท่องเที่ยวของเกาหลี เราต้องยกให้เลยจริงๆ
เอาล่ะ จะพูดรวมๆ ในมุมมองของตัวเองทั้งข้อดีและข้อเสียให้ ดังนี้ค่ะ
1. เราขอยกสิ่งที่ชวนเซ็งที่สุดในประเทศนี้นั่นคือ "ประชากร" ข้อนี้ยาวหน่อย
แต่เพราะทำเรา culture shock หลายครั้งมาก ดีที่เราเสพข่าวเกาหลีเยอะเลยทำใจเรื่องนี้มาประมาณนึง
แต่พอเจอเองแล้วก็แอบอึ้งๆ แต่ก็ไม่ได้กวนใจมาก ยกตัวอย่าง
การเดินเข้า-ออกรถไฟฟ้า บ้านเราคือต้องรอคนออกคนนอกถึงเข้าใช่มั้ยคะ แต่บ้านเขาก็สวนกันไปเลยค่ะ
การเดินชน แต่เรารู้สึกว่าเรื่องการเดินชนนี่ถ้าวัยรุ่นเขาจะหันมาขอโทษนะคะ แต่ถ้าผู้ใหญ่หน่อย
ก็จะเดินผ่านไปเลย ก็ช็อคแหละ แต่ทำใจมาแล้วเลยปล่อยๆ มันไป
มีหลายคนที่เขาต้อนรับนักท่องเที่ยวแม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
แต่ก็ยังมีหลายคนที่ไม่โอเคเวลาเราพูดภาษาเกาหลีไม่ได้เช่นกัน และสิ่งที่จะได้กลับมานั่นคือการ
"โดนวีนและชักสีหน้าใส่" (ทำทำไมฟะ?)
หรือถ้ารู้ว่าไม่ใช่คนเกาหลี ก็จะทำท่าปัดมือแบบไปซะๆ แล้วก็เดินหนีค่ะ
ที่เราใช้คำว่า "ชวนเซ็ง" เพราะมันแค่เป็นเรื่องจุกจิกที่ชวนให้เซ็ง แต่ไม่ได้ทำให้มู้ดแย่
บวกกับเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้เท่าไหร่ เหตุผลเพราะ
- ฟังไม่ออกค่ะ ใครจะด่าก็ด่าแต่ถ้าฉันฟังไม่ออก ก็แค่ทำหน้างงๆ ใส่ไป
เดี๋ยวก็เงียบกันไปเองค่ะ
- เรามองเห็นอะไรที่ดีกว่านั้น เพราะว่าจริงๆ แล้วคนเกาหลีถ้าจะน่ารัก ก็น่ารักมากๆ
เช่น เรามองว่าคนเกาหลีโดยเฉพาะคุณลุงคุณป้าที่เปิดกิจการร้านอาหาร ถ้านิสัยดีๆ หน่อย
แทบจะเป็นนักเอนเตอร์เทนให้ต่างชาติดีๆ คนนึงเลยค่ะ (แต่อาจไม่เฟรนลี่เท่าคนไทย)
ถ้าบอกมาจากไทย เท่าที่เจอส่วนใหญ่ก็จะตอบว่า "Ohh Lisa" หรือไม่ก้
"I want to go Phuket" อยู่ 2 อย่างค่ะ
2. ที่พักในโซล ราคากลางๆ ไม่ถูกไม่แพง ถ้าคิดจะนอน airbnb ทั่วไปหรือโรงแรม 2-3 ดาว
ขอให้ทำใจเรื่องขนาดห้องและความบางของกำแพงไว้ได้เลย ข้างห้องเปิดตู้เสื้อผ้าเราก็ได้ยินแล้ว
และความกว้างอย่างมากก็ 10-11 ตร.ม. ค่ะ ที่แย่ที่สุดสำหรับเราในทริปนี้ คือ ไม่มีสายชำระค่ะ
เรายกให้เป็นสิ่งที่แย่ที่สุดในทริปแล้ว 55555 จริงๆ เรื่องที่พักก็ไม่ได้ซีเรียสมาก
ขอห้องน้ำสะอาดก็พอ เพราะคิดจะเอาไว้เป็นแค่ที่นอน สุดท้ายก็อยู่ข้างนอกมากกว่า
แต่มันแคบซะจนอึดอัดไปหมด จะกางกระเป๋าทีต้องยกขึ้นมาไว้บนเตียงถึงจะพอมีพื้นที่ให้กางค่ะ
ตัดภาพไปที่ Busan ราคาพอกัน แต่เราได้ห้องใหญ่มากกกกค่ะ และ facilities ดีสุดๆ
3. เรื่องสูบบุหรี่นี่จัดให้ว่า "หนักมาก" ในเกาหลี แต่ไม่ซีเรียสอีกตามเคยค่ะ
พูดตามตรงว่าบ้านเขามีมารยาทในการสูบมากกว่าบ้านเราประมาณนึง
แต่อย่าได้หาไปเดินโซนที่เป็นพวกผับ/ร้านเบียร์ ตรงนั้นนึกว่าหมอกลงค่ะ
แย่ที่สุดคือคนเกาหลีถมน้ำหลายพร่ำเพรื่อมาก
แต่เรามองว่ามันยังมีข้อดีตรงที่ ถ้ามันไม่ใช่โซนสถานบันเทิง เขาจะมี smoking area ไว้ให้เฉพาะ
และเท่าที่เจอคือคนเกาหลีจะทำตามกฎระเบียบได้ดีค่ะ สูบบุหรี่แค่ในโซนที่จัดไว้ให้
ส่วนตัวยังไม่เคยเจอคนเดินสูบบุหรี่แบบที่ไทย ดังนั้นถึงแม้เราจะยกให้ข้อนี้เป็นข้อเสียข้อนึง
แต่เพราะประเทศไทยก็ไม่ได้ต่างกันเลยรู้สึกว่าเป็นข้อเสียที่ทำใจไว้แล้วค่ะ
4. ถ้าถามถึงผับข้อนี้อาจจะต้องขอข้ามเพราะไม่คิดจะเข้าผับเกาหลี
แต่ถ้าถามถึงสถานที่ท่องเที่ยว/ช็อปปิ้ง/บาร์เงียบๆ/ที่เดินเล่น ในมุมของเรา
- ขอยกให้ seongsu / itaewon ดีที่สุดค่ะ
(hidden spot ที่ itaewon เยอะมาก แต่เดินเหนื่อยมากค่ะตรง itaewon
รู้สึกว่ามันเหมือนจะชันกว่าตรงอื่น เหมือนเดินไต่เขาตลอดเวลาเลย)
- รองลงมา คือ apgujeong / hannam อันนี้เราเน้นเดินเล่น ชมเมือง ชมพื้นที่เอา
- gangnam ก็โอเค แต่มองว่า 4 ที่ก่อนหน้ามีอะไรให้ทำได้มากกว่า
- myeongdong / hongdae เราไม่ชอบค่ะ เพราะมันวุ่นวาย เหมือนรวมทุกสัญชาติบนโลกอยู่ที่นี่
แต่ของมันมีให้ช็อปเยอะ street food ก็มีให้เยอะ และมันเดินง่ายคนเลยจะชอบไปกัน
5. ข้อนี้เป็นที่รู้ ๆ กัน คือ เกาหลีเป็นประเทศที่ไม่มีสีเลย จริงๆ แล้วแฟชั่นเกาหลีดีมากสำหรับเรา
และเราเองก็ชอบพวกเสื้อผ้าเกาหลีมาก แต่เพราะ fashion standard แข็งแกร่งมาก
ทุกคนเลยแต่งตัว pattern เดียวกันเกือบหมด บอกตามตรงว่าเรื่องการแต่งตัวบ้านเรากินขาดค่ะ
และแน่นอนที่บอกว่ามีแต่ขาว/ดำ อันนี้จริงนะคะ ไม่เชื่อลองใส่สีสดๆ ขึ้น metro ดู
บอกเลยว่าคนที่มั่นใจในการแต่งตัวต้องมีแอบเขินมั่งแหละ 55555
6. บางอย่างที่เกาหลี ก็ไม่ได้ถูกไปกว่าที่ไทยค่ะ อย่าโดนหลอกน้าา
เช่น เครื่องสำอางค์ใน Oliveyoung บางแบรนด์ที่เข้าไทยมาแล้ว ราคาพอๆ กับที่เกาหลีเลยค่ะ
แต่ถ้า skincare เหมือนว่าจะถูกกว่าจริง พวกเสื้อผ้าก็ต้องถูกกว่าอยู่แล้วเพราะเป็นแบรนด์บ้านเขาเอง
ส่วนพวกรองเท้าที่เกาหลีรู้สึกว่าจะถูกกว่าแต่ไม่ได้ถูกแบบญี่ปุ่น
7. เราไม่ใช่สายคาเฟ่ แต่กาแฟ/เครื่องดื่มที่เกาหลี รสชาตแย่ที่สุดเท่าที่เคยกินมา (คหสต)
บอกก่อนว่าเราไม่ใช่คอกาแฟนะคะ กินเอาประทังชีวิตและการตื่นตัวของสมองแต่ละวันเฉยๆ
แต่ของเกาหลีนี่แย่มากขนาดเราที่กินกาแฟแบบไม่รู้แบบไหนเรียกว่าอร่อยจริงยังรู้สึกไม่ดีเลยอ่ะ
พูดตามตรงเลย อย่าว่าเรานะคะ แม้แต่พวกเมนูชามะนาวหรือชาผลไม้อะไรพวกนี้ เราให้แย่ทั้งหมด
มันเป็นรสชาตแบบ "หวาน-จืด" มันไม่ใช่หวานนัวแบบบ้านเราอ่ะ คือเราสั่งน้ำอะไรมากินไม่เคยกินหมด
หรือจะพวกเมนูน้ำอร่อย สมูทตี้ นมปั่น ต่างๆ กินได้ครึ่งแก้วก็ถือว่าเก่งมากแล้วค่ะ
(คือถ้าอยากกินอะไรแบบนี้เราไปหาร้านบนห้างกินยังรู้สึกปลอดภัยต่อความรู้สึกมากกว่า 5555)
8. การเดินทางเกาหลี ไปคนเดียวก็ไม่ต้องกลัวหลงเลยค่ะ เอาจริงๆ ตอนเราไปเที่ยวคนเดียว
เกาหลีมี metro อยู่แทบจะทุกซอก คือมันสะดวกมาก สายรถไฟก็ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด แต่นี่คือข้อดี
เพราะมันทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเดินทางง่ายสุดๆ และค่าเดินทางก็ไม่แพง แต่ถ้าแท็กซี่จะแพงมาก
9. เรื่องทางเท้าตามที่ต้นกระทู้ได้เกริ่นไป มันดีมากจริงๆนะ บอกเลยว่าเดินได้ทั้งวัน
อยู่ไทยเราไม่ชอบเดินเลย แต่ไปเกาหลี 1 km++ เราก็เดินค่ะ ยิ่งอากาศดีเราเดินปล่อยใจสบายๆ ได้เลย
เพราะทางมันเรียบ ไม่มีรถวิ่งทางเท้า ไม่เหม็นท่อ และไม่มีกองขยะเรี่ยราดค่ะ (หรือยังไม่เจอ?)
10. เราชอบการให้คุณค่ากับศิลปะและวัฒนธรรมของเกาหลีมาก มันยัดอยู่ทุกๆ ที่ที่เราเดินผ่าน
ต่อให้จะเป็น culture ที่เก่าแค่ไหน เกาหลีก็เอามาผสมปนกับสมัยปัจจุบันได้อย่างดี นี่คือจุดแข็งของเกาหลีเลย
ถึงแม้ความสมัยใหม่จะชัดเจนมาก แต่ก็ยังทำให้ความโบราณมันดันสมัยใหม่ไปด้วยกันได้อย่างกลมกลืน
art museum / exhibition มีเยอะมากยิ่งกว่าห้างสรรพสินค้า หาดูได้ง่ายและทำถึงมากนะคะ
สถาปัตยกรรม หรือแม้แต่ตึกร้านบ้านเรือนที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งมันยังดูดีและมีระเบียบมากๆ
นี่คือสิ่งที่เราชอบที่สุดในเกาหลีค่ะ แม้จะมีแต่ตึกและอาคารสูงๆ เต็มไปหมด แต่เขาวางผังเมืองมาดีมากๆ
ทำให้เราเดินไปเรื่อยๆ แบบไม่อึดอัดเลยค่ะ
11. ค่าอาหารการกินแพงกว่าบ้านเราแน่นอน แต่เป็นแพงที่รับได้และสมเหตุสมผล
ถ้ากินน้อยแบบเราก็ตกมื้อละประมาณ 500 บาท บางวัน 1,000 เราก็ยังเหลือค่ะ
แต่เรากินน้อยมากและกินยากเลยไม่ได้เสียเงินเยอะ ปิ้งย่างเข้าไปแค่ครั้งเดียวเพราะเฉยๆ ไม่ได้ว้าว
ชอบทานอาหารจานเดี่ยวบ้านเขามากกว่าเพราะอิ่มกว่า ส่วนของใน mart ราคาไม่แพงค่ะ
12. เราไม่ได้รู้สึกว่าอาหารเกาหลีอร่อยว้าว แสงออกปากอะไรแบบนั้น
คือ ความอร่อยถือว่าอยู่ในระดับที่กินได้เรื่อยๆ ไม่ได้อะไร แต่ไม่ได้เซอไพรส์
อาจจะเพราะเราเอง ที่ติดรสอาหารแบบไทยที่รสจะครบเครื่อง กลมกล่อม
แต่เกาหลีมันจะมีความ เผ็ดจืด เค็มจืด อธิบายไม่ถูก แต่มันมีรสชาตอยู่ข้างเดียว
พอจะนึกออกมั้ยคะ 55555
13. คนเกาหลีเสียงดังสุดๆ โดยเฉพาะผู้หญิง หัวเราะเสียงดังมาก เม้ากันไม่เกรงใจคนรอบข้างเลย
คือมันดังมากอ่ะ ดังกว่าคนไทยอีกนะคะ จริงๆ นะ อันนี้ไม่ได้พูดเว่อ ดังจนหงุดหงิด ต้องเดินหนีอ่ะ
14. คนเกาหลีมีแฟนกันเยอะมาก เราที่ชอบเที่ยวคนเดียวเห็นทีคือแทบจะขอให้ฟ้าประทาน
พระเอกซีรี่สักคนเดินชนกันหน่อยได้ไหม มันเยอะมากจริงๆ ค่ะ เดตกันจริงจังมาก มองซ้ายขวาบนล่าง
ยังไงก็เจอคนเดินเป็นคู่กันค่ะ จัดให้เป็นประเทศที่ประชากรโสดน้อยที่สุด
ไปฮ่องกงยังไม่เจอขนาดนี้5555 (กรี๊ด)
อ้อ สิ่งที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนทำ คือ ไปเดินเล่นริมแม่น้ำฮัน แนะนำจริงๆ ค่ะ ตรงไหนก็ได้ที่เขามีให้เดิน
เราชอบไปเดินตรง hangang park จำไม่ได้ว่าฝั่งไหน แล้วก็ข้ามไป nodeul island พูดตามตรงว่าฟีลดีมากๆ
ลมดี อากาศดี น้ำไม่เหม็น เข้าใจเลยว่าทำไมคนเกาหลีชอบชวนกันไปเดินเล่น นั่งเล่นที่ริมน้ำ
ยิ่งอากาศดีเท่าไหร่นี่ เรานั่งมองน้ำมองฟ้าได้เป็นชั่วโมงเลยค่ะ ยิ่งชอบสิงอยู่ในสวนสาธารณะอยู่
ปล. เรายังไม่เคยโดนเรื่อง ตม. เลย (ก็ดีแล้ว)
ทริคของเราคือ ตาแข็งใส่ ตม. อ่ะค่ะ ก็จ้องหน้าตาไม่กระพริบสู้ไป แต่งตัวปกติ เดินไป ก็ไม่ได้โดนถามอะไร
มีแค่รอบแรกที่เราลงปูซานแต่กลับโซล ก็ถามแค่มาคนเดียวหรอ (รอบนั้นเราพาสขาวด้วย) แค่นี้
กับรอบสองที่ไปปีใหม่คนเดียว อันนี้ไม่โดนอะไรเลย ปล่อยตัวผ่านไปเฉยๆ ค่ะ
สุดท้ายนี้ เราขอยกให้เกาหลีเป็นประเทศที่ ถ้ามีเงินแล้วมีเวลาก็จะไปเรื่อยๆ ค่ะ เราชอบมากๆ ไม่เบื่อเลย
บ้างก็บอกว่ามันไม่มีอะไร แต่ถ้าคนที่มองว่ามันมี มันก็จะมีเยอะมากเลยค่ะ
ส่วนตัวเราชอบเพราะเราเป็นพวกไปเที่ยวปล่อยสมอง เปิดหูเปิดตาเดินไปเรื่อยๆ เลยไม่ได้คิดอะไรเยอะ
ขอแค่มันน่าเดินและมีอะไรสวยๆ งามๆ ให้ดูก็พอ ซึ่งเกาหลีนี่จัดว่าถูกใจเรามาก
แอบคิดไว้ว่ารอบหน้าถ้ามีเพื่อนไปด้วยจะลองออกไปเที่ยวพวกชนบทดู road trip น่าจะสนุกดีค่ะ ^^
((เกาหลียังชอบขนาดนี้ ไม่อยากคิดว่าไปญี่ปุ่นจะชอบขนาดไหน 5555))