สวัสดีค่ะ กระทู้แรกของเราคือตอนเราที่อายุ 15 ยังจำกันได้ไหมคะ เรากลับมาเขียนอีกครั้ง..ในตอนนี้เราอายุ 20 แล้วค่ะ
อยากจะบอกว่าเราอ่านcomment แล้วทำตามนะคะ แต่เรารู้สึกว่ามันทำยากแล้วก็ง่ายในเวลาเดียวกัน หลังจากอายุ 15 เราได้มาเรียนต่อที่กรุงเทพฯแล้วเราก็ได้เรียนทางสายศิลป์ภาษา ซึ่งok และดีมากๆค่ะ..กับการเรียนจนมาถึง
ณ.ปัจจุบันหลังเรียนจบ เรารู้สึกสับสนและเครียดมากค่ะ เพราะว่าพอถึงจุดเวลานั้นในหัวเราคือไม่มีอะไรเลย เรายังคิดไม่ออก ว่าเราต้องการจะทำอะไรหรือไม่รู้จะทำอาชีพอะไรเลย
แต่แม่ก็แนะนำให้ลองเรียนปวส.สาขาการโรงแรมค่ะ เราเลยตกลงเรียนแต่เราก็บอกกับแม่ไปว่าถ้ามันไม่ใช่จริงๆขอลาออก ซึ่งตกลงกันเรียบร้อยแล้ว คุณแม่ก็โอเคจนจบได้ปีนึงก็คือปวส. 1
เราเรียนไม่ไหวจริงๆค่ะเราเรียนสายสามัญมาแล้วลองมาต่ออาชีพรู้สึกว่ามันไม่ได้จริงๆ ในหัวเราคือแค่เหมือนใช้ชีวิตไปวันๆเลยค่ะเราไม่มีความทะเยอทะยาน เรามีแค่ความขี้เกียจมันเลิกไม่ได้จริงๆค่ะแต่เราก็พยายามเรียนให้มันจบตามข้อเงื่อนไขว่าถ้า 1 ปีไม่ได้จริงๆก็ขอลาออก
ทีนี้พอลาออกแล้วเราก็มาสมัครที่รามด้วยความชอบแต่ไม่ได้คิดจะไปต่อยอดอะไรเลยก็คือเราลงจิตวิทยาค่ะ แค่รู้สึกว่ายังไงก็ต้องเรียนแต่ไม่รู้จะเรียนอะไรดีนี่คือความคิดของเราที่ลงไป
จนมาถึงระยะเวลาหนึ่งที่เรียนมาจนถึงช่วงใกล้สอบของเวลาปัจจุบันเรารู้สึกว่าเราแค่ชอบ แต่เราไม่ได้รักมันเลยเพราะเราแค่อยากเฉยๆเหมือนประมาณว่าเราแค่อยากลองเรียนไม่ได้ต้องการจะจริงจังกับมันมาก เรารู้สึกผิดอยู่ในใจกับแม่มากๆเพราะว่ามันทำให้เสียเวลาเสียเงินเยอะมากสำหรับเราที่ยังใช้เงินผู้ปกครองอยู่ค่ะ แต่ว่าสุขภาพจิตคือไม่โอเคสุดๆ
ทำให้ตอนนี้เราคือมืดไปหมดไม่รู้จะทำยังไงต่อดีนู่นก็ไม่ชอบ นี่ก็ไม่ได้ อันนั้นก็ไม่อดทนและมักจะร้องไห้ตลอดเวลาเลยทำให้รู้สึกว่าความคิดเริ่มดิ่งไปเรื่อยๆจนไม่อยากทำอะไรเลยค่ะมันก็เลยเป็นปัญหาใหญ่มากพยายามดึงตัวเองแล้วแต่มันก็ไม่ไหวจริงๆค่ะ
เหมือนเราโตแค่อายุแต่ความคิดเราไม่ได้โตขึ้นไปด้วยเวลาตัดสินใจมันเลยลำบากมากค่ะและยิ่งไม่ได้ทำงานด้วยมันเลยยากไปอีก เราพยายามหางานทำได้แค่ 2-3 เดือนก็ออกเพราะเราเป็นคนขี้เบื่อประมาณนึง เราเลยเปลี่ยนงานมาแล้วประมาณ 2-3 ครั้งได้แต่ว่ามีมากสุดก็คือครึ่งปีค่ะที่นานสุดแต่ก็ต้องมาออกเพราะสังคมไม่ดี
อันนี้ก็คือระบายส่วนหนึ่งนะคะ แล้วคือในใจจริงๆก็คือเริ่มไม่อยากเรียนทางนี้แล้วแต่เราก็ไม่กล้าพูดกับผู้ปกครองเพราะเราเคยเปลี่ยนมาแล้วครั้งหนึ่งจากคำแนะนำของเขา เราก็เลยไม่กล้าที่จะแบบว่าอันนี้ไปไม่ไหวอีกแล้ว อันนี้เขาเคยบอกว่าถ้าเรียนที่รามต้องอดทนนะซึ่งเราก็อดทนได้แค่ประมาณเดียวจริงๆค่ะ
หรือในความคิดก็คือเราอาจจะยังเจอทางที่ไม่ใช่ก็ได้เราเลยไม่อยากทำนู่นอยากทำนี่ไม่อยากทำอะไรเลยคือเหมือนว่าต้องหาแรงบันดาลใจเพื่อทำขึ้นมาคิดว่าเป็นนิสัยเสียอย่างนึงเลยค่ะ เพราะในขณะที่เรียนเรารู้สึกว่าเหมือนว่าจิตใจคือไม่อยู่กับร่องกับรอยแค่เหมือนตอนแรกสนใจแค่ผ่านๆแต่พอมาลองเรียนลึกแล้วรู้สึกว่าไม่ได้เลย.. ในหัวคือเหมือนปิดรับระบบไปหมดเลย
เรารู้สึกว่าที่พิมพ์ระบายมาหรืออื่นๆณ.ที่นี้เหมือนเด็กยังไม่โต ใช่ค่ะเรารู้สึกเป็นแบบนั้นจริงๆรู้สึกว่าเอาแต่ใจตัวเองสุดๆเพราะงั้นก็เลยอยากมาระบายในนี้และขอคำแนะนำคำปรึกษาด้วยค่ะ ว่ามีใครเป็นอาการแบบหมดแรงบันดาลใจหรือหมดไฟและขี้เกียจบ้างคะ เพราะว่าเนี่ยเป็นเกือบจะปีแล้วค่ะ
อีกอย่าง พรุ่งนี้จะสอบแล้วเรารู้สึกว่าเครียดมากๆอ่านอะไรก็ไม่เข้าหัวเลยค่ะ และเป็นการสอบของวิชาเอกจิตวิทยาด้วยก็เลยเครียดสุดๆเพราะว่ามันต้องจำเยอะมากแต่ว่าทั้งเขียนทั้งอ่านทั้งฟังบรรยายก็คือหัวขาวโพลนสุดๆเลยค่ะ แล้วมันติดอยู่ในใจตลอดคำนึงค่ะ เหมือนเรากดดันตัวเองว่า
"ไม่มีอนาคตแน่ๆทำอะไรก็ไม่เคยได้และไม่มีงานทำ" คำนี้ติดอยู่ในหัวตลอดเวลา พยายามเท่าไหร่มันก็ไม่พอ เอาชนะตัวเองก็ไม่ได้สักทีมันก็เลยเหนื่อยมากๆเลยค่ะ
💌 ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ🫂
หมดแรงบันดาลใจ
อยากจะบอกว่าเราอ่านcomment แล้วทำตามนะคะ แต่เรารู้สึกว่ามันทำยากแล้วก็ง่ายในเวลาเดียวกัน หลังจากอายุ 15 เราได้มาเรียนต่อที่กรุงเทพฯแล้วเราก็ได้เรียนทางสายศิลป์ภาษา ซึ่งok และดีมากๆค่ะ..กับการเรียนจนมาถึง
ณ.ปัจจุบันหลังเรียนจบ เรารู้สึกสับสนและเครียดมากค่ะ เพราะว่าพอถึงจุดเวลานั้นในหัวเราคือไม่มีอะไรเลย เรายังคิดไม่ออก ว่าเราต้องการจะทำอะไรหรือไม่รู้จะทำอาชีพอะไรเลย
แต่แม่ก็แนะนำให้ลองเรียนปวส.สาขาการโรงแรมค่ะ เราเลยตกลงเรียนแต่เราก็บอกกับแม่ไปว่าถ้ามันไม่ใช่จริงๆขอลาออก ซึ่งตกลงกันเรียบร้อยแล้ว คุณแม่ก็โอเคจนจบได้ปีนึงก็คือปวส. 1
เราเรียนไม่ไหวจริงๆค่ะเราเรียนสายสามัญมาแล้วลองมาต่ออาชีพรู้สึกว่ามันไม่ได้จริงๆ ในหัวเราคือแค่เหมือนใช้ชีวิตไปวันๆเลยค่ะเราไม่มีความทะเยอทะยาน เรามีแค่ความขี้เกียจมันเลิกไม่ได้จริงๆค่ะแต่เราก็พยายามเรียนให้มันจบตามข้อเงื่อนไขว่าถ้า 1 ปีไม่ได้จริงๆก็ขอลาออก
ทีนี้พอลาออกแล้วเราก็มาสมัครที่รามด้วยความชอบแต่ไม่ได้คิดจะไปต่อยอดอะไรเลยก็คือเราลงจิตวิทยาค่ะ แค่รู้สึกว่ายังไงก็ต้องเรียนแต่ไม่รู้จะเรียนอะไรดีนี่คือความคิดของเราที่ลงไป
จนมาถึงระยะเวลาหนึ่งที่เรียนมาจนถึงช่วงใกล้สอบของเวลาปัจจุบันเรารู้สึกว่าเราแค่ชอบ แต่เราไม่ได้รักมันเลยเพราะเราแค่อยากเฉยๆเหมือนประมาณว่าเราแค่อยากลองเรียนไม่ได้ต้องการจะจริงจังกับมันมาก เรารู้สึกผิดอยู่ในใจกับแม่มากๆเพราะว่ามันทำให้เสียเวลาเสียเงินเยอะมากสำหรับเราที่ยังใช้เงินผู้ปกครองอยู่ค่ะ แต่ว่าสุขภาพจิตคือไม่โอเคสุดๆ
ทำให้ตอนนี้เราคือมืดไปหมดไม่รู้จะทำยังไงต่อดีนู่นก็ไม่ชอบ นี่ก็ไม่ได้ อันนั้นก็ไม่อดทนและมักจะร้องไห้ตลอดเวลาเลยทำให้รู้สึกว่าความคิดเริ่มดิ่งไปเรื่อยๆจนไม่อยากทำอะไรเลยค่ะมันก็เลยเป็นปัญหาใหญ่มากพยายามดึงตัวเองแล้วแต่มันก็ไม่ไหวจริงๆค่ะ
เหมือนเราโตแค่อายุแต่ความคิดเราไม่ได้โตขึ้นไปด้วยเวลาตัดสินใจมันเลยลำบากมากค่ะและยิ่งไม่ได้ทำงานด้วยมันเลยยากไปอีก เราพยายามหางานทำได้แค่ 2-3 เดือนก็ออกเพราะเราเป็นคนขี้เบื่อประมาณนึง เราเลยเปลี่ยนงานมาแล้วประมาณ 2-3 ครั้งได้แต่ว่ามีมากสุดก็คือครึ่งปีค่ะที่นานสุดแต่ก็ต้องมาออกเพราะสังคมไม่ดี
อันนี้ก็คือระบายส่วนหนึ่งนะคะ แล้วคือในใจจริงๆก็คือเริ่มไม่อยากเรียนทางนี้แล้วแต่เราก็ไม่กล้าพูดกับผู้ปกครองเพราะเราเคยเปลี่ยนมาแล้วครั้งหนึ่งจากคำแนะนำของเขา เราก็เลยไม่กล้าที่จะแบบว่าอันนี้ไปไม่ไหวอีกแล้ว อันนี้เขาเคยบอกว่าถ้าเรียนที่รามต้องอดทนนะซึ่งเราก็อดทนได้แค่ประมาณเดียวจริงๆค่ะ
หรือในความคิดก็คือเราอาจจะยังเจอทางที่ไม่ใช่ก็ได้เราเลยไม่อยากทำนู่นอยากทำนี่ไม่อยากทำอะไรเลยคือเหมือนว่าต้องหาแรงบันดาลใจเพื่อทำขึ้นมาคิดว่าเป็นนิสัยเสียอย่างนึงเลยค่ะ เพราะในขณะที่เรียนเรารู้สึกว่าเหมือนว่าจิตใจคือไม่อยู่กับร่องกับรอยแค่เหมือนตอนแรกสนใจแค่ผ่านๆแต่พอมาลองเรียนลึกแล้วรู้สึกว่าไม่ได้เลย.. ในหัวคือเหมือนปิดรับระบบไปหมดเลย
เรารู้สึกว่าที่พิมพ์ระบายมาหรืออื่นๆณ.ที่นี้เหมือนเด็กยังไม่โต ใช่ค่ะเรารู้สึกเป็นแบบนั้นจริงๆรู้สึกว่าเอาแต่ใจตัวเองสุดๆเพราะงั้นก็เลยอยากมาระบายในนี้และขอคำแนะนำคำปรึกษาด้วยค่ะ ว่ามีใครเป็นอาการแบบหมดแรงบันดาลใจหรือหมดไฟและขี้เกียจบ้างคะ เพราะว่าเนี่ยเป็นเกือบจะปีแล้วค่ะ
อีกอย่าง พรุ่งนี้จะสอบแล้วเรารู้สึกว่าเครียดมากๆอ่านอะไรก็ไม่เข้าหัวเลยค่ะ และเป็นการสอบของวิชาเอกจิตวิทยาด้วยก็เลยเครียดสุดๆเพราะว่ามันต้องจำเยอะมากแต่ว่าทั้งเขียนทั้งอ่านทั้งฟังบรรยายก็คือหัวขาวโพลนสุดๆเลยค่ะ แล้วมันติดอยู่ในใจตลอดคำนึงค่ะ เหมือนเรากดดันตัวเองว่า
"ไม่มีอนาคตแน่ๆทำอะไรก็ไม่เคยได้และไม่มีงานทำ" คำนี้ติดอยู่ในหัวตลอดเวลา พยายามเท่าไหร่มันก็ไม่พอ เอาชนะตัวเองก็ไม่ได้สักทีมันก็เลยเหนื่อยมากๆเลยค่ะ
💌 ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ🫂