ปืนต่อต้านอากาศยาน Type 5 15 ซม. (五式十五糎高射砲, Go-shiki jyūgo-senchi Koshahō) เป็นปืนต่อต้านอากาศยานขนาดใหญ่ที่กองทัพบกญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง ชื่อ "Type 5" มาจากปีที่ปืนนี้ได้เข้าประจำการคือปี 2605 ตามปฏิทินจักรวรรดิญี่ปุ่น หรือปี 1945 ตามปฏิทินเกรกอเรียนปืนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนปืน Type 3 12 ซม. เพื่อป้องกันการโจมตีทางอากาศของสหรัฐที่ทวีความรุนแรงขึ้น
จุดเริ่มต้นการพัฒนา: เริ่มโครงการฉุกเฉินในเดือนธันวาคม 1943 หลังพบว่าเครื่องบิน B-29 Superfortress ของสหรัฐบินได้สูงเกินระยะของปืน Type 3 (สูงกว่า 10,000 เมตร)
การออกแบบ: เพื่อประหยัดเวลามันใช้พื้นฐานจากปืน Type 3 ขยายขนาดลำกล้องเป็น 15 ซม. เพื่อเพิ่มระยะและพลังทำลายใช้เวลา 17 เดือนในการพัฒนา โดยปืนทดสอบพร้อมใช้งานในเดือนมิถุนายน 1945
กราฟแสดงขอบเขตการยิงของปืน 15 ซม. เมื่อเทียบกับปืนต่อสู้อากาศยานอื่นๆของญี่ปุ่น
ลักษณะทางเทคนิค
โครงสร้าง: ลำกล้องเดี่ยวแบบชิ้นเดียวมีบานเลื่อน (sliding breech) ติดตั้งบนฐานกลาง (central pedestal) ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ต้องติดตั้งในตำแหน่งตายตัว
ระบบควบคุม: ใช้ระบบควบคุมการยิงอิเล็กทรอนิกส์ Type 2 มีเครื่องติดตามเป้าหมายด้วยแสงด้านบนพื้นดินและคอมพิวเตอร์กำหนดเป้าในบังเกอร์ใกล้เคียง
ระยะยิงสูงสุดในแนวตั้ง: ประมาณ 18,000 เมตร ทำให้มันสามารถโจมตีเครื่องบิน B-29 Superfortress ที่บินในระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระยะยิงในแนวนอน: คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 25 กิโลเมตร หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับมุมยิงและสภาพแวดล้อม
การผลิตและการใช้งาน: ผลิตได้เพียง 2 กระบอกก่อนญี่ปุ่นยอมจำนนเนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบและโครงสร้างอุตสาหกรรมถูกโจมตี (หนึ่งกระบอกผลิตโดยโรงงานทหารโอซาก้าอีกหนึ่งโดย Japan Steel Works)
การติดตั้ง: ทั้งสองกระบอกถูกติดตั้งที่คูกายามะ (Kugayama) เขตซูงินามิ ชานเมืองโตเกียว เพื่อป้องกันการโจมตีทางอากาศและการบุกของฝ่ายสัมพันธมิตร
ผลงาน: เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 1945 ปืนนี้ยิงเครื่องบิน B-29 ตก 2 ลำในการรบครั้งเดียวหลังจากนั้นฝ่ายสหรัฐจึงหลีกเลี่ยงบริเวณนี้ทำให้ปืนไม่มีโอกาสยิงอีก
ประสิทธิภาพ: รายงานหลังสงครามของสหรัฐระบุว่า ปืน Type 5 มีประสิทธิภาพมากกว่า Type 3 ถึง 5 เท่า และมีระยะการยิงที่กว้างกว่ามาก
ข้อจำกัด: ถึงแม้จะทรงพลังแต่ผลิตได้น้อยเกินไปและสายเกินไปเนื่องจากเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นถูกทำลายจากระเบิดทางยุทธศาสตร์ก่อนที่ปืนจะพร้อมใช้งาน
สรุป: ปืน Type 5 เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายของญี่ปุ่นในการเสริมแนวป้องกันอากาศยานแม้จะมีประสิทธิภาพสูงแต่ด้วยข้อจำกัดด้านเวลาและทรัพยากร ทำให้มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์สงครามได้และกลายเป็นเพียงส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การทหารในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Type_5_15_cm_AA_gun
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 2222 ปืนต่อต้านอากาศยาน Type 5 ของจักรวรรดิญี่ปุ่น
จุดเริ่มต้นการพัฒนา: เริ่มโครงการฉุกเฉินในเดือนธันวาคม 1943 หลังพบว่าเครื่องบิน B-29 Superfortress ของสหรัฐบินได้สูงเกินระยะของปืน Type 3 (สูงกว่า 10,000 เมตร)
การออกแบบ: เพื่อประหยัดเวลามันใช้พื้นฐานจากปืน Type 3 ขยายขนาดลำกล้องเป็น 15 ซม. เพื่อเพิ่มระยะและพลังทำลายใช้เวลา 17 เดือนในการพัฒนา โดยปืนทดสอบพร้อมใช้งานในเดือนมิถุนายน 1945
กราฟแสดงขอบเขตการยิงของปืน 15 ซม. เมื่อเทียบกับปืนต่อสู้อากาศยานอื่นๆของญี่ปุ่น
ลักษณะทางเทคนิค
โครงสร้าง: ลำกล้องเดี่ยวแบบชิ้นเดียวมีบานเลื่อน (sliding breech) ติดตั้งบนฐานกลาง (central pedestal) ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ต้องติดตั้งในตำแหน่งตายตัว
ระบบควบคุม: ใช้ระบบควบคุมการยิงอิเล็กทรอนิกส์ Type 2 มีเครื่องติดตามเป้าหมายด้วยแสงด้านบนพื้นดินและคอมพิวเตอร์กำหนดเป้าในบังเกอร์ใกล้เคียง
ระยะยิงสูงสุดในแนวตั้ง: ประมาณ 18,000 เมตร ทำให้มันสามารถโจมตีเครื่องบิน B-29 Superfortress ที่บินในระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระยะยิงในแนวนอน: คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 25 กิโลเมตร หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับมุมยิงและสภาพแวดล้อม
การผลิตและการใช้งาน: ผลิตได้เพียง 2 กระบอกก่อนญี่ปุ่นยอมจำนนเนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบและโครงสร้างอุตสาหกรรมถูกโจมตี (หนึ่งกระบอกผลิตโดยโรงงานทหารโอซาก้าอีกหนึ่งโดย Japan Steel Works)
การติดตั้ง: ทั้งสองกระบอกถูกติดตั้งที่คูกายามะ (Kugayama) เขตซูงินามิ ชานเมืองโตเกียว เพื่อป้องกันการโจมตีทางอากาศและการบุกของฝ่ายสัมพันธมิตร
ผลงาน: เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 1945 ปืนนี้ยิงเครื่องบิน B-29 ตก 2 ลำในการรบครั้งเดียวหลังจากนั้นฝ่ายสหรัฐจึงหลีกเลี่ยงบริเวณนี้ทำให้ปืนไม่มีโอกาสยิงอีก
ประสิทธิภาพ: รายงานหลังสงครามของสหรัฐระบุว่า ปืน Type 5 มีประสิทธิภาพมากกว่า Type 3 ถึง 5 เท่า และมีระยะการยิงที่กว้างกว่ามาก
ข้อจำกัด: ถึงแม้จะทรงพลังแต่ผลิตได้น้อยเกินไปและสายเกินไปเนื่องจากเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นถูกทำลายจากระเบิดทางยุทธศาสตร์ก่อนที่ปืนจะพร้อมใช้งาน
สรุป: ปืน Type 5 เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายของญี่ปุ่นในการเสริมแนวป้องกันอากาศยานแม้จะมีประสิทธิภาพสูงแต่ด้วยข้อจำกัดด้านเวลาและทรัพยากร ทำให้มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์สงครามได้และกลายเป็นเพียงส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การทหารในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Type_5_15_cm_AA_gun