เบื้องต้นต้องบอกว่าแฟนผมเค้าเป็นคนดีค่อยช่วยเหลือ สนับสนุนทุกอย่าง เป็นคนเก่งที่มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และเป็นคนเข้าสังคมเก่ง ชอบเที่ยว ซึ่งตรงข้ามกับผมที่เป็นคนพูดน้อย ไม่ค่อยชอบไปเที่ยว ชอบอยู่ห้อง แต่งตัวก็ไม่เก่ง ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีอะไรที่อยากทำเป็นเป้าหมายของตัวเอง จึงตามแฟนหมดทุกอย่างที่เค้าอยากทำ อยากเที่ยว อยากซื้ออะไรมาส่งเสริมชีวิตคู่ของเรา แต่มีหนึ่งอย่างซึ่งคือสิ่งที่ผมเคยคิดว่าผมรับได้มาตลอด เคยคุยกันแล้วด้วยว่าจะไม่ทำ แต่ก็ยังทำทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ซึ่งโดยส่วนตัวผมเองก็มีสิ่งที่เคยสัญญาว่าจะทำแต่ก็ทำไม่ได้เช่นกัน
ผมกับแฟนช่วงแรกทะเลาะกันบ่อยมาก ช่วง 1-2 ปีแรก แฟนผมจะอารมณ์ร้อน ถ้าเห็นผมเย็นก็ต้องยั่วยุจนให้ร้อนตาม เค้าชอบบอกให้ผมต่อยตัวเอง หรือเข้ามาต่อยหน้าผมเอง เพราะเค้าอยากให้ผมเจ็บเหมือนความรู้สึกของเค้า ซึ่งทุกครั้งที่เกิดเหตุการ์ณเหล่านี้ ผมร้องไห้ทุกครั้งที่คนที่รักต้องการทำให้เราเจ็บ จากการทำร้ายร่างกาย หรือจากคำด่า เช่น โง่ เอาเรื่องเก่าๆที่เคยทำพลาดมาพูด มีอะไรดีบ้างให้ลองพูดมา หรืออีกกรณีก็จะบอกเลิก และหนีออกจากห้องไปแล้วพิมพ์ข้อความมาซึ่งสื่อความหมายว่าจะเลิกกันจริงๆ บล็อคทุกช่องทางติดต่อ สาเหตุหลักๆ (ซึ่งเรื่องอื่นก็มีที่ไม่ใช่เถียงนะครับ) ที่ทะเลาะกัน คือผมชอบเถียง ซึ่งเคยหาวิธีแก้และตกลงกันแล้วว่าจะไม่เถียงทุกเรื่อง ผมพยายามแล้ว ที่จะไม่เถียงเพราะในมุมผมมันคือการอธิบาย บางทีมันเป็นการตอบไปโดยอัตโนมัติ เช่น เค้าถามว่าทำไหมถึงซักเสื้อผ้าเยอะ ฯลฯ
หลังจากผ่านช่วงปรับตัวมากันแล้ว การทะเลาะกันมีน้อยลง การทำร้ายร่างกายก็น้อยลงเพราะเค้าสงสารผมที่ต้องเจ็บตัวตลอด แต่คำพูดที่ทำร้ายจิตใจยังคงมีอยู่ทุกครั้งที่ทะเลาะ
ช่วงหลังมีการทะเลาะกันน้อยลง น่าจะเดือนละ 2-3 ครั้ง อาจเพราะเค้าเข้าใจ และรับได้ข้อเสียของผม ซึ่งล่าสุดได้มีการทะเลาะกัน ซึ่งในส่วนนี้ผมมองว่าผมผิดในเรื่องที่ทะเลาะ เพราะเข้าใจผิดว่าเค้าพูดไม่ดี เลยส่งผลให้ทะเลาะกัน หลังจากนั้นแฟนผมก็วิ่งออกไป และบอกเลิกทั้งทุกคำพูดทุกการกระทำ และบล็อคทุกช่องทางติดต่อ หลังจากนั้นผมก็ร้องไห้อยู่ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งมันเจ็บมาก อาจเพราะเคยทะเลาะกันบ่อย และถ้าไม่บอกเลิก ก็จะพูดคำพูดที่ไม่ดีอยู่เสมอ ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน อยู่ดีๆผมก็รู้สึกว่าผมอยู่คนเดียวได้ และลุกขึ้นมาจัดสรรว่าต้องแบ่งเงิน หรือทรัพย์สินที่มีร่วมกันยังไง ***แฟนผมเคยบอกว่าถ้าเค้าเลิก และหนีออกไปจากห้องได้คือจะไม่กลับมาแล้ว ทุกครั้งที่ทะเลาะกันผมไม่เคยปล่อยเค้าออกไปจากห้องเลย*** หลังจากนั้นไม่ถึงวันแฟนผมก็ทักมาให้ขนเสื้อผ้าไปให้บางส่วนโดยเรียก Grab ส่วนที่เหลือจะมาขนของไปทีหลัง และผมเข้าใจว่าเลิกจริงๆแน่เลย จึงหาคนอื่นในแอฟคุยไปเรื่อยๆ จนเผลอไปชอบคนอื่นเข้า (ซึ่งที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดที่จะทำ หรือมองผู้หญิงคนอื่นเลย ไม่ว่าเค้าจะไปนอนบ้านเพื่อน 5 วันก็ตาม) ผ่านมา 1-3 วัน แฟนผมก็ทักมาคุยเป็นช่วง และบอกว่าจะกลับมาวันนี้ ซึ่งผมงงมากเค้าไม่คิดจะมาคุยเรื่องที่ทะเลาะกันเลย บอกจะมาก็มา พอเค้ากลับมาผมก็ลองถามๆไปว่าอยู่กับเพื่อนเป็นยังไง เค้าก็ตอบตามปกติซึ่งไม่มี คำถาม หรือพูดถึงเรื่องที่ทะเลาะกันเลย โดยปกติตามนิสัยผมแล้ว ผมอยากพูดมาก แต่เคยตกลงกันไว้ว่าจะไม่พูดถึงเรื่องที่ทะเลาะกันเพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่ดี และผมก็ไม่รู้สึกอยากพูดเรื่องนี้ด้วย เหมือนกับอยากให้เค้าพูดเปิดมากกว่า ผมคงรู้สึกเหนื่อยกับความสัมพันธ์ที่ทะเลาะกัน แล้วต้องบอกเลิก หรือไม่ก็โดนด่าทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ ผมร้องไห้ทุกครั้ง เสียใจทุกครั้ง ที่คิดว่าคนที่รักกันเค้าต้องทำร้ายร่างกาย (ปัจจุบันไม่ได้ทำเเล้วนะครับเป็นเรื่องอดีต อย่างมากก็บอกว่าถ้าอยากให้หายโกรธ ให้ผมต่อยหน้าตัวเองเพราะเค้าไม่อยากทำ) รวมถึงพูดจาทำร้ายจิตใจกันด้วยหรอ ถึงแม้จะทะเลาะกันก็ตาม
ส่วนเรื่องคนที่ผมคุยผมรู้สึกชอบมาก รู้สึกว่าเค้ามีเหตุผล และเข้าใจ รวมถึงจะไม่พูดคำพูดที่ทำร้ายกันในตอนทะเลาะกัน แต่ผมก็หยุดคุยทันที เพราะผมมองว่าความสัมพันธ์กับแฟนผมยังไม่เลิกกัน ก็ไม่ควรเอาคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาเพิ่มให้มีปัญหา และเป็นการนอกใจ
ปัจจุบันกลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ผมรู้สึกไม่เหมือนเดิมคิดว่าจะเลิกดีไหม แต่ก็ลังเล ผมรู้สึกว่าอยากออกมาทำอะไรด้วยตัวเอง อยากลองทำอะไรที่วางแผนทำไม่ได้ เพราะเงินใช้ร่วมกัน และต้องบริหารให้มีเงินเก็บตามที่วางแผนไว้ ความรู้สึกตอนนี้ทุกครั้งที่เค้าไม่อยู่ห้องผมรู้สึกเฉยๆ และไม่ได้คิดถึงอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าห่างกันจริง จะกลายเป็นผมหรือเปล่าที่ต้องการเขา หรือที่ใจผมไม่เหมือนเดิมเพราะคนที่เคยคุยไหม เหมือนผมขาดความหลงไหลในตัวเขาไปแล้ว และไม่รู้ว่าจะกลับมาได้ไหม ความรู้สึกเหมือนความมั่นคงที่มันค่อยๆโดนความรู้สึกไม่ดีที่โดนด่าว่า และบอกเลิกจนมันระเบิดหายไป แฟนผมเขาดีหมดเลยยิ้มแย้ม ใจดี มีความเป็นผู้นำ เพื่อนเยอะ ชอบไปเที่ยว จัดสรรเครื่องใช้ เวลามีอะไรอร่อยก็จะนึกผมว่าอยากให้ไปกินด้วย เวลามีชุด หรือของใช้ที่ดูดี เขาก็มักจะซื้อมาให้ รวมถึงค่อยเตือนให้พัฒนาตัวเอง ถ้าเป็นเวลาปกติคือเขาเป็นคนที่ดีในฐานะแฟนเลยครับ
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำยังไง เพราะผมเผลอไปชอบคนอื่นหรอ หรือเพราะผมโดนทำร้ายจิตใจซ้ำๆหรอ บางทีก็แอบคิดว่าถ้าต้องเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ทะเลาะจนอายุ 50-60 ผมจะรับได้ไหม ก็เคยคุยจริงจังเรื่องนี้แล้วนะครับ แต่ก็นานละว่า จะไม่บอกเลิก แต่ครั้งนี้เหมือนผมไม่อยากพูด ไม่อยากบอก ไม่อยากปรับอะไรแล้ว อยากให้เค้าเข้ามาคุยมาถามมากกว่า ผมจึงจะพูด เหมือนใจมันหายไปแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าพอเลิกจริงๆ ผมจะเป็นฝ่ายโหยหาเค้าแทนหรือเปล่า อะไรดีๆก็ผ่านมากันเยอะ ความทุกข์ก็ผ่านด้วยกันมาเยอะ ใจผมยังเหมือนเดิมไหม หรือกลับมาได้ไหม หรือตอนนี้แค่สับสน
ทะเลาะแล้วบอกเลิกกันบ่อย
ผมกับแฟนช่วงแรกทะเลาะกันบ่อยมาก ช่วง 1-2 ปีแรก แฟนผมจะอารมณ์ร้อน ถ้าเห็นผมเย็นก็ต้องยั่วยุจนให้ร้อนตาม เค้าชอบบอกให้ผมต่อยตัวเอง หรือเข้ามาต่อยหน้าผมเอง เพราะเค้าอยากให้ผมเจ็บเหมือนความรู้สึกของเค้า ซึ่งทุกครั้งที่เกิดเหตุการ์ณเหล่านี้ ผมร้องไห้ทุกครั้งที่คนที่รักต้องการทำให้เราเจ็บ จากการทำร้ายร่างกาย หรือจากคำด่า เช่น โง่ เอาเรื่องเก่าๆที่เคยทำพลาดมาพูด มีอะไรดีบ้างให้ลองพูดมา หรืออีกกรณีก็จะบอกเลิก และหนีออกจากห้องไปแล้วพิมพ์ข้อความมาซึ่งสื่อความหมายว่าจะเลิกกันจริงๆ บล็อคทุกช่องทางติดต่อ สาเหตุหลักๆ (ซึ่งเรื่องอื่นก็มีที่ไม่ใช่เถียงนะครับ) ที่ทะเลาะกัน คือผมชอบเถียง ซึ่งเคยหาวิธีแก้และตกลงกันแล้วว่าจะไม่เถียงทุกเรื่อง ผมพยายามแล้ว ที่จะไม่เถียงเพราะในมุมผมมันคือการอธิบาย บางทีมันเป็นการตอบไปโดยอัตโนมัติ เช่น เค้าถามว่าทำไหมถึงซักเสื้อผ้าเยอะ ฯลฯ
หลังจากผ่านช่วงปรับตัวมากันแล้ว การทะเลาะกันมีน้อยลง การทำร้ายร่างกายก็น้อยลงเพราะเค้าสงสารผมที่ต้องเจ็บตัวตลอด แต่คำพูดที่ทำร้ายจิตใจยังคงมีอยู่ทุกครั้งที่ทะเลาะ
ช่วงหลังมีการทะเลาะกันน้อยลง น่าจะเดือนละ 2-3 ครั้ง อาจเพราะเค้าเข้าใจ และรับได้ข้อเสียของผม ซึ่งล่าสุดได้มีการทะเลาะกัน ซึ่งในส่วนนี้ผมมองว่าผมผิดในเรื่องที่ทะเลาะ เพราะเข้าใจผิดว่าเค้าพูดไม่ดี เลยส่งผลให้ทะเลาะกัน หลังจากนั้นแฟนผมก็วิ่งออกไป และบอกเลิกทั้งทุกคำพูดทุกการกระทำ และบล็อคทุกช่องทางติดต่อ หลังจากนั้นผมก็ร้องไห้อยู่ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งมันเจ็บมาก อาจเพราะเคยทะเลาะกันบ่อย และถ้าไม่บอกเลิก ก็จะพูดคำพูดที่ไม่ดีอยู่เสมอ ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน อยู่ดีๆผมก็รู้สึกว่าผมอยู่คนเดียวได้ และลุกขึ้นมาจัดสรรว่าต้องแบ่งเงิน หรือทรัพย์สินที่มีร่วมกันยังไง ***แฟนผมเคยบอกว่าถ้าเค้าเลิก และหนีออกไปจากห้องได้คือจะไม่กลับมาแล้ว ทุกครั้งที่ทะเลาะกันผมไม่เคยปล่อยเค้าออกไปจากห้องเลย*** หลังจากนั้นไม่ถึงวันแฟนผมก็ทักมาให้ขนเสื้อผ้าไปให้บางส่วนโดยเรียก Grab ส่วนที่เหลือจะมาขนของไปทีหลัง และผมเข้าใจว่าเลิกจริงๆแน่เลย จึงหาคนอื่นในแอฟคุยไปเรื่อยๆ จนเผลอไปชอบคนอื่นเข้า (ซึ่งที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดที่จะทำ หรือมองผู้หญิงคนอื่นเลย ไม่ว่าเค้าจะไปนอนบ้านเพื่อน 5 วันก็ตาม) ผ่านมา 1-3 วัน แฟนผมก็ทักมาคุยเป็นช่วง และบอกว่าจะกลับมาวันนี้ ซึ่งผมงงมากเค้าไม่คิดจะมาคุยเรื่องที่ทะเลาะกันเลย บอกจะมาก็มา พอเค้ากลับมาผมก็ลองถามๆไปว่าอยู่กับเพื่อนเป็นยังไง เค้าก็ตอบตามปกติซึ่งไม่มี คำถาม หรือพูดถึงเรื่องที่ทะเลาะกันเลย โดยปกติตามนิสัยผมแล้ว ผมอยากพูดมาก แต่เคยตกลงกันไว้ว่าจะไม่พูดถึงเรื่องที่ทะเลาะกันเพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่ดี และผมก็ไม่รู้สึกอยากพูดเรื่องนี้ด้วย เหมือนกับอยากให้เค้าพูดเปิดมากกว่า ผมคงรู้สึกเหนื่อยกับความสัมพันธ์ที่ทะเลาะกัน แล้วต้องบอกเลิก หรือไม่ก็โดนด่าทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ ผมร้องไห้ทุกครั้ง เสียใจทุกครั้ง ที่คิดว่าคนที่รักกันเค้าต้องทำร้ายร่างกาย (ปัจจุบันไม่ได้ทำเเล้วนะครับเป็นเรื่องอดีต อย่างมากก็บอกว่าถ้าอยากให้หายโกรธ ให้ผมต่อยหน้าตัวเองเพราะเค้าไม่อยากทำ) รวมถึงพูดจาทำร้ายจิตใจกันด้วยหรอ ถึงแม้จะทะเลาะกันก็ตาม
ส่วนเรื่องคนที่ผมคุยผมรู้สึกชอบมาก รู้สึกว่าเค้ามีเหตุผล และเข้าใจ รวมถึงจะไม่พูดคำพูดที่ทำร้ายกันในตอนทะเลาะกัน แต่ผมก็หยุดคุยทันที เพราะผมมองว่าความสัมพันธ์กับแฟนผมยังไม่เลิกกัน ก็ไม่ควรเอาคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาเพิ่มให้มีปัญหา และเป็นการนอกใจ
ปัจจุบันกลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ผมรู้สึกไม่เหมือนเดิมคิดว่าจะเลิกดีไหม แต่ก็ลังเล ผมรู้สึกว่าอยากออกมาทำอะไรด้วยตัวเอง อยากลองทำอะไรที่วางแผนทำไม่ได้ เพราะเงินใช้ร่วมกัน และต้องบริหารให้มีเงินเก็บตามที่วางแผนไว้ ความรู้สึกตอนนี้ทุกครั้งที่เค้าไม่อยู่ห้องผมรู้สึกเฉยๆ และไม่ได้คิดถึงอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าห่างกันจริง จะกลายเป็นผมหรือเปล่าที่ต้องการเขา หรือที่ใจผมไม่เหมือนเดิมเพราะคนที่เคยคุยไหม เหมือนผมขาดความหลงไหลในตัวเขาไปแล้ว และไม่รู้ว่าจะกลับมาได้ไหม ความรู้สึกเหมือนความมั่นคงที่มันค่อยๆโดนความรู้สึกไม่ดีที่โดนด่าว่า และบอกเลิกจนมันระเบิดหายไป แฟนผมเขาดีหมดเลยยิ้มแย้ม ใจดี มีความเป็นผู้นำ เพื่อนเยอะ ชอบไปเที่ยว จัดสรรเครื่องใช้ เวลามีอะไรอร่อยก็จะนึกผมว่าอยากให้ไปกินด้วย เวลามีชุด หรือของใช้ที่ดูดี เขาก็มักจะซื้อมาให้ รวมถึงค่อยเตือนให้พัฒนาตัวเอง ถ้าเป็นเวลาปกติคือเขาเป็นคนที่ดีในฐานะแฟนเลยครับ
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำยังไง เพราะผมเผลอไปชอบคนอื่นหรอ หรือเพราะผมโดนทำร้ายจิตใจซ้ำๆหรอ บางทีก็แอบคิดว่าถ้าต้องเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ทะเลาะจนอายุ 50-60 ผมจะรับได้ไหม ก็เคยคุยจริงจังเรื่องนี้แล้วนะครับ แต่ก็นานละว่า จะไม่บอกเลิก แต่ครั้งนี้เหมือนผมไม่อยากพูด ไม่อยากบอก ไม่อยากปรับอะไรแล้ว อยากให้เค้าเข้ามาคุยมาถามมากกว่า ผมจึงจะพูด เหมือนใจมันหายไปแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าพอเลิกจริงๆ ผมจะเป็นฝ่ายโหยหาเค้าแทนหรือเปล่า อะไรดีๆก็ผ่านมากันเยอะ ความทุกข์ก็ผ่านด้วยกันมาเยอะ ใจผมยังเหมือนเดิมไหม หรือกลับมาได้ไหม หรือตอนนี้แค่สับสน