โพลชี้ ‘ค่าครองชีพ-ราคาสินค้า’ ปัญหาเร่งด่วนวันนี้! เชื่อ รัฐบาลอาจแก้ไม่ได้
https://www.thebangkokinsight.com/news/politics-general/politics/1465573/
.
"สวนดุสิตโพล" เปิดผลสำรวจความเห็นล่าสุด พบคนส่วนใหญ่ มอง "ค่าครองชีพ-ราคาสินค้า" เป็นปัญหาเร่งด่วน ที่อยากให้รัฐบาลแก้ไขมากที่สุด แต่เกือบ 70% คิดว่ารัฐไม่น่าจะแก้ได้
.
"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง "ปัญหาเร่งด่วนของคนไทย ณ วันนี้" จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,264 คน ระหว่างวันที่ 11-14 มีนาคม 2568 สรุปผลได้ ดังนี้
.
.
"5 ปัญหาเร่งด่วน" ณ วันนี้ ที่ประชาชนอยากให้รัฐบาลแก้ไขมากที่สุด
• อันดับ 1 ค่าครองชีพ/ราคาสินค้า 72.55%
• อันดับ 2 รายได้/หนี้สิน 69.09%
• อันดับ 3 การเมือง 65.28%
• อันดับ 4 กระบวนการยุติธรรม 64.58%
• อันดับ 5 ปัญหาภาคการเกษตร 62.30%
.
ประชาชนคิดว่ารัฐบาลจะแก้ไข "ปัญหาเร่งด่วน" ได้สำเร็จหรือไม่
• ค่าครองชีพ/ราคาสินค้า ไม่น่าจะสำเร็จ 68.80% สำเร็จ 31.20
• รายได้/หนี้สิน ไม่น่าจะสำเร็จ 74.33% สำเร็จ 25.67%
• การเมือง ไม่น่าจะสำเร็จ 72.18% สำเร็จ 27.82%
• กระบวนการยุติธรรม ไม่น่าจะสำเร็จ 71.61% สำเร็จ 28.39%
• ปัญหาภาคการเกษตร ไม่น่าจะสำเร็จ 76.30% สำเร็จ 23.70%
.
ปัญหาที่พบในช่วงรัฐบาลแพทองธาร เมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนคิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง
• อันดับ 1 ปัญหายังมีเหมือนเดิม ยังไม่เห็นการแก้ไขที่ชัดเจน เช่น ทุจริตคอร์รัปชัน การเมือง 43.75%
• อันดับ 2 หลายปัญหาแย่ลง กระทบต่อชีวิตประจำวันมากขึ้น เช่น ค่าครองชีพ หนี้สิน 29.19
• อันดับ 3 หลายปัญหามีแนวโน้มดีขึ้น เช่น กระตุ้นการท่องเที่ยว ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 27.06%
.
ประชาชนคิดว่ามาตรการแจกเงิน 10,000 บาท ในกลุ่มวัยรุ่นจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้มากน้อยเพียงใด
• อันดับ 1 พอจะช่วยได้บ้าง อาจกระตุ้นในช่วงสั้น ๆ แต่ไม่ส่งผลระยะยาว 34.18%
• อันดับ 2 ช่วยได้เล็กน้อย วัยรุ่นอาจใช้เงินกับสินค้าและบริการเฉพาะกลุ่ม 28.80%
• อันดับ 3 ไม่ช่วยเลย ไม่ได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจเชิงโครงสร้าง เพิ่มภาระงบประมาณของรัฐ 23.65%
• อันดับ 4 ช่วยได้มาก เพราะการใช้จ่ายของวัยรุ่นก็ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม 13.37%
.
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลโพลสะท้อนชัดว่า ปัญหาปากท้องยังคงเป็นความกังวลหลักของประชาชน แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่หลายปัญหายังคงเดิมโดยยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น
.
ทั้งปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ปัญหาการเมือง หรือค่าครองชีพที่พุ่งไม่หยุด ด้านมาตรการแจกเงินหมื่นก็ยังถกเถียงกันถึงเรื่องประสิทธิภาพ เมื่อรวมทุกปัจจัยเข้าด้วยกัน ประชาชนจึงรู้สึกว่า รัฐบาลก็ใหม่ ต่ทำไมยังไม่แตกต่าง
.
.
‘โรม’ เผยเวลาซักฟอกไม่ควรเอากรอบ 2 วันมาวาง หรือไม่มีผลงานเพียงพอเลยไม่ต้องการเวลาเยอะ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5094097
‘โรม’ เผยเวลาซักฟอกไม่ควรเอากรอบ 2 วันมาวาง หรือไม่มีผลงานเพียงพอเลยไม่ต้องการเวลาเยอะ
.
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการเจรจากรอบเวลาการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 กับพรรครัฐบาล ว่า ตนเชื่อว่าในวันที่ 19 มีนาคมที่จะมีการนัดประชุมร่วมกับรัฐบาลอีกครั้งนั้น จะสามารถหาข้อสรุปได้ แต่คงต้องอยู่ที่ฝ่ายรัฐบาลด้วยว่าเขาจะว่าอย่างไร ซึ่งเราก็ประกาศชัดเจนว่าเราต้องการอะไรและทางฝั่งรัฐบาลก็ทราบว่าเราต้องการอะไร หากอยากให้ทุกอย่างเดินต่อได้ ตนคิดว่าก็ควรที่จะต้องมีข้อสรุปในส่วนนี้ที่ชัดเจน ยืนยันว่าเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน
.
“เวทีนี้เป็นเวทีของฝ่ายค้าน เราอยากได้เวลาในการอภิปรายเต็มที่ และเราก็อยากให้รัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีในการตอบข้อชี้แจงต่างๆ ในประเด็นที่ฝ่ายค้านกล่าวหาที่มากเพียงพอ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อฝ่ายรัฐบาลเอง หากรัฐบาลเชื่อว่าตัวเองมีผลงานเยอะโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรกับเรื่องนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวว่าเวลาในการอภิปรายมันจะเยอะเกินไป เพราะถึงที่ตรวจหากนายกรัฐมนตรีเป็นคนที่ทำงานได้ดี ท่านก็สามารถที่จะตอบชี้แจงในสภาได้อยู่แล้ว” นายรังสิมันต์กล่าว
.
เมื่อถามว่า เบื้องต้นยังยืนยันว่าฝ่ายค้านจะขอเวลา 30 ชั่วโมงใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า เรายืนยันเหมือนเดิม แต่ขั้นตอนแรกก่อนที่จะคุยกันเรื่องจำนวนชั่วโมงนั้น เรายืนยันว่าไม่ควรที่จะนำแนวคิดเรื่องกรอบเวลาสองวันมาวางก่อน เพราะไม่ได้ตอบอะไรเลย หรือว่ารัฐบาลไม่มีผลงานเพียงพอที่จะชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านได้มาก จึงไม่ต้องการเวลาเยอะเพื่อจะตอบชี้แจงใช่หรือไม่
.
เมื่อถามถึง กรณีที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เสนอสูตร 23+7 คือฝ่ายค้าน 23 ชั่วโมง และฝ่ายรัฐบาล 7 ชั่วโมง มองว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตกลงนี่คือเวทีของใคร เป็นการเสนอญัตติโดยนายวิสุทธิ์หรือพรรค พท. หรือเป็นการเสนอญัตติโดยฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านรู้ดีที่สุดว่าเราต้องการเวลาเท่าไหร่ และเราก็พยายามเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้นายกรัฐมนตรีมีเวลาชี้แจงต่อสภาเยอะๆ เราอยากเห็นนายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นผู้นำในสภา เชื่อว่าประชาชนจำนวนมากอยากเห็นนายกรัฐมนตรีแสดงข้อมูลหักล้างในข้อกล่าวหาที่ฝ่ายค้านเตรียมไว้
.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าหากทั้งสองฝ่ายมีเวลาเยอะ ซึ่งคงจะไม่ได้เยอะแบบเจ็ดวันเจ็ดคืนอยู่แล้ว แต่อยู่ในระดับที่เหมาะสม ตนคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อนายกรัฐมนตรี ต่อประชาชน และต่อการทำงานในสภา ยืนยันว่าวันนี้ฝ่ายค้านต้องมีเวลาที่เพียงพอ และคนที่จะตอบได้ว่าเพียงพอหรือไม่นั้น ไม่ใช่นายวิสุทธิ์ที่ทำหน้าที่เป็นประธานวิปรัฐบาล
.
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่นเรื่องกรอบเวลาแล้วบ้างหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า นั่นจะเป็นขั้นตอนของนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน
.
เมื่อถามถึง ความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขคำในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายรังสิมันต์กล่าวว่า “ขอให้อดใจรออีกนิด เดี๋ยวคงจะมีการเปิดเผยได้ในไม่ช้า” ต่อข้อถามว่า จะเป็นสัปดาห์หน้าเลยหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า “คิดว่าน่าจะราวๆ นั้น ไม่ช้าหรอก เบื้องต้นอาจจะมีเรื่องของเงื่อนเวลา ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานงานทั้งทางด้านธุรการต่างๆ ด้วย แต่คิดว่าจะมีรายละเอียดออกมาในเร็วๆ นี้”
.
.
เตือนรับความเสี่ยงศก.ครึ่งหลังปี 68 สงครามการค้าลามซัพพลายเชน
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1170854
.
"ทีดีอาร์ไอ" - "เอเชียพลัส"เตือนรับความเสี่ยงเศรษฐกิจครึ่งหลังปี 68 "สงครามการค้า" ลามซัพพลายเชนธุรกิจ กระทบการลงทุน-กำลังซื้อ ห่วงเศรษฐกิจไทยไร้เครื่องมือรับมือ
.
มาตรการภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่มีความไม่แน่นอนสูง และมีการประกาศจะใช้กับทุกประเทศที่มีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯหรือใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่สหรัฐฯมองว่าไม่เป็นธรรม กลายเป็นความเสี่ยงสำคัญของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยมากขึ้น
.
แม้ว่าในขณะนี้สหรัฐฯยังไม่ได้ประกาศขึ้นภาษีไทยในฐานะที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯสูงเป็นลำดับที่ 11 ในบรรดาคู่ค้ากับสหรัฐฯทั้งหมด แต่ก็เกิดความกังวลและไม่มั่นใจว่าไทยจะสามารถเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯได้มากน้อยเพียงใดซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่เป็นความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่ผลกระทบจากมาตรการภาษีจะมีความชัดเจนมากขึ้น และอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจและภาคธุรกิจในปัจจุบัน
.
เมื่อเร็วๆนี้ ในงานสัมมนาใหญ่ประจำปีของ 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมอาคารชุดไทย ระหว่างการเสวนาหัวข้อปรับทิศทางอสังหาฯ 2025 วิกฤติหรือโอกาสฯตลาดอสังหาริมทรัพย์ ความท้าทายใหม่ในภาวะเปลี่ยนผ่านว่าในปี 2568 ได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยในปีนี้
.
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย หลักทรัพย์เอเชีย พลัส จำกัด กล่าวว่าช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยถือว่าน่าเป็นห่วงจากปัจจัยสงครามการค้าที่จะมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเมื่อการค้าโลกได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าไม่ได้กระทบแค่ภาคส่งออก แต่กระทบไปยังซัพพลายเชนต่อเนื่อง เรื่องการลงทุนของธุรกิจและกำลังซื้อของคน จึงยังน่าเป็นห่วงอย่างมากว่าจะกระทบกับเศรษฐกิจไทยหนักขึ้น
.
“ตอนนี้ประเทศไทยเหมือนคนที่เข้าสู่สนามรบโดยมีอาวุธจำกัดมากไม่ว่าจะเป็นนโยบายการคลังที่หนี้สาธารณะใกล้จะชนเพดาน ส่วนดอกเบี้ยนโยบายก็มีอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือแค่ 2% ไม่น่าจะลดดอกเบี้ยลงไปมากกว่านี้ได้มากนัก”
.
ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยในปี 2568 ยังอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องเร่งระบายสต็อกจากที่มีการชะลอตัวในส่วนของยอดขายในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการลดสต็อกของผู้ประกอบการทำให้ผู้สามารถเพิ่มการถือเงินสดที่จะใช้ในการบริหารงานและบริหารโครงการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ที่มีความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจได้ดีขึ้น
.
ทั้งนี้จากข้อมูลของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 14 บริษัทที่มีการติดตามพบว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2568 ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ประมาณ 3.2 แสนล้านบาท จาก 3.4 แสนล้านบาทในปีที่แล้ว ขณะที่โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจากปี 2567 ยังมียอดคงค้างสูงกว่า 8.5แสนล้านบาท
.
ขณะที่ในมุมมองของนางสาวกิริฏา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงมากที่สุดคือนโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีการใช้มาตรการสงครามการค้า ซึ่งขณะนี้มีหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศมาตรการภาษีแล้ว
JJNY : โพลชี้ปัญหาเร่งด่วนวันนี้!│‘โรม’เผยไม่ควรเอากรอบ 2 วันมาวาง│เตือนรับความเสี่ยงศก.│ลามถึงสื่อ! มะกันสั่งพักงานจนท.
.
‘โรม’ เผยเวลาซักฟอกไม่ควรเอากรอบ 2 วันมาวาง หรือไม่มีผลงานเพียงพอเลยไม่ต้องการเวลาเยอะ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5094097
.
.