ลดหย่อนภาษีปี 2568 ได้จุก ๆ สูงสุดถึง 1.4 ล้านบาท

คนไทยเฮ! กองทุน “Thai ESG Extra” หรือ “Thai ESGX” สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 500,000 บาท โดยไม่ต้องนำมานับรวมลดหย่อนภาษีกับกลุ่มเกษียณอื่น ๆ ในปีภาษี 2568 ที่จะต้องยื่นภาษีในช่วงต้นปี 2569 มีรายการลดหย่อนภาษีจากการลงทุนรวมกันได้สูงสุดถึง 1,400,000 บาท

ในแต่ละปีหลายคนคงกำลังมองหาวิธีที่จะทำให้ภาษีที่ต้องจ่ายน้อยลง ซึ่งการวางแผนลดหย่อนภาษีให้ถูกต้อง จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้น ดังนั้นลองมาทบทวนเพื่อเตรียมความพร้อม ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับรายการลดหย่อนภาษี ซึ่งพบว่าในปีภาษี 2568 ที่จะต้องยื่นภาษีในช่วงต้นปี 2569 มีรายการลดหย่อนภาษีจากการลงทุนรวมกันได้สูงสุดถึง 1,400,000 บาท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 รัฐบาลได้อนุมัติให้จัดตั้งกองทุนใหม่ชื่อ “Thai ESG Extra” หรือ “Thai ESGX” ซึ่งเป็นกองทุนลดหย่อนภาษีใหม่ ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 500,000 บาท โดยไม่ต้องนำมานับรวมลดหย่อนภาษีกับกลุ่มเกษียณอื่น ๆ

ในส่วนสับเปลี่ยนจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ปีแรกลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 300,000 บาท ส่วนที่เหลือ 200,000 บาท ให้ใช้สิทธิในปีภาษีต่อ ๆ ไป ปีละ 50,000 บาท จนครบจำนวน ทั้งนี้ต้องลงทุนภายในวันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 เท่านั้น

ขณะที่ส่วนใช้เงินใหม่ซื้อ ลดหย่อนสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน หรือไม่เกิน 300,000 บาท และต้องลงทุนภายในวันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 เช่นกัน

ทำให้เมื่อรวมรายการลดหย่อนภาษีกับกองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ที่ลดหย่อนได้ 30% ของรายได้ ไม่เกิน 300,000 บาท

และรวมกับสิทธิลดหย่อนภาษี RMF + กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ + กบข. + ประกันชีวิตแบบบำนาญ + กองทุนสงเคราะห์ครู ที่ลดหย่อนภาษีรวมได้ไม่เกิน 500,000 บาท เท่ากับจะสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 1,400,000 บาท



ทำไมกองทุน Thai ESGX ถึงน่าสนใจ?
เพราะเป็นกองทุนที่ให้สิทธิลงทุนลดหย่อนภาษีพิเศษมากกว่าปีก่อน ๆ โดยในปี 2568 อาจได้ลดหย่อนภาษีสูงถึง 900,000 บาท

ทำไมรัฐบาลถึงออกกองทุน Thai ESGX?
เหตุผลหลัก ๆ มี 2 ข้อคือ 1. แก้ปัญหาภาวะตลาดหุ้นไทยในปีนี้ กองทุน LTF ทั้งหมดครบกำหนดการถือครอง ทำให้คนอาจขายกองทุน LTF ที่ลงทุนในหุ้นไทยออกมา เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นปีนี้ และ 2. ส่งเสริมการลงทุนแบบยั่งยืน โดยรัฐบาลอยากส่งเสริมให้คนไทยได้ลงทุนในบริษัทที่ดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และมีการบริหารจัดการที่ดี (ESG)

Thai ESGX ลงทุนในอะไร?
กองทุนนี้จะลงทุนในหุ้นของบริษัทไทยที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และมีการบริหารจัดการที่ดี อย่างน้อย 65% ของเงินในกองทุน

สิทธิพิเศษทางภาษีของ Thai ESGX สามารถลงทุนได้ 2 แบบ
แบบที่ 1: สำหรับคนที่ใช้เงินใหม่ซื้อ
• ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน หรือ ไม่เกิน 300,000 บาท
• ต้องซื้อในช่วง 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 เท่านั้น
• ถือไว้อย่างน้อย 5 ปี (วันชนวัน)

แบบที่ 2: สำหรับคนที่มี LTF อยู่แล้ว
• โอน LTF ทั้งหมดที่มีอยู่ ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568 มาเข้า Thai ESGX
• ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 500,000 บาท แบ่งเป็น:
o ปีแรก (2568) ลดหย่อนได้ 300,000 บาท
o อีก 4 ปีถัดไป ลดหย่อนได้ปีละ 50,000 บาท (รวม 200,000 บาท)
• ต้องโอนภายในช่วง 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2568 เท่านั้น
• ต้องถือไว้อย่างน้อย 5 ปี (วันชนวัน) นับจากวันที่โอน

ทั้งนี้ในส่วนรายการลดหย่อนภาษีอื่น ๆ ประกอบด้วย

1.ค่าลดหย่อนสำหรับลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 500,000 บาท
2.ค่าลดหย่อนสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/สงเคราะห์ครู 15% ของเงินได้ ไม่เกิน 500,000 บาท
3.ค่าลดหย่อนสำหรับกองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 500,000 บาท
4.ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตบำนาญ 15% ของเงินได้ ไม่เกิน 200,000 บาท

ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว
1.ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท สำหรับผู้มีเงินได้ทุกคน
2.ค่าลดหย่อนสำหรับคู่สมรส 60,000 บาท โดยที่คู่สมรสต้องไม่มีรายได้
3.ค่าลดหย่อนสำหรับบุตร คนละ 30,000 บาท บุตรคนที่ 2 ที่เกิดตั้งแต่ปี 2561 ลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท
4.ค่าลดหย่อนสำหรับฝากครรภ์ และค่าคลอดบุตร หักลดหย่อนได้ตามจริง ไม่เกิน 60,000 บาท
5.ค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูพ่อแม่ คนละ 30,000 บาท โดยที่พ่อแม่ต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี และมีอายุ 60 ปีขึ้นไป
6.ค่าลดหย่อนสำหรับดูแลผู้พิการ ทุพพลภาพ คนละ 60,000 บาท โดยที่ผู้พิการต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี และต้องมีบัตรประจำตัวผู้พิการ

ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน
1.ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพ ไม่เกิน 25,000 บาท
2.ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปและประกันสะสมทรัพย์ ไม่เกิน 100,000 บาท
3.ค่าลดหย่อนประกันสังคม มาตรา 33 ไม่เกิน 9,000 บาท
4.ค่าลดหย่อนประกันสุขภาพพ่อแม่ ไม่เกิน 15,000 บาท

หมายเหตุ : เบี้ยประกันสุขภาพ ประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์ รวมกัน จะลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ
1.ค่าลดหย่อน Easy E-Receipt 2568 ไม่เกิน 50,000 บาท
2.ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 100,000 บาท

ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค
1.ค่าลดหย่อนบริจาคทั่วไป ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
2.ค่าลดหย่อนการศึกษา กีฬา พัฒนาสังคม ประโยชน์สาธารณะและโรงพยาบาลของรัฐ 2 เท่าของเงินบริจาคจริงสูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
3.ค่าลดหย่อนพรรคการเมือง ไม่เกิน 10,000 บาท...

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/finance/news-1773709


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่