เก่ง
คุณเคยเห็นคลิป ‘ช็อคโกแลตดูไบ’ รูปหัวใจที่พอหักออกมาก็จะเห็นไส้พิตาชิโอสีเขียวฉ่ำๆ ไหม?
https://www.facebook.com/share/p/198gT7ExTK/
นั่นคือคลิปสุดไวรัลของ ‘The Rolling Pinn’
โดย ‘พิณ เจนวัฒนวิทย์’ และวันนี้ Brand Inside จะพาทุกคนไปรู้จักเรื่องราวความสำเร็จของแบรนด์กัน
[ จากเด็กหญิงที่หัดทำขนมตั้งแต่อายุ 11 สู่ยอดขายเกือบ 30 ล้าน ]
จุดเริ่มต้นของ The Rolling Pinn มาจากใจรักในการทานของหวาน โดยพิณเริ่มทำขนมตั้งแต่อายุ 11 ขวบ และมีแรงบันดาลใจเป็น ‘ตังเม - กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ’ เจ้าของ After You แถมยังเอาหนังสือสอนทำอาหารของเธอมาเรียนทำสูตรต่างๆ จนครบทั้ง 3 เล่มด้วย
สมัยเด็กๆ พิณรู้สึกว่า ถ้าวันนึงเปิดร้านขนมเป็นของตนเองได้ก็คงจะดี และตอนนี้ The Rolling Pinn เดินทางมาถึงปีที่ 6 พร้อมยอดขายปี 2023 ถึง 29 ล้านบาท
เดิมที The Rolling Pinn เริ่มจากการขายคุกกี้ออนไลน์ก่อน แต่จุดที่พลิกให้แบรนด์แมสมากๆ ในหมู่คนไทยคือ ช็อคโกแลตดูไบ ที่ดังมาก จนขายออกวันละ 1,500 ชิ้นติดต่อกันเป็นเวลานาน
ในส่วนของการเติบโต The Rolling Pin โตขึ้นประมาณ 3 เท่าในปี 2024 หรือถ้าลองคำนวณคร่าวๆ จากรายได้ของปี 2023 Brand Inside ประเมินว่าในปีที่ผ่านมา The Rolling Pinn อาจจะมีรายได้ทะลุ 80 ล้านบาทแล้ว
โดยพิณบอกว่า ยอดขายของปี 2024 เกินสัดส่วนที่คาดหวังไว้ราวๆ 50% และสำหรับปี 2025 ทางบริษัทตั้งเป้าที่จะโตขึ้นอีก 2 เท่า รวมถึงขยายสาขาออฟไลน์ด้วย แต่ก็ยังอยากเน้นออนไลน์เหมือนเดิมมากกว่า
[ เสิร์ฟ ‘เค้กด่วน’ ช่วยคนชอบลืม ]
พิณให้สัมภาษณ์ว่า วิธีการสร้างลูกค้าประจำ อันดับแรกเลยคือต้องสร้าง Branding ก่อน โดยเมนูต้องโดดเด่น ขนมอร่อย และบริการดี
นอกจากนี้ จุดเด่นของ The Rolling Pinn คือ ‘Emergency Cake’ ซึ่งเป็นเค้กที่ทางแบรนด์ทำเตรียมไว้สดใหม่ทุกๆ วัน แถมพร้อมส่งภายใน 3 ชั่วโมง เผื่อกรณีที่ลูกค้าลืมซื้อเค้กวันเกิดให้เพื่อน หรือตามโอกาสอื่นๆ
The Rolling Pinn ยังใช้ฟีเจอร์ ‘บรอดแคสต์’ บน LINE Official Account เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ารับรู้ถึงความด่วน และอยากซื้อเค้กมากขึ้นด้วย
[ เคยผิดหวังกับอินเดีย แต่ยังเตรียมไปเปิดประเทศอื่น ]
ปัจจุบัน เป้าหมายของแบรนด์คือการไปเปิดสาขาที่ต่างประเทศให้สำเร็จ เพราะจริงๆ พิณเคยลองไปเปิดที่อินเดียแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เนื่องจากรสชาติยังไม่ถูกปากคนในพื้นที่ และแบรนด์ไม่ได้รับความไว้วางใจมากพอ
หลังจากผิดหวังกับอินเดีย พิณก็กลับมาตั้งหลักที่ประเทศไทย แต่ยังไม่ยอมแพ้ โดยตอนนี้ประเทศที่เล็งๆ ไว้คือ ดูไบ เพราะคนที่นั่นชอบทานขนมเหมือนกัน มีกำลังทรัพย์เยอะ แถมสภาพแวดล้อมดูลักชูรีมาก เหมาะกับตัวตนแบรนด์ แต่ยืนยันว่า ยังไงก็ต้องศึกษาตลาดให้ดีๆ ก่อน
แล้ว Brand Inside จะพาทุกคนไปรู้จักกับแบรนด์ไทยเจ้าไหนอีก รอติดตามได้เลย
https://www.facebook.com/share/p/198gT7ExTK/
จากเด็กหญิงที่หัดทำขนมตั้งแต่อายุ 11 สู่ยอดขายเกือบ 30 ล้าน ‘ช็อคโกแลตดูไบ’
คุณเคยเห็นคลิป ‘ช็อคโกแลตดูไบ’ รูปหัวใจที่พอหักออกมาก็จะเห็นไส้พิตาชิโอสีเขียวฉ่ำๆ ไหม?
https://www.facebook.com/share/p/198gT7ExTK/
นั่นคือคลิปสุดไวรัลของ ‘The Rolling Pinn’
โดย ‘พิณ เจนวัฒนวิทย์’ และวันนี้ Brand Inside จะพาทุกคนไปรู้จักเรื่องราวความสำเร็จของแบรนด์กัน
[ จากเด็กหญิงที่หัดทำขนมตั้งแต่อายุ 11 สู่ยอดขายเกือบ 30 ล้าน ]
จุดเริ่มต้นของ The Rolling Pinn มาจากใจรักในการทานของหวาน โดยพิณเริ่มทำขนมตั้งแต่อายุ 11 ขวบ และมีแรงบันดาลใจเป็น ‘ตังเม - กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ’ เจ้าของ After You แถมยังเอาหนังสือสอนทำอาหารของเธอมาเรียนทำสูตรต่างๆ จนครบทั้ง 3 เล่มด้วย
สมัยเด็กๆ พิณรู้สึกว่า ถ้าวันนึงเปิดร้านขนมเป็นของตนเองได้ก็คงจะดี และตอนนี้ The Rolling Pinn เดินทางมาถึงปีที่ 6 พร้อมยอดขายปี 2023 ถึง 29 ล้านบาท
เดิมที The Rolling Pinn เริ่มจากการขายคุกกี้ออนไลน์ก่อน แต่จุดที่พลิกให้แบรนด์แมสมากๆ ในหมู่คนไทยคือ ช็อคโกแลตดูไบ ที่ดังมาก จนขายออกวันละ 1,500 ชิ้นติดต่อกันเป็นเวลานาน
ในส่วนของการเติบโต The Rolling Pin โตขึ้นประมาณ 3 เท่าในปี 2024 หรือถ้าลองคำนวณคร่าวๆ จากรายได้ของปี 2023 Brand Inside ประเมินว่าในปีที่ผ่านมา The Rolling Pinn อาจจะมีรายได้ทะลุ 80 ล้านบาทแล้ว
โดยพิณบอกว่า ยอดขายของปี 2024 เกินสัดส่วนที่คาดหวังไว้ราวๆ 50% และสำหรับปี 2025 ทางบริษัทตั้งเป้าที่จะโตขึ้นอีก 2 เท่า รวมถึงขยายสาขาออฟไลน์ด้วย แต่ก็ยังอยากเน้นออนไลน์เหมือนเดิมมากกว่า
[ เสิร์ฟ ‘เค้กด่วน’ ช่วยคนชอบลืม ]
พิณให้สัมภาษณ์ว่า วิธีการสร้างลูกค้าประจำ อันดับแรกเลยคือต้องสร้าง Branding ก่อน โดยเมนูต้องโดดเด่น ขนมอร่อย และบริการดี
นอกจากนี้ จุดเด่นของ The Rolling Pinn คือ ‘Emergency Cake’ ซึ่งเป็นเค้กที่ทางแบรนด์ทำเตรียมไว้สดใหม่ทุกๆ วัน แถมพร้อมส่งภายใน 3 ชั่วโมง เผื่อกรณีที่ลูกค้าลืมซื้อเค้กวันเกิดให้เพื่อน หรือตามโอกาสอื่นๆ
The Rolling Pinn ยังใช้ฟีเจอร์ ‘บรอดแคสต์’ บน LINE Official Account เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ารับรู้ถึงความด่วน และอยากซื้อเค้กมากขึ้นด้วย
[ เคยผิดหวังกับอินเดีย แต่ยังเตรียมไปเปิดประเทศอื่น ]
ปัจจุบัน เป้าหมายของแบรนด์คือการไปเปิดสาขาที่ต่างประเทศให้สำเร็จ เพราะจริงๆ พิณเคยลองไปเปิดที่อินเดียแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เนื่องจากรสชาติยังไม่ถูกปากคนในพื้นที่ และแบรนด์ไม่ได้รับความไว้วางใจมากพอ
หลังจากผิดหวังกับอินเดีย พิณก็กลับมาตั้งหลักที่ประเทศไทย แต่ยังไม่ยอมแพ้ โดยตอนนี้ประเทศที่เล็งๆ ไว้คือ ดูไบ เพราะคนที่นั่นชอบทานขนมเหมือนกัน มีกำลังทรัพย์เยอะ แถมสภาพแวดล้อมดูลักชูรีมาก เหมาะกับตัวตนแบรนด์ แต่ยืนยันว่า ยังไงก็ต้องศึกษาตลาดให้ดีๆ ก่อน
แล้ว Brand Inside จะพาทุกคนไปรู้จักกับแบรนด์ไทยเจ้าไหนอีก รอติดตามได้เลย
https://www.facebook.com/share/p/198gT7ExTK/