JJNY : 5in1 จ่อยื่นโต้แย้ง│ทนายแจม ยกเกาหลีใต้เทียบ│ห่วงสอบ A-Level│บก.ลายจุดโต้เดือด│

ฝ่ายค้านไม่ยอม จ่อยื่นหนังสือโต้แย้ง วันนอร์ มั่นใจมีชื่อทักษิณ ไม่ผิดเงื่อนไขรธน.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5081711

“ผู้นำฝ่ายค้าน” จ่อยื่นหนังสือโต้แย้ง ‘วันนอร์ ยันมีชื่อ ‘ทักษิณ’ ไม่ผิดเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ
 
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหนังสือด่วน ขอให้แก้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตัดชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เตรียมทำหนังสือโต้แย้งประธานกลับไป เพราะการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นสิทธิของสมาชิกที่เข้าชื่อครบตามรัฐธรรมนูญ ถ้าดูตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เขียนไว้ว่าให้ประธานมีอำนาจในการใช้ดุลพินิจไม่บรรจุญัตติได้ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้พวกเราเองก็คิดว่า เราดำเนินการทุกอย่างตามกรอบรัฐธรรมนูญหมดแล้ว จึงอยากให้ประธานสภาบรรจุญัตติ จะได้เริ่มเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
 
เมื่อถามว่า จะไม่กระทบกับไทม์ไลน์ใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ต้องพยายามหารือกัน ตนยังเชื่อว่าฝั่งประธานสภาและทางฝั่งรัฐบาลเอง ยังไม่ได้อยากทำให้เกิดเหตุการณ์อภิปรายไม่ทันสมัยประชุมนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นการดึงเรื่อง หรือถ่วงเวลาหรือไม่ ตนไม่อยากให้เกิดภาพนั้น
 
เมื่อถามว่า ถ้าบรรจุได้จะมีองครักษ์ของพรรคเพื่อไทยโต้แย้ง เกิดความไม่ราบรื่น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องยืนยันตามข้อเท็จจริง การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาก็มีการกล่าวถึงบุคคลภายนอกอยู่แล้ว ข้อบังคับก็เขียนไว้ชัดเจนว่าการที่มีการพูดพาดพิงถึงคนนอก ที่ไม่สามารถชี้แจงในสภาได้ และทำให้เกิดความเสียหาย อย่างไรสมาชิกคนที่เป็นผู้อภิปรายจะต้องเป็นคนรับผิดชอบเองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ตนเชื่อว่าคนไทยทุกคนเห็นข้อเท็จจริงว่าการบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบันนายทักษิณเองก็มีความเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย
 
เพราะฉะนั้นเราเองคิดว่าญัตติที่ยื่นไปสะท้อนตามข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ ไม่น่ามีเหตุผลอะไรที่ทางประธานเอง หรือรัฐบาลเองจะต้องมาเซ็นเซอร์ฝ่ายค้านในเรื่องนี้ สำหรับผมเอง ถ้าอยากให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจราบรื่น และเราสามารถสะท้อนตามข้อเท็จจริงได้ ประชาชนเห็นการอภิปรายที่ตรงไปตรงมา ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าพูดพาดพิงชื่อคนใดแล้วจะโดนประท้วงหรือเปล่า ก็ให้มันอยู่ในญัตติ ทุกคนจะได้ติดตามการอภิปรายได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องไปพูดชื่ออ้อมค้อม” นายณัฐพงษ์กล่าว
 
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เราก็คงยังไม่อยากเห็นเรื่องของการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายทักษิณคนเดียวเท่านั้น ตนเชื่อว่าการซักฟอกรัฐบาลก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนทุกคน ฝ่ายค้านจะอภิปรายบนพื้นฐานข้อเท็จจริงและรับผิดชอบตัวเองว่ากระทบกับคนอยู่ภายนอกสภาหรือไม่



ทนายแจม ยกเกาหลีใต้เทียบ หลังไทยแจก Ear Plug วันสอบ จัดตรงแอร์โชว์ ทอ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5080977

ทนายแจม ยกเกาหลีใต้เทียบ หลังไทยแจก Ear Plug วันสอบ A-Level จัดตรงแอร์โชว์ งานครบรอบ 88 ปีกองทัพอากาศ
 
จากกรณีกองทัพอากาศไทย (ทอ.) จัดงานครบรอบ 88 ปีกองทัพอากาศ ระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคม 2568 ณ กองบิน 6 ดอนเมือง โดยมีไฮไลต์คือ International Airshow ของฝูงบินผาดแผลงระดับโลกจากกองทัพชาติพันธมิตร
 
อย่างไรก็ดี วันที่ 8 มีนาคม ยังตรงกับการสอบ A-Level ปีการศึกษา 2568 จำนวน 4 วิชา ประกอบด้วย ชีววิทยา, ฟิสิกส์, ภาษาไทย, สังคมศึกษา โดยสนามสอบใน กทม.มีทั้งหมด 29 แห่ง รวมทั้ง โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ที่อยู่ในพื้นที่กองทัพอากาศด้วย
 
ปัญหานี้ ทอ.หาวิธีแก้ไขเบื้องต้นร่วมกับสนามสอบ ด้วยการจัดเตรียม เครื่องปลั๊กอุดหูเพื่อลดเสียง หรือ Ear Plug ให้กับผู้เข้าสอบแล้ว
 
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มีนาคม กองทัพอากาศได้แสดงการบินชุดที่ 1 และ 2 จากกองทัพชาติพันธมิตร ทั้งจีน สหรัฐอเมริกา อินเดีย รวมถึง ทอ.ไทย ไปเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ชมบางส่วนสะท้อนปัญหา “เสียงดังรบกวน” อีกทั้งกังวลว่าจะมีผลกระทบกับผู้เข้าสอบ A-Level ในวันพรุ่งนี้ด้วยนั้น
 
ด้าน น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หรือ ทนายแจม ส.ส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงเรื่องนี้ทาง X พร้อมแนบระเบียบการจัดสอบ College Scholastic Ability Test (CSAT) หรือ Suneung (ซูนึง) ของเกาหลีใต้ ความว่า 
 
หากเป็นการสอบ CSAT ในเกาหลีใต้ จะมีข้อห้ามในเรื่องการนำเครื่องบินขึ้นลงระหว่างการสอบค่ะ
 
โดยภาพที่ “ทนายแจม” แนบมา ระบุบางช่วงบางตอนว่า 

ห้ามเครื่องบินขึ้นลงหากไม่ใช่กรณีฉุกเฉินเป็นเวลา 35 นาที ในช่วงที่มีการทดสอบทักษะการฟังภาษาอังกฤษ มาตรการนี้กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันการฟังผิดพลาด เพราะจะมีการเปิดเสียงภาษาอังกฤษที่บันทึกไว้จำกัดตามจำนวนครั้งที่กำหนดเช่นเดียวกันทั่วประเทศ…
 
“มติชนออนไลน์” พาไปย้อนดูมาตรการวันสอบซูนึงของเกาหลีใต้ โดยอิงข้อมูลการจัดสอบเดือนพฤศจิกายน 2566 ว่าการสอบครั้งนี้ เป็นครั้งแรกหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 ที่ผู้สอบที่ตรวจพบว่าเป็นโควิด ได้รับอนุญาตให้สอบร่วมกับผู้อื่นที่ไม่ติดเชื้อในห้องสอบ
 
เพื่อควบคุมเสียงรบกวนระหว่างการสอบฟังภาษาอังกฤษของนักเรียน จึงไม่อนุญาตให้เครื่องบินทุกลำ ขึ้นบินและลงจอด ในระหว่าง
เวลา 13.05 น. และ 13.40 น. ทั่วประเทศ ขณะที่เครื่องบินทุกลำที่บินอยู่ ยกเว้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะต้องบินที่น่านฟ้าระดับความสูง 3 กิโลเมตร หรือสูงกว่าในช่วงเวลาที่จำกัด ทำให้เที่ยวบิน 94 เที่ยวบิน ต้องมีการปรับเปลี่ยนการบิน
 
ขณะที่ชั่วโมงเร่งด่วนในตอนเช้าสำหรับการให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงโซล เพิ่มขึ้นเป็น 06.00-10.00 น. จากเดิมเวลา 07.00-09.00 น. เพื่อให้ผู้เข้าสอบไปถึงศูนย์สอบได้ทันเวลา และปรับปรุงการให้บริการรถโดยสารประจำทางด้วย

https://x.com/lawyerJammy/status/1897844018832458136



ส.ส.ปชน.ห่วงสอบ A-Level ประสานทอ. ได้คำตอบยันชัด เร่งจัดแอร์โชว์ ให้กระทบน.ร.น้อยที่สุด.
https://www.matichon.co.th/local/education/news_5081736

ส.ส.ปชน.ห่วงสอบ A-Level ประสานทอ. ได้คำตอบยันชัด เร่งจัดแอร์โชว์ ให้กระทบน.ร.น้อยที่สุด
 
จากกรณีกองทัพอากาศไทย (ทอ.) จัดงานครบรอบ 88 ปีกองทัพอากาศ ระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคม 2568 ณ กองบิน 6 ดอนเมือง โดยมีไฮไลต์คือ International Airshow ของฝูงบินผาดแผลงระดับโลกจากกองทัพชาติพันธมิตร โดยวันที่ 8 มีนาคม ตรงกับการสอบ A-Level ปีการศึกษา 2568 ซึ่งมี โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ที่อยู่ในพื้นที่กองทัพอากาศได้รับผลกระทบนั้น
 
ล่าสุดทาง ทอ.จัดเตรียม เครื่องปลั๊กอุดหูเพื่อลดเสียง หรือ Ear Plug ให้กับผู้เข้าสอบแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม นายปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เปิดเผยว่า 
 
กรณีกองทัพอากาศจัดงานครบรอบ 88 ปี ในวันที่ 8 มี.ค. ซึ่งตรงกับวันสอบ A-Level ของนักเรียน ม.6 โดยอาจทำให้เกิดเสียงดังรบกวนกับ รร.ฤทธิยะวรรณาลัย และ รร.สีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมภ์) ซึ่งเป็นสนามสอบ A-Level ที่ตั้งอยู่ใกล้กองทัพอากาศนั้น ตนได้ประสานงานไปยัง ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข สส. กทม.พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การทหาร สภาผู้แทนราษฎร และ รศ.เพ็ญรัตน์ หงษ์วิทยากร รองเลขาธิการ ทปอ. เพื่อขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขแล้วค่ะ
 
โดยร.ท.ธนเดช ได้ประสานต่อไปยังโฆษกกองทัพอากาศแล้ว ซึ่งทางโฆษกกองทัพอากาศได้แจ้งว่า จะจัดกิจกรรมการแสดงเครื่องบินผาดโผนในวันดังกล่าวอย่างกระชับรวดเร็ว เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อนักเรียนน้อยที่สุด นอกจากนี้ทางกองทัพอากาศยังได้ส่งมอบอุปกรณ์อุดหูทางการแพทย์ชนิดโฟมนุ่ม 3 M หรือ Earplug จำนวน 1,370 คู่ ให้กับทางโรงเรียนอีกด้วย ส่วนทาง ทปอ. ก็ได้แจ้งว่า จะประสานงานกับทุกฝ่ายเพื่อให้การสอบ A-Level ของสนามสอบ 2 โรงเรียนนี้ เป็นไปอย่างเรียบร้อยมากที่สุด

ดิฉันขอขอบคุณเรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาชน, โฆษกกองทัพอากาศ และ รศ.เพ็ญรัตน์ หงษ์วิทยากร รองเลขาธิการ ทปอ. มา ณ ที่นี้ด้วย

https://www.facebook.com/aj.juang/posts/pfbid0aUQWCcpu7JYUuycCJauZMQQr5S1ZyvsDJssBcTjseMWucAUeyRcBd92MwL7Zr8dJl



บก.ลายจุด โต้เดือด หลังมือเผาป่าลี้ซัดทอด มูลนิธิกระจกเงาสั่งให้เผา ซัดปัดสวะให้การเท็จ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5081705

ก.ลายจุด โต้เดือด หลังมือเผาป่าลี้ซัดทอด มูลนิธิกระจกเงาสั่งให้เผา ชี้ปัดสวะให้การเท็จ

จากกรณี นาย สมบัติ บุญงามอนงค์ อดีตประธานกรรมการมูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์คลิปในเฟซบุ๊ก เป็นภาพจากโดรนของทีมอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา จับภาพชายใส่เสื้อแดง กำลังจุดไฟเผาในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ลี้ ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน จากนั้นมีการจับกุมชายคนดังกล่าว พร้อมให้การว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงาให้คำแนะนำ ว่า ให้เผาเศษวัชพืชที่อยู่ริมขอบสวนลำไยออกไป เนื่องจากว่ามีไฟป่าเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ป่าโดยรอบสวน นั้น
โดรนมูลนิธิกระจกเงา จับภาพชายเผาป่าลี้ กรมอุทยานฯ เด้งรับรุดตามตัว ล่าสุดจับได้แล้ว
 
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มีนาคม นายสมบัติ บุญงามอนงค์ อดีตประธานกรรมการมูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า
 
“ผมเรียกพฤติกรรมนี้ว่า ‘ปัดสวะ’ อาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงาอยู่ในพื้นที่ไฟ และดับไฟอยู่เขาด้านบน เราได้วิทยุแจ้งให้อาสาที่อยู่ใกล้ผู้จุดไฟว่าพวกเราดับไฟอยู่ด้านบนอย่าได้จุดไฟสวนขึ้นไปเพราะมันจะเป็นอันตราย โดยมีอาสาสมัครเดินไปคุยด้วย 2 ครั้งแต่ก็ยังไม่ยอมหยุด หัวหน้าชุดจึงใช้โดรนบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน
 
ส่วนอาสาสมัครพยายามดับไฟที่อยู่ด้านบนและส่วนหนึ่งได้พยายามดับไฟที่ชายเสื้อแดงจุดขึ้นมาใหม่ การสั่งห้ามปรามได้สั่งการผ่านวิทยุสื่อสารมีคนได้ยินคำสั่งการให้ห้ามจุดไฟหลายคน โดยมีทั้ง พระขุนเดช พรมสวัสดิ์ และผู้ช่วยเจ้าอาวาสอยู่ในเหตุการณ์สั่งการด้วย
 
การที่ผู้กระทำความผิดอ้างว่าได้รับคำแนะนำจากอาสาสมัครว่าให้จุดไฟจึงไม่ใช่ความจริง เพราะพวกเราไม่เคยใช้แนวทางจุดไฟชนไฟ เพราะมันอันตรายและมีโอกาสสูงที่ไฟจะลุกลามขยายตัว การใส่ความและให้การเท็จจะยิ่งทำให้เหตุในการทุเลาโทษหายไป ผู้กระทำผิดควรอธิบายเหตุผลและข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาดีที่สุด”

https://www.facebook.com/nuling/posts/pfbid0VFZogcwrjqQwfUzyNHPrnsUoiC3Fh5HfL7K5XvZxdh2v9boer1WefGLDxNmXAvY3l
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่