#ปัญหาโลกแตก “ วันรับรถ ”
ฉัน : รับรถเมื่อเงินพร้อม (ซึ่งทุกอย่างพร้อมแล้ว)
แม่ : รับรถเมื่อฤกษ์ดี
**** ทำไมเราไม่เลือกฤกษ์สะดวกเป็นอันดับแรก ทั้งที่ตัวเราเองเป็นคนหาเงินจ่ายค่าดาวน์รถ ค่างวดรถ .
**** มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้ารับรถในวัน “ฤกษ์ดี” แต่การใช้ชีวิตของเราไม่ดี
#แค่นี้ก็เริ่มเป็นปัญหาแล้ว
<<< บางทีครอบครัวอาจจะไม่ใช่เซฟโซนเสมอไป >>>
เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมจะออกรถยนต์ครับ
- ตอนแรกผมอยากรับรถเมษา ประมาณ 1-5 เมษา อยากให้เงินลงตัวมากกว่านี้.
- แต่ไปมา เซลล์ก็อยากขายรถแหละ ก็เลยเอาเป็นปลายเดือนมีนา.
- ทีนี้ก็อยากให้แม่มีส่วนร่วม ก็เลยให้แม่เลือกวัน
- แม่ไปดูวันมาได้วันที่ 28,29 มีนาคม
- ผมเลยเอาวันที่ 29 มีนา เป็นวันเสาร์ด้วย
- กะว่ารับรถแล้วจะขับกลับบ้านเลย ให้ครอบครัวเจิมให้
- ผมคิดว่าพระในบ้านคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้ว
- เมื่อวานผมไปทำใบขับขี่ เลยอยากเลื่อนวันรับรถให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะได้ขับให้คล่องมือเร็วๆ
- ผมก็เลยเลือกเป็นวันที่ 12 มีนา (ก็คือพุธหน้า เพราะเป็นวันหยุดตัวเองด้วย)
- ก็เลยแจ้งกับเซลล์ เซลล์ก็บอกว่า “ งั้นโอนเงินวันที่ 11 ตอนเย็นดีไหม วันที่ 12 ตอนเช้ามาจะได้ถ่ายรูปแล้วก็กลับเลย มันจะได้ไม่สาย) ซึ่งผมก็ตอบตกลง
- ทีนี้ก็เลยอยากบอกแม่ เพราะคิดว่าที่บ้านน่าจะดีใจ (แต่ในใจก็ไม่อยากบอก กะจะไปเซอร์ไพรซ์ที่บ้าน)
- คิดในใจว่า ถ้าบอกว่ารับรถพุธหน้าที่บ้านคงดีใจ แต่สิ่งที่แม่พูดออกมาก็คือ ” มันจะได้หรอ มันดีหรอ วันมันได้หรอ“ (คือแม่สนใจแค่วันดี ฤกษ์ดี ทั้งที่เงินในกระเป๋าผมพร้อมแล้ว)
- ในใจผมไม่ได้สนใจฤกษ์นะ ไม่สนใจสีด้วย (ผมเลือกเอาสีเทาเพราะว่า. ถ้าเป็นสีดำกลางคืนอันตราย ถ้าเป็นสีขาวก็จะเปื้อนง่าย)
- ผมคิดว่า ผมอยากจ่ายให้มันจบๆไป ผมก็บอกกับเซลล์ว่าอยากรับรถให้มันจบๆไป เงินที่เหลือจะได้เอาไปทำอย่างอื่นต่อ
- ผมก็เลยโกหกแม่ บอกว่ามันรับได้ รับรถ 12 ได้. (ซึ่งผมก็ไปดูฤกษ์มาแล้วแหละ ถ้าจะเอาฤกษ์ออกรถ มันก็ออกวันนี้ได้)
- ทีนี้เพื่อความสบายใจ ก็เลยไปถามพระอาจารย์ที่รู้จักกัน ท่านก็บอกว่าวันที่ 12 มันได้ แต่ว่าต้องก่อน 10 โมงเช้านะ (ที่คุยกับเซลล์คือราวๆ 08:30-09:30)
#ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า แม่บอกว่า “ จะเอาสิ่งดีดีเข้าบ้าน ก็ดูฤกษ์หน่อย” (มันจี้จุดผมตรงนี้แหละ) * ผมมองว่ จะเอาฤกษ์ดีไปทำไม ในเมื่อคนที่หาเงินดาวน์รถ เงินผ่อนรถ คือตัวเรา. มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าออกรถวันดี แต่ไม่มีเงินส่งค่างวด.
- คือเราก็เป็นคนทำงานเนาะ เราไม่ได้มีเวลาว่างที่จะไปรับรถได้ตลอด.
#ที่บ้านยังติดนิสัยดูฤกษ์ดูยาม จะทำสิ่งดีๆทั้งทีทำไมต้องดูฤกษ์ ที่ทำสิ่งไม่ดีไม่เห็นได้ดูฤกษ์เลย #แต่ผมก็ไม่สนใจใครหรอก เพราะคนที่หาเงินส่งงวดคืออผมเก็บออมเงินมาเพื่อออกมัน ผมไม่แคร์คำคนรอบข้างหรอก
- ความคิดก่อนหน้านี้ วันรับรถจะขับกลับบ้าน ให้พระที่บ้าน (ตา ยาย แม่ พ่อ(สามีใหม่แม่)) เจิมให้ เพราะคิดว่าเป็นมงคลที่สุดกับชีวิตแล้ว
- แต่หลังจากเจอเหตุการณ์เมื่อคืนนั้น ถ้าจะกลับบ้าน ผมคงไปบ้านพ่อ ที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง เพราะคนที่ที่นั่นพร้อมที่จะยินดีกับผมตลอด
ตอนช่วงงานศพพ่อ ทางป้ากับพี่สาวก็บอกว่าอยากให้ออกรถยนต์ เพราะมอไซค์มันอันตราย เค้ามองเห็นความสำคัญตรงนี้. ตัดภาพมาที่บ้าน บอกว่าอยากให้สร้างบ้านให้เสร็จก่อน บ้าน=บาน สร้างบ้านไม่มีคำว่าเสร็จอยู่จริง ต่อเติมไปตลอด.
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่อยากทำงานแถวบ้าน แล้วก็ไม่ค่อยกลับบ้าน เพราะความคิดมันไม่ตรงกัน มันไปทางเดียวกันไม่ได้เลย
อยากมีรถ เพื่อที่จะซัพพอร์ตคนที่บ้านได้ เวลาไปไหนมาไหนจะได้สะดวกมากขึ้น อยากไปเที่ยว อยากไปไปไหนก็จะได้ใช้รถตัวเอง
มันช็อตฟิวส์ตรงที่
ผม “ รับรถพุธหน้านะแม่”
แม่ “ มันจะได้หรอ มันจะดีหรอ วันมันได้หรอ”
ผม “ ได้ ดูฤกษ์มาแล้ว เพราะสิ้นเดือนน่าจะมีภารกิจด่วน คิดว่าน่าจะไปรับไม่ได้”
แม่ (เงียบไปหลายวิ เหมือนทำนองว่าทำไมไม่เอาวันเดิม)
ผมไม่แปลกใจทำไมน้องชายผมถึงไม่ค่อยถูกกับคนที่บ้าน. น้องชายผมก็ฟิวเหมือนผมนี่แหละ แต่ว่าหัวมันรุนแรง มันไม่พอใจใครมันก็ด่าเลย มันเถียงกับ
แต่ผมไม่เถียง ผมเงียบ (ผมเป็นคนเก็บอารมณ์กับครอบครัวมาก ยกเว้นว่ามันเป็นเรื่องที่ซ้ำซากจริงๆ ผมถึงจะเถียงกลับ)
ส่วนนึงที่ผมเป็นคนแบบนี้ ต้องโทษพ่อกับแม่แหละ. โทษพ่อแม่ที่มีปัญหาชีวิต มีปัญหามือที่สาม ทำแบบนี้ให้ผมเจอตั้งแต่เด็ก ปล่อยประละเลยลูก ทำให้ผมขาดความอบอุ่นและการใส่ใจตั้งแต่เด็ก โตขึ้นมาเวลามีปัญหา ก็เลยต้องแก้มันด้วยตัวเอง เพราะขาดความเอาใจใส่ตั้งแต่เด็ก
พ่อแม่เลี้ยงลูก ให้ชีวิตกับลูก แต่พ่อแม่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตของลูก. พ่อแม่ต้องเอาลูกเป็นครู ลูกเป็นแบบไหน พ่อแม่ต้องติดตาม และเอาพฤติกรรมของลูกมาอบรมสั่งสอนลูก. อย่าทำให้เด็กต้องพูดว่า จริงๆแล้วเค้าก็ไม่ได้อยากเกิดมา แต่เป็นเพราะพ่อแม่ต่างหากที่ทำให้เขาเกิดมา
เมื่อคืนก็ร้องไห้เลยนะ คือผมคงเข้มแข็งให้คนอื่นเห็นมากไป
สรุปก็รับรถพุธหน้านั่นแหละ รับเสร็จก็ขับรถไปหาพระอาจารย์ ขับรถกลับห้อง แล้วก็นอน
#ปัญหาโลกแตก “ วันรับรถ ”
ฉัน : รับรถเมื่อเงินพร้อม (ซึ่งทุกอย่างพร้อมแล้ว)
แม่ : รับรถเมื่อฤกษ์ดี
**** ทำไมเราไม่เลือกฤกษ์สะดวกเป็นอันดับแรก ทั้งที่ตัวเราเองเป็นคนหาเงินจ่ายค่าดาวน์รถ ค่างวดรถ .
**** มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้ารับรถในวัน “ฤกษ์ดี” แต่การใช้ชีวิตของเราไม่ดี
#แค่นี้ก็เริ่มเป็นปัญหาแล้ว
<<< บางทีครอบครัวอาจจะไม่ใช่เซฟโซนเสมอไป >>>
เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมจะออกรถยนต์ครับ
- ตอนแรกผมอยากรับรถเมษา ประมาณ 1-5 เมษา อยากให้เงินลงตัวมากกว่านี้.
- แต่ไปมา เซลล์ก็อยากขายรถแหละ ก็เลยเอาเป็นปลายเดือนมีนา.
- ทีนี้ก็อยากให้แม่มีส่วนร่วม ก็เลยให้แม่เลือกวัน
- แม่ไปดูวันมาได้วันที่ 28,29 มีนาคม
- ผมเลยเอาวันที่ 29 มีนา เป็นวันเสาร์ด้วย
- กะว่ารับรถแล้วจะขับกลับบ้านเลย ให้ครอบครัวเจิมให้
- ผมคิดว่าพระในบ้านคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้ว
- เมื่อวานผมไปทำใบขับขี่ เลยอยากเลื่อนวันรับรถให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะได้ขับให้คล่องมือเร็วๆ
- ผมก็เลยเลือกเป็นวันที่ 12 มีนา (ก็คือพุธหน้า เพราะเป็นวันหยุดตัวเองด้วย)
- ก็เลยแจ้งกับเซลล์ เซลล์ก็บอกว่า “ งั้นโอนเงินวันที่ 11 ตอนเย็นดีไหม วันที่ 12 ตอนเช้ามาจะได้ถ่ายรูปแล้วก็กลับเลย มันจะได้ไม่สาย) ซึ่งผมก็ตอบตกลง
- ทีนี้ก็เลยอยากบอกแม่ เพราะคิดว่าที่บ้านน่าจะดีใจ (แต่ในใจก็ไม่อยากบอก กะจะไปเซอร์ไพรซ์ที่บ้าน)
- คิดในใจว่า ถ้าบอกว่ารับรถพุธหน้าที่บ้านคงดีใจ แต่สิ่งที่แม่พูดออกมาก็คือ ” มันจะได้หรอ มันดีหรอ วันมันได้หรอ“ (คือแม่สนใจแค่วันดี ฤกษ์ดี ทั้งที่เงินในกระเป๋าผมพร้อมแล้ว)
- ในใจผมไม่ได้สนใจฤกษ์นะ ไม่สนใจสีด้วย (ผมเลือกเอาสีเทาเพราะว่า. ถ้าเป็นสีดำกลางคืนอันตราย ถ้าเป็นสีขาวก็จะเปื้อนง่าย)
- ผมคิดว่า ผมอยากจ่ายให้มันจบๆไป ผมก็บอกกับเซลล์ว่าอยากรับรถให้มันจบๆไป เงินที่เหลือจะได้เอาไปทำอย่างอื่นต่อ
- ผมก็เลยโกหกแม่ บอกว่ามันรับได้ รับรถ 12 ได้. (ซึ่งผมก็ไปดูฤกษ์มาแล้วแหละ ถ้าจะเอาฤกษ์ออกรถ มันก็ออกวันนี้ได้)
- ทีนี้เพื่อความสบายใจ ก็เลยไปถามพระอาจารย์ที่รู้จักกัน ท่านก็บอกว่าวันที่ 12 มันได้ แต่ว่าต้องก่อน 10 โมงเช้านะ (ที่คุยกับเซลล์คือราวๆ 08:30-09:30)
#ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า แม่บอกว่า “ จะเอาสิ่งดีดีเข้าบ้าน ก็ดูฤกษ์หน่อย” (มันจี้จุดผมตรงนี้แหละ) * ผมมองว่ จะเอาฤกษ์ดีไปทำไม ในเมื่อคนที่หาเงินดาวน์รถ เงินผ่อนรถ คือตัวเรา. มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าออกรถวันดี แต่ไม่มีเงินส่งค่างวด.
- คือเราก็เป็นคนทำงานเนาะ เราไม่ได้มีเวลาว่างที่จะไปรับรถได้ตลอด.
#ที่บ้านยังติดนิสัยดูฤกษ์ดูยาม จะทำสิ่งดีๆทั้งทีทำไมต้องดูฤกษ์ ที่ทำสิ่งไม่ดีไม่เห็นได้ดูฤกษ์เลย #แต่ผมก็ไม่สนใจใครหรอก เพราะคนที่หาเงินส่งงวดคืออผมเก็บออมเงินมาเพื่อออกมัน ผมไม่แคร์คำคนรอบข้างหรอก
- ความคิดก่อนหน้านี้ วันรับรถจะขับกลับบ้าน ให้พระที่บ้าน (ตา ยาย แม่ พ่อ(สามีใหม่แม่)) เจิมให้ เพราะคิดว่าเป็นมงคลที่สุดกับชีวิตแล้ว
- แต่หลังจากเจอเหตุการณ์เมื่อคืนนั้น ถ้าจะกลับบ้าน ผมคงไปบ้านพ่อ ที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง เพราะคนที่ที่นั่นพร้อมที่จะยินดีกับผมตลอด
ตอนช่วงงานศพพ่อ ทางป้ากับพี่สาวก็บอกว่าอยากให้ออกรถยนต์ เพราะมอไซค์มันอันตราย เค้ามองเห็นความสำคัญตรงนี้. ตัดภาพมาที่บ้าน บอกว่าอยากให้สร้างบ้านให้เสร็จก่อน บ้าน=บาน สร้างบ้านไม่มีคำว่าเสร็จอยู่จริง ต่อเติมไปตลอด.
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่อยากทำงานแถวบ้าน แล้วก็ไม่ค่อยกลับบ้าน เพราะความคิดมันไม่ตรงกัน มันไปทางเดียวกันไม่ได้เลย
อยากมีรถ เพื่อที่จะซัพพอร์ตคนที่บ้านได้ เวลาไปไหนมาไหนจะได้สะดวกมากขึ้น อยากไปเที่ยว อยากไปไปไหนก็จะได้ใช้รถตัวเอง
มันช็อตฟิวส์ตรงที่
ผม “ รับรถพุธหน้านะแม่”
แม่ “ มันจะได้หรอ มันจะดีหรอ วันมันได้หรอ”
ผม “ ได้ ดูฤกษ์มาแล้ว เพราะสิ้นเดือนน่าจะมีภารกิจด่วน คิดว่าน่าจะไปรับไม่ได้”
แม่ (เงียบไปหลายวิ เหมือนทำนองว่าทำไมไม่เอาวันเดิม)
ผมไม่แปลกใจทำไมน้องชายผมถึงไม่ค่อยถูกกับคนที่บ้าน. น้องชายผมก็ฟิวเหมือนผมนี่แหละ แต่ว่าหัวมันรุนแรง มันไม่พอใจใครมันก็ด่าเลย มันเถียงกับ
แต่ผมไม่เถียง ผมเงียบ (ผมเป็นคนเก็บอารมณ์กับครอบครัวมาก ยกเว้นว่ามันเป็นเรื่องที่ซ้ำซากจริงๆ ผมถึงจะเถียงกลับ)
ส่วนนึงที่ผมเป็นคนแบบนี้ ต้องโทษพ่อกับแม่แหละ. โทษพ่อแม่ที่มีปัญหาชีวิต มีปัญหามือที่สาม ทำแบบนี้ให้ผมเจอตั้งแต่เด็ก ปล่อยประละเลยลูก ทำให้ผมขาดความอบอุ่นและการใส่ใจตั้งแต่เด็ก โตขึ้นมาเวลามีปัญหา ก็เลยต้องแก้มันด้วยตัวเอง เพราะขาดความเอาใจใส่ตั้งแต่เด็ก
พ่อแม่เลี้ยงลูก ให้ชีวิตกับลูก แต่พ่อแม่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตของลูก. พ่อแม่ต้องเอาลูกเป็นครู ลูกเป็นแบบไหน พ่อแม่ต้องติดตาม และเอาพฤติกรรมของลูกมาอบรมสั่งสอนลูก. อย่าทำให้เด็กต้องพูดว่า จริงๆแล้วเค้าก็ไม่ได้อยากเกิดมา แต่เป็นเพราะพ่อแม่ต่างหากที่ทำให้เขาเกิดมา
เมื่อคืนก็ร้องไห้เลยนะ คือผมคงเข้มแข็งให้คนอื่นเห็นมากไป
สรุปก็รับรถพุธหน้านั่นแหละ รับเสร็จก็ขับรถไปหาพระอาจารย์ ขับรถกลับห้อง แล้วก็นอน