สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิพทุกท่าน คุณแม่มีเรื่องปวดใจอย่างมาก เมื่อพบว่าลูกมีพัฒนาการล่าช้าตั้งแต่ 2.5 ขวบแล้ว เลยส่งไปเรียนเนอสเซอรี่ หวังว่าลูกเห็นเพื่อนๆพูด ลูกเราจะเกิดการพัฒนาเลียนแบบแล้วจะเริ่มพูดตามได้ และคุณแม่ก็ส่งไปเรียนพิเศษกับโรงเรียนคิดส์พลัส ฝึก OT มาโดยตลอดควบคู่กับการไปโรงเรียนอีกด้วย ไปหาคุณหมอเพื่อปรึกษาหาทางรักษา ในครั้งแรกคุณหมอให้เล่าพฤติกรรมการเลี้ยงดูให้ฟังก่อนค่ะน้องเติบโตมาในครอบครัวคนจีนแต้จิ๋ว ตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 2 ขวบ ในบ้านก็จะพูดไทยส่วนมากและผสมภาษาจีน ในชีวิตประจำวันเช่น จุ้ย มักเสียบ อุ๊ก และกล่อมนอนด้วยก่องกิมก๊อง ในช่วงวัยนี้ น้องยังสบตา เป่าปากเล่นน้ำลายตามวัยปกติ แต่ด้วยที่บ้านคนเยอะจะอุ้มกันสะส่วนมาก ทำให้น้องเดินช้า กว่าจะเกินก็ 1.4ขวบค่ะ แต่สรีระของน้องที่อวบอั้นเหมือนมิชลินด้วย จึงทำให้เดินช้า น้องเป็นหลานในคนแรกในครอบครัวจีนนี้ ทุกคนจะโอ๋และตามใจมาก รู้ใจไปหมด และมีการเปิดทีวีเปิดยูทูปให้น้องดูตั้งแต่ 8เดือน เมื่อผู้ใหญ่เปิดเสียงเพลงน้องจะหันหาโทรศัพท์เพราะสนใจมาก น้องสามารถเลื่อนปัดเปลี่ยนคลิป skip โฆษณาได้ ชมเด็กว่าฉลาดไปอี๊ก!
หลังจาก2ขวบ คุณพ่อแม่ได้ซื้อบ้านใหม่เหตุเพราะบ้านคุณพ่อคนเยอะไม่มีที่เล่นสำหรับลูก เราจึงมาซื้อบ้านเดี่ยวอยู่กันเอง มีสระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น ที่กว้างให้วิ่งเล่น แต่จุดที่เราพลาดคือตรงนี้...ที่จะเล่าให้ปัญหาให้เพื่อนๆฟัง คุณพ่อทำงาน 7 วันไม่มีเวลาอยู่กับลูกเลย มีแค่ตอนเย็น ก่อนนอนเท่านั้นที่มีเวลาให้ลูก ส่วนคุณแม่ทำธุรกิจส่วนตัวที่บ้านและเป็นกราฟฟิกออกแบบลายเสื้อผ้า คุณพ่อคุณแม่จบอินเตอร์ทั้งคู่ ตั้งแต่ย้ายมาบ้านใหม่ คุณแม่ก็เริ่มพูดคุยกับน้องเป็นภาษาอังกฤษ และให้น้องดูจอเป็นภาษาอังกฤษตลอด เพื่อคุณแม่จะได้ทำงานออกแบบลายผ้าได้ เปิดบิล คุยกับลูกค้าได้ และก็ปล่อยให้ลูกเล่นคนเดียวกับของเล่นมากมายในห้องอิสระฟรีเพลย์มากค่ะ เพื่อแม่จะไปทำกับข้าว ทำงานบ้านได้ (เราไม่จ้างแม่บ้านหรือพี่เลี้ยง) เพราะช่วงนั้น 2020-2023 โควิดนระบาดมากจึงไม่อยากให้ลูกเสี่ยงโควิด ไปโรงเรียนคุณครูก็ใส่หน้ากาก น้องก็ไม่เห็นรูปปากว่าพูดอะไร ไปไหนชี้ชวนก็ไม่ได้กลัวโรคโควิด อยู่แต่บ้านกับสวนหมู่บ้านและไปโรงเรียนเท่านั้น คลังคำศัพท์ลูกส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ เพราะมาจากยูทูปและแม่พูดคุยกับเค้า
ไปปรึกษาคุณหมอสมิติเวชมา หมอก็บอกพัฒนาการล่าช้าให้กลับไปฝึกตามคำแนะนำหมอ แต่มันไม่ได้ผลเพราะช่วงที่ลูกไปโรงเรียนก็ป่วยเป็น RSV บ้างไวรัสโน่นนี้ทั้งปี แม่ก็ยอมใจอ่อนให้ลูกดูจออีก เพื่อลูกจะได้กินยา ยอมดูดเสมหะ ยอมฉีดยา
ไปรอบที่สองหมอก็วินิจฉัยเหมือนเดืม คือพัฒนาการล่าช้า ให้กระตุ้นให้สมวัยเมื่อถึงเวลานัดอีก 3 เดือน ครั้งที่3 ลูกก็ยังถูกวินิจฉัยเหมือนเดิม แถมให้สั่งให้ลูกกินริซโพริโดน เพื่อให้เด็กนิ่งๆจะได้มีสมาธิในการเรียนรู้ และหลับตอนกลางคืนให้ดีขึ้น (แต่เราก็แจ้งหมอไปแล้วว่าลูกไม่ได้มีปัญหาเรื่องการนอนนะคะ และเค้าก็ไม่ได้ซนอยู่ไม่นิ่งอย่างที่หมอเห็น เค้าแค่ไม่สบตาเบี่ยงเบนสายตาไม่สนใจเพราะไม่ชอบถูกบังคับ) เราพยายามจับหน้าเค้าให้มองเพื่อพูดคุยอยู่
แม่เลยเปลี่ยนหมอไปโรงพยาบาลเด็ก แต่รพ.รัฐคิวช่างยาวเป็นปี แม่ก็รอไม่ไหว ระหว่างรอก็ไปรพ.นวบุตร
เจออาจารย์หมอท่านนึง แนะนำและสอนการปฏิบัติการแก้ไขพัฒนาการลูกได้อย่างชัดเจน ทำตามแล้วลูกไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก
จนกระทั่งถึงคิวที่รพ.เด็กมาถึง น้องได้รับการตรวจหูทดสอบการได้ยินแล้วก็ปกติ ทดสอบการเรียนรู้เรื่องสติปัญญาก็อยู่ในวัย 5 ขวบ สามารถรู้จักรูปทรง วาดรูปบ้าน วาดคนครบอวัยวะได้ หลักการเรียนรู้สมวัย แต่มีความบกพร่องด้านการสื่อสาร เทียบเท่าเด็ก3ขวบ แนะนำให้ฝึกพูดspeech และยังฝึกOT ต่อไป เรื่อยๆค่ะ เมื่อน้องจบอนุบาล1 แล้ว ขึ้นอนุบาล2 คุณครูเริ่มแจ้งปัญหาเกี่ยวกับน้องว่าชอบร้องเพลงขึ้นมาในห้อง ไม่มีสมาธิจดจ่อกับการเรียนตรงหน้า
จึงต้องแยกน้องออกจากกลุ่มการเรียน ให้รีบช่วยกันหาวิธีแก้ไข คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจยุติการเรียนอ.2 ของน้องก่อน แล้วนำมาฝึกก้บโรงเรียนฝึกพัฒนาการกับคุณครูต่อตัวโดยเฉพาะ ทั้งOT speech และwriting คือเรียกได้ว่าให้เรียนพิเศษทุกวันแทนการไปโรงเรียน เพราะสามารถอยู่กับครูประกบพิเศษโดยเฉพาะ แน่นอนว่าคุณพ่อต้องปั่นเงินค่าเรียนพิเศษมากกว่าค่าเทอมเป็น 10 เท่า ราคาค่อยแพงมากทีเดียว แต่ลูกทั้งคนเราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราทำพลาดกับเค้าไปสะแล้ว ลูกชายคนแรกสะด้วย คุณพ่อทุ่มเทเวลาให้เค้าอย่างเต็มที่ ประกบสอนหนังสือเองที่บ้าน ฝึกพูดกับเค้าตลอด ชี้ชวนไปสถานที่ใหม่ๆ ออกสู่โลกกว้างได้แล้ว เพราะโควิดเบาลงไปมากแล้ว ปัจจุบัน 5 ขวบ 3 เดือนแล้ว น้องพัฒนาขึ้นมาก
ขณะนี้น้องสามารถบอกความต้องการของตัวเองได้ เช่น เอา ไม่เอา ไปทางนี้ ปวดอึ ปวดฉี่ จะกินอะไร ชอบไม่ชอบออกแนวถามคำตอบคำได้ แต่ยังไม่สามารถสนทนาเป็นเรื่องเป็นราว หรือถามประโยคคำถามได้ มีบ้านไหนเป็นแบบน้องบ้างไหมคะ ตอนนี้น้องเลย5 ขวบแล้วแม่กลุ้มใจมาก ฝึกมานานมมากลูกไม่ปลดล๊อคพูดได้สักทีT_T ร้องไห้เสียใจที่เราทำร้ายลูกได้ขนาดนี้
ลูกชาย 5 ขวบ 3 เดือน ยังพูดสื่อสารไม่ค่อยได้ พัฒนาการล่าช้า
หลังจาก2ขวบ คุณพ่อแม่ได้ซื้อบ้านใหม่เหตุเพราะบ้านคุณพ่อคนเยอะไม่มีที่เล่นสำหรับลูก เราจึงมาซื้อบ้านเดี่ยวอยู่กันเอง มีสระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น ที่กว้างให้วิ่งเล่น แต่จุดที่เราพลาดคือตรงนี้...ที่จะเล่าให้ปัญหาให้เพื่อนๆฟัง คุณพ่อทำงาน 7 วันไม่มีเวลาอยู่กับลูกเลย มีแค่ตอนเย็น ก่อนนอนเท่านั้นที่มีเวลาให้ลูก ส่วนคุณแม่ทำธุรกิจส่วนตัวที่บ้านและเป็นกราฟฟิกออกแบบลายเสื้อผ้า คุณพ่อคุณแม่จบอินเตอร์ทั้งคู่ ตั้งแต่ย้ายมาบ้านใหม่ คุณแม่ก็เริ่มพูดคุยกับน้องเป็นภาษาอังกฤษ และให้น้องดูจอเป็นภาษาอังกฤษตลอด เพื่อคุณแม่จะได้ทำงานออกแบบลายผ้าได้ เปิดบิล คุยกับลูกค้าได้ และก็ปล่อยให้ลูกเล่นคนเดียวกับของเล่นมากมายในห้องอิสระฟรีเพลย์มากค่ะ เพื่อแม่จะไปทำกับข้าว ทำงานบ้านได้ (เราไม่จ้างแม่บ้านหรือพี่เลี้ยง) เพราะช่วงนั้น 2020-2023 โควิดนระบาดมากจึงไม่อยากให้ลูกเสี่ยงโควิด ไปโรงเรียนคุณครูก็ใส่หน้ากาก น้องก็ไม่เห็นรูปปากว่าพูดอะไร ไปไหนชี้ชวนก็ไม่ได้กลัวโรคโควิด อยู่แต่บ้านกับสวนหมู่บ้านและไปโรงเรียนเท่านั้น คลังคำศัพท์ลูกส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ เพราะมาจากยูทูปและแม่พูดคุยกับเค้า
ไปปรึกษาคุณหมอสมิติเวชมา หมอก็บอกพัฒนาการล่าช้าให้กลับไปฝึกตามคำแนะนำหมอ แต่มันไม่ได้ผลเพราะช่วงที่ลูกไปโรงเรียนก็ป่วยเป็น RSV บ้างไวรัสโน่นนี้ทั้งปี แม่ก็ยอมใจอ่อนให้ลูกดูจออีก เพื่อลูกจะได้กินยา ยอมดูดเสมหะ ยอมฉีดยา
ไปรอบที่สองหมอก็วินิจฉัยเหมือนเดืม คือพัฒนาการล่าช้า ให้กระตุ้นให้สมวัยเมื่อถึงเวลานัดอีก 3 เดือน ครั้งที่3 ลูกก็ยังถูกวินิจฉัยเหมือนเดิม แถมให้สั่งให้ลูกกินริซโพริโดน เพื่อให้เด็กนิ่งๆจะได้มีสมาธิในการเรียนรู้ และหลับตอนกลางคืนให้ดีขึ้น (แต่เราก็แจ้งหมอไปแล้วว่าลูกไม่ได้มีปัญหาเรื่องการนอนนะคะ และเค้าก็ไม่ได้ซนอยู่ไม่นิ่งอย่างที่หมอเห็น เค้าแค่ไม่สบตาเบี่ยงเบนสายตาไม่สนใจเพราะไม่ชอบถูกบังคับ) เราพยายามจับหน้าเค้าให้มองเพื่อพูดคุยอยู่
แม่เลยเปลี่ยนหมอไปโรงพยาบาลเด็ก แต่รพ.รัฐคิวช่างยาวเป็นปี แม่ก็รอไม่ไหว ระหว่างรอก็ไปรพ.นวบุตร
เจออาจารย์หมอท่านนึง แนะนำและสอนการปฏิบัติการแก้ไขพัฒนาการลูกได้อย่างชัดเจน ทำตามแล้วลูกไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก
จนกระทั่งถึงคิวที่รพ.เด็กมาถึง น้องได้รับการตรวจหูทดสอบการได้ยินแล้วก็ปกติ ทดสอบการเรียนรู้เรื่องสติปัญญาก็อยู่ในวัย 5 ขวบ สามารถรู้จักรูปทรง วาดรูปบ้าน วาดคนครบอวัยวะได้ หลักการเรียนรู้สมวัย แต่มีความบกพร่องด้านการสื่อสาร เทียบเท่าเด็ก3ขวบ แนะนำให้ฝึกพูดspeech และยังฝึกOT ต่อไป เรื่อยๆค่ะ เมื่อน้องจบอนุบาล1 แล้ว ขึ้นอนุบาล2 คุณครูเริ่มแจ้งปัญหาเกี่ยวกับน้องว่าชอบร้องเพลงขึ้นมาในห้อง ไม่มีสมาธิจดจ่อกับการเรียนตรงหน้า
จึงต้องแยกน้องออกจากกลุ่มการเรียน ให้รีบช่วยกันหาวิธีแก้ไข คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจยุติการเรียนอ.2 ของน้องก่อน แล้วนำมาฝึกก้บโรงเรียนฝึกพัฒนาการกับคุณครูต่อตัวโดยเฉพาะ ทั้งOT speech และwriting คือเรียกได้ว่าให้เรียนพิเศษทุกวันแทนการไปโรงเรียน เพราะสามารถอยู่กับครูประกบพิเศษโดยเฉพาะ แน่นอนว่าคุณพ่อต้องปั่นเงินค่าเรียนพิเศษมากกว่าค่าเทอมเป็น 10 เท่า ราคาค่อยแพงมากทีเดียว แต่ลูกทั้งคนเราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราทำพลาดกับเค้าไปสะแล้ว ลูกชายคนแรกสะด้วย คุณพ่อทุ่มเทเวลาให้เค้าอย่างเต็มที่ ประกบสอนหนังสือเองที่บ้าน ฝึกพูดกับเค้าตลอด ชี้ชวนไปสถานที่ใหม่ๆ ออกสู่โลกกว้างได้แล้ว เพราะโควิดเบาลงไปมากแล้ว ปัจจุบัน 5 ขวบ 3 เดือนแล้ว น้องพัฒนาขึ้นมาก
ขณะนี้น้องสามารถบอกความต้องการของตัวเองได้ เช่น เอา ไม่เอา ไปทางนี้ ปวดอึ ปวดฉี่ จะกินอะไร ชอบไม่ชอบออกแนวถามคำตอบคำได้ แต่ยังไม่สามารถสนทนาเป็นเรื่องเป็นราว หรือถามประโยคคำถามได้ มีบ้านไหนเป็นแบบน้องบ้างไหมคะ ตอนนี้น้องเลย5 ขวบแล้วแม่กลุ้มใจมาก ฝึกมานานมมากลูกไม่ปลดล๊อคพูดได้สักทีT_T ร้องไห้เสียใจที่เราทำร้ายลูกได้ขนาดนี้