ผมต้องไปโอนห้องให้เจ้านายครับ
ในกรณีของผมนั้นเป็นการมอบอำนาจให้ผมเป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
คือผมเป็นผู้รับมอบอำนาจของทั้งสองฝ่าย
นอกจากนั้นยังเป็นการขายให้บริษัทอีกต่างหาก
ทำให้การโอนซื้อขายคราวนี้ไม่ง่ายเหมือนทุกครั้ง
ต้องหามูลทางอินเตอร์เน็ต
ผมต้องเตรียมเอกสาร อย่างละเอียด จะได้จบในวันเดียว
แต่แล้วพอวันไปจริง ก็พลาดจนได้ครับ ผมเป็นคิวที่ 2 แต่คิวก่อนหน้าผมทำอย่างนาน
พอถึงคิวผม หัวหน้าใหญ่ด้านในตรวจแล้วเอกสารไม่ผ่านครับ
ผมต้องไปขอเอกสารจากเจ้านายเพิ่ม
กว่าจะไปและกลับมา ก็เกือบ 3 ชั่วโมง
เมื่อผมกลับมาอีกครั้งเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอก่อนเพราะเค้ากำลังทำให้คนอื่นอยู่
ผมเห็นเอกสารเป็นตั้งเลยครับ
คงอีกนานเลยกว่าจะทำให้ผม ทั้งๆที่ผมเป็นคิวที่ 2 ของวัน และก่อนจะกลับไปเอาเอกสาร เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ถ้ากลับมา ภายในเวลาก็จะทำต่อให้
แต่ผมก็เข้าใจครับว่าใครจะมารอผม เค้าก็ต้องทำของคนต่อไปก่อน
ผมก็ทำใจแล้วหละครับ ว่านานแน่ๆเผลอๆไม่ทันด้วยต้องมาต่ออีกวัน
ผมจึงออกมายืนรออยู่ห่างๆ ในระหว่างนั้นผมก็คุยโทรศัพท์อยู่
แล้วอยู่ๆเจ้าหน้าที่คนนึง คนนี้เป็นหัวหน้า ของคนนั่งข้างๆ
เค้าทำเอกสารแผ่นนึงปลิว ออกมาจาก เค้าน์เตอร์ ครับ
ซึ่งเค้าจะไม่มีทางหยิบได้เลยถ้าไม่เดินอ้อมไกลแสนไกลเพื่อออกมาหยิบ
มีคนนั่งอยู่แถวนั้นหลายคนแต่ไม่มีใครสนใจจะหยิบกระดาษแผ่นนั้นส่งคืนให้เจ้าหน้าที่เลยครับ
ทันใดนั้นผมซึ่งอยู่ห่างประมาณ 4 เมตร ก็พุ่งตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว และหยิบเอกสารที่หล่นอยู่นั้นให้เจ้าหน้าที่คนนั้น
ผมคิดแต่เพียงว่า มันเป็นสิ่งที่ควรทำ
เจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนั้นมองหน้าผมเข้าคงจำผมได้ และ ขอบคุณผม ซึ่งผมก็พยักหน้าให้และกลับมายืนห่างๆเหมือนเดิม
พอมองไปอีกทีผมเห็นเค้ารื้อกองเอกสารหยิบซองใสที่ผมใส่เอกสารไว้ออกมา ผมจำได้ว่านั่นของผมนี่
ซักพักเดียว เจ้าหน้าที่อีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ คนที่ผมเก็บกระดาษที่ปลิวออกมา ก็เรียกชื่อผม
ผมก็เข้าไป เค้าบอกว่าดีนะเนี่ยหัวหน้าใจดี พี่เลยไม่ต้องรอนาน ดูงานหนูวันนี้สิเป็นตั้งเลย( หัวหน้าก็คือคนที่ผมเก็บกระดาษให้) แต่เจ้าหน้าที่คนนี้ไม่เห็นเหตุการณ์ ตอนผมเก็บกระดาษ
ในตอนนั้นเองเพลงของอัสนีและวสันต์ก็ดังขึ้นมาเลยครับ
น้ำเอยน้ำใจ
หลังจากนั้นใช้เวลาอีกไม่นาน ผมก็ทำการโอนซื้อขายสำเร็จ แบบไม่น่าเชื่อเลยครับ
ขอให้ทุกคนเป็นคนดีนะครับ
ขอบคุณที่อ่านครับ
เล่าประสบการณ์เซอร์ไพรส์ที่สำนักงานที่ดิน
ในกรณีของผมนั้นเป็นการมอบอำนาจให้ผมเป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
คือผมเป็นผู้รับมอบอำนาจของทั้งสองฝ่าย
นอกจากนั้นยังเป็นการขายให้บริษัทอีกต่างหาก
ทำให้การโอนซื้อขายคราวนี้ไม่ง่ายเหมือนทุกครั้ง
ต้องหามูลทางอินเตอร์เน็ต
ผมต้องเตรียมเอกสาร อย่างละเอียด จะได้จบในวันเดียว
แต่แล้วพอวันไปจริง ก็พลาดจนได้ครับ ผมเป็นคิวที่ 2 แต่คิวก่อนหน้าผมทำอย่างนาน
พอถึงคิวผม หัวหน้าใหญ่ด้านในตรวจแล้วเอกสารไม่ผ่านครับ
ผมต้องไปขอเอกสารจากเจ้านายเพิ่ม
กว่าจะไปและกลับมา ก็เกือบ 3 ชั่วโมง
เมื่อผมกลับมาอีกครั้งเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอก่อนเพราะเค้ากำลังทำให้คนอื่นอยู่
ผมเห็นเอกสารเป็นตั้งเลยครับ
คงอีกนานเลยกว่าจะทำให้ผม ทั้งๆที่ผมเป็นคิวที่ 2 ของวัน และก่อนจะกลับไปเอาเอกสาร เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ถ้ากลับมา ภายในเวลาก็จะทำต่อให้
แต่ผมก็เข้าใจครับว่าใครจะมารอผม เค้าก็ต้องทำของคนต่อไปก่อน
ผมก็ทำใจแล้วหละครับ ว่านานแน่ๆเผลอๆไม่ทันด้วยต้องมาต่ออีกวัน
ผมจึงออกมายืนรออยู่ห่างๆ ในระหว่างนั้นผมก็คุยโทรศัพท์อยู่
แล้วอยู่ๆเจ้าหน้าที่คนนึง คนนี้เป็นหัวหน้า ของคนนั่งข้างๆ
เค้าทำเอกสารแผ่นนึงปลิว ออกมาจาก เค้าน์เตอร์ ครับ
ซึ่งเค้าจะไม่มีทางหยิบได้เลยถ้าไม่เดินอ้อมไกลแสนไกลเพื่อออกมาหยิบ
มีคนนั่งอยู่แถวนั้นหลายคนแต่ไม่มีใครสนใจจะหยิบกระดาษแผ่นนั้นส่งคืนให้เจ้าหน้าที่เลยครับ
ทันใดนั้นผมซึ่งอยู่ห่างประมาณ 4 เมตร ก็พุ่งตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว และหยิบเอกสารที่หล่นอยู่นั้นให้เจ้าหน้าที่คนนั้น
ผมคิดแต่เพียงว่า มันเป็นสิ่งที่ควรทำ
เจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนนั้นมองหน้าผมเข้าคงจำผมได้ และ ขอบคุณผม ซึ่งผมก็พยักหน้าให้และกลับมายืนห่างๆเหมือนเดิม
พอมองไปอีกทีผมเห็นเค้ารื้อกองเอกสารหยิบซองใสที่ผมใส่เอกสารไว้ออกมา ผมจำได้ว่านั่นของผมนี่
ซักพักเดียว เจ้าหน้าที่อีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ คนที่ผมเก็บกระดาษที่ปลิวออกมา ก็เรียกชื่อผม
ผมก็เข้าไป เค้าบอกว่าดีนะเนี่ยหัวหน้าใจดี พี่เลยไม่ต้องรอนาน ดูงานหนูวันนี้สิเป็นตั้งเลย( หัวหน้าก็คือคนที่ผมเก็บกระดาษให้) แต่เจ้าหน้าที่คนนี้ไม่เห็นเหตุการณ์ ตอนผมเก็บกระดาษ
ในตอนนั้นเองเพลงของอัสนีและวสันต์ก็ดังขึ้นมาเลยครับ
น้ำเอยน้ำใจ
หลังจากนั้นใช้เวลาอีกไม่นาน ผมก็ทำการโอนซื้อขายสำเร็จ แบบไม่น่าเชื่อเลยครับ
ขอให้ทุกคนเป็นคนดีนะครับ
ขอบคุณที่อ่านครับ