สหรัฐฯ หยุดแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองให้ยูเครน คาดกระทบการต่อสู้
โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 มี.ค. ไมค์ วอลต์ซ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ประกาศระงับการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับยูเครนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แถลงการณ์จากวอลต์ซและจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักข่างกรองกลาง (CIA) ยืนยันว่า การแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองจากสหรัฐฯ ให้กับยูเครนได้ถูกระงับ....
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี โต้เถียงอย่างหนักกับประธานาธิบดีทรัมป์และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระหว่างการเจรจาข้อตกลงแร่ธาตุหายากที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อน
ซึ่งในเวลาต่อมา ประธานาธิบดีทรัมป์ก็สั่งระงับความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ยูเครน เพื่อกดดันให้เซเลนสกียอมรับกระบวนการสันติภาพ
สำหรับข้อมูลข่าวกรองจากสหรัฐฯ นับว่ามีบทบาทสำคัญมากต่อการอยู่รอดของยูเครน โดยในช่วงแรกของการทำสงคราม ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้กองทัพยูเครนสามารถผลักดันกำลังทหารรัสเซียให้ถอยร่นออกไป
อีกทั้งยังส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อแจ้งเตือนภัยการโจมตีทางอากาศ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงกลางคืน และยังช่วยทหารยูเครนทราบพิกัดของทหารรัสเซีย เพื่อกำหนดเป้าหมายการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า กรุงปารีสจะเป็นเจ้าภาพการประชุมนายทหารระดับประธานคณะเสนาธิการของประเทศต่างๆในยุโรปเพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะส่งกำลังพลเข้าไปประจำการในยูเครน
ประธานาธิบดีมาครงย้ำว่า ยูเครนจำเป็นต้องได้รับหลักประกันด้านความมั่นคง ด้วยการการมีกำลังทหารจากชาติยุโรปเข้าไปทำหน้าที่ดูแลการปฏิบัติตามเงื่อนไขในการหยุดยิง หากมีข้อตกลงสันติภาพเกิดขึ้น แต่จะไม่เข้าร่วมการทำสงครามกับรัสเซีย
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีมาครงยังระบุว่า พร้อมรับฟังข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ฝรั่งเศส ขยายขอบเขตการคุ้มครองความปลอดภัยจากอาวุธนิวเคลียร์ให้คลอบคลุมชาติพันธมิตรอื่น ๆ ในยุโรป ด้วย
โดยปัจจุบัน ฝรั่งเศส และ อังกฤษ เป็นเพียง 2 ชาติพันธมิตรสหรัฐฯ ในยุโรปที่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง และแม้ว่าตามปกติแล้ว ชาติอื่น ๆ จะได้รับการคุ้มครองภัยอาวุธนิวเคลียร์จากสหรัฐฯ ภายใต้เงื่อนไขขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหรือ หรือนาโต แต่ด้วยกังวลต่อท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ ฟรีดีช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องอังกฤษและฝรั่งเศส ขยายเครือข่ายการป้องกันการโจมตีจากอาวุธนิวเคลียร์ให้ทั่วทั้งยุโรป
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/244184
ล่าสุด สหรัฐฯ ได้หยุดแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองให้ยูเครน เรียบร้อยยยยย 555555555+++
โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 มี.ค. ไมค์ วอลต์ซ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ประกาศระงับการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับยูเครนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แถลงการณ์จากวอลต์ซและจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักข่างกรองกลาง (CIA) ยืนยันว่า การแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองจากสหรัฐฯ ให้กับยูเครนได้ถูกระงับ....
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี โต้เถียงอย่างหนักกับประธานาธิบดีทรัมป์และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระหว่างการเจรจาข้อตกลงแร่ธาตุหายากที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อน
ซึ่งในเวลาต่อมา ประธานาธิบดีทรัมป์ก็สั่งระงับความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ยูเครน เพื่อกดดันให้เซเลนสกียอมรับกระบวนการสันติภาพ
สำหรับข้อมูลข่าวกรองจากสหรัฐฯ นับว่ามีบทบาทสำคัญมากต่อการอยู่รอดของยูเครน โดยในช่วงแรกของการทำสงคราม ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้กองทัพยูเครนสามารถผลักดันกำลังทหารรัสเซียให้ถอยร่นออกไป
อีกทั้งยังส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อแจ้งเตือนภัยการโจมตีทางอากาศ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงกลางคืน และยังช่วยทหารยูเครนทราบพิกัดของทหารรัสเซีย เพื่อกำหนดเป้าหมายการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า กรุงปารีสจะเป็นเจ้าภาพการประชุมนายทหารระดับประธานคณะเสนาธิการของประเทศต่างๆในยุโรปเพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะส่งกำลังพลเข้าไปประจำการในยูเครน
ประธานาธิบดีมาครงย้ำว่า ยูเครนจำเป็นต้องได้รับหลักประกันด้านความมั่นคง ด้วยการการมีกำลังทหารจากชาติยุโรปเข้าไปทำหน้าที่ดูแลการปฏิบัติตามเงื่อนไขในการหยุดยิง หากมีข้อตกลงสันติภาพเกิดขึ้น แต่จะไม่เข้าร่วมการทำสงครามกับรัสเซีย
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีมาครงยังระบุว่า พร้อมรับฟังข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ฝรั่งเศส ขยายขอบเขตการคุ้มครองความปลอดภัยจากอาวุธนิวเคลียร์ให้คลอบคลุมชาติพันธมิตรอื่น ๆ ในยุโรป ด้วย
โดยปัจจุบัน ฝรั่งเศส และ อังกฤษ เป็นเพียง 2 ชาติพันธมิตรสหรัฐฯ ในยุโรปที่มีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง และแม้ว่าตามปกติแล้ว ชาติอื่น ๆ จะได้รับการคุ้มครองภัยอาวุธนิวเคลียร์จากสหรัฐฯ ภายใต้เงื่อนไขขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหรือ หรือนาโต แต่ด้วยกังวลต่อท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ ฟรีดีช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องอังกฤษและฝรั่งเศส ขยายเครือข่ายการป้องกันการโจมตีจากอาวุธนิวเคลียร์ให้ทั่วทั้งยุโรป
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/244184