ดัชนีหุ้นหลักของวอลล์สตรีทปิดสูงขึ้นในการซื้อขายที่ขาด ๆ หาย ๆ ในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนสนับสนุนความตึงเครียดทางการค้าที่ผ่อนคลายลงระหว่างสหรัฐฯ และคู่ค้ารายใหญ่

หุ้นกลับมาเป็นบวกหลังจากรายงานระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจพิจารณาเลื่อนการเก็บภาษีรถยนต์ในแคนาดาและเม็กซิโกออกไปหนึ่งเดือน หุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากการประกาศของทำเนียบขาวยืนยันว่าทรัมป์ตกลงที่จะชะลอการเก็บภาษีรถยนต์บางส่วน
 
ในช่วงต้นการซื้อขาย รายงานของ ISM แสดงให้เห็นว่าภาคบริการมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนกุมภาพันธ์ 
 
อย่างไรก็ตาม สัญญาณของราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้นักลงทุนมองโลกในแง่ดี
 
ข้อมูล ADP แยกกันแสดงให้เห็นว่าเงินเดือนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบเจ็ดเดือน 
 
ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอรายงานบัญชีเงินเดือนที่จะประกาศในวันศุกร์
 
 
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 485.60 จุด หรือ 1.14% ปิดที่ 43,006.59 จุด
 
ส่วนดัชนี S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 64.48 จุด หรือ 1.12% ปิดที่ 5,842.63 จุด
 
และดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) เพิ่มขึ้น 267.57 จุด หรือ 1.46% เป็น 18,552.73 จุด
 
 
ราคาน้ำมันปรับตัวลงเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากที่สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเกินคาด 
 
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับแผนการเพิ่มผลผลิตของ OPEC+ ในเดือนเมษายน และการเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ในแคนาดา จีน และเม็กซิโก
 
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเบรนต์ร่วงลง 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.45% สู่ 69.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 
 
 
ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐ ตกลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.86% สู่ 66.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
 
ราคาทองคำปรับตัวลดลง แม้จะมีค่าเงินดอลลาร์ที่ลดลง เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนจำนวนมากก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูลเงินเดือนของสหรัฐฯ ในปลายสัปดาห์นี้ 
 
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องของสงครามการค้ายังคงรักษาราคาไว้เหนือระดับสำคัญที่ 2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์
 
ราคาทองสปอตลดลง 0.1% อยู่ที่ 2,913.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 
 
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ สูงขึ้น 0.2% ที่ 2,926 ดอลลาร์

Cr. https://www.posttoday.com/international-news/720513