กระทรวงวัฒนธรรม ผนึกกำลัง กสทช. มหาลัย - ครู - เยาวชนและข้าราชการ 24 จังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก
เปิดค่ายอบรมเชิงปฏิบัติการ Youth Culture Media Creator
สร้างภูมิคุ้มให้รู้ทันสื่อ - รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมและกลโกงออนไลน์
พร้อมปั้น “คอนเทนต์ครีเอเตอร์” ผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์สู่สังคม
นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ Youth Culture Media Creator เยาวชนสร้างสรรค์สื่อวัฒนธรรม กลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก ซึ่งมีเด็กและเยาวชน ครู อาจารย์ และข้าราชการสังกัดสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด กลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก จาก 24 จังหวัด จำนวน 96 คน เข้าร่วมการอบรมฯ ระหว่างวันที่ 4 - 6 มีนาคม 2568 ณ โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ จังหวัดระยอง
ปลัด วธ. เปิดเผยว่า ปัจจุบันสังคมไทยและสังคมโลกกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต พฤติกรรมและค่านิยมของคนในสังคม เกิดภัยคุกคามและเล่ห์เหลี่ยมและกลโกงออนไลน์ขึ้นมากมาย ในปีงบประมาณ 2568 กระทรวงวัฒนธรรม จึงร่วมมือกับสำนักงาน กสทช. มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตและเครือข่ายเยาวชน Seed Thailand จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ Youth Culture Media Creator เยาวชนสร้างสรรค์สื่อวัฒนธรรมใน 4 ภูมิภาค ครั้งที่ 1 จัดที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก มีเด็กและเยาวชน ครู อาจารย์ และข้าราชการสังกัดสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด กลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก จาก 24 จังหวัด จำนวน 96 คน เข้าร่วม
นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
ปลัด วธ. กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของ วธ.จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการฯ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐมนตรีว่าการ วธ. ในการเสริมพลังสร้างสรรค์ให้ “คน” เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมและสังคม โดยใช้กลยุทธ์บ่มเพาะคุณลักษณะของความสร้างสรรค์และต้นทุนชีวิตให้แก่เด็กและเยาวชน วธ.จึงเล็งเห็นว่าเด็กและเยาวชนคือเมล็ดพันธุ์ชั้นดีที่มีความพร้อมในการเติบโตและผลิดอกออกผลสู่สังคม รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาเครือข่ายทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะการมีส่วนร่วมกับเด็กและเยาวชนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศและให้เกิดความตระหนักรู้เกี่ยวกับสื่อที่นำเสนอผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงใช้วิจารณญาณรับสื่อ ลดความเสี่ยงและป้องกันตนเองจากผลกระทบของสื่อสามารถเข้าใจและใช้สื่ออย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ปัจจุบัน ตลอดจนเสริมทักษะการผลิตสื่อสร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเป็นนักสร้างสรรค์และผลิตเนื้อหาสื่อ (Content Creator) อย่างมืออาชีพ ที่สำคัญยังได้เรียนรู้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การจัดการข้อมูล วิเคราะห์และประมวลผล รวมถึงคาดการณ์แนวโน้มที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
การอบรมเชิงปฏิบัติการฯ จะจัดขึ้น 4 ภูมิภาค ครั้งที่ 1 กลุ่มจังหวัดภาคกลาง ภาคตะวันออก 24 จังหวัด ครั้งที่ 2 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ 15 จังหวัด ครั้งที่ 3 กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๒๐ จังหวัด และครั้งที่ 4 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด หลักสูตรและเนื้อการจัดอบรมฯ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสร้างภูมิคุ้มกันในประเด็นต่างๆ อาทิ รู้เท่าทันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ในศตวรรษที่ 21 เช่น ทักษะการรับมือการกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ การรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมและกลโกงออนไลน์ การรู้เท่าทันข่าวปลอม การเรียนรู้ สร้างสื่อ สร้างสรรค์สังคม กระบวนการและทักษะการผลิตสื่อสร้างสรรค์อย่างมืออาชีพ กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคสื่อ การเรียนรูทักษะการใช้ AI อย่างสร้างสรรค์ รวมถึงสร้างความตระหนักรู้เรื่องเพศ ภาษา ความรุนแรงและการให้ค่าความเป็นมนุษย์ เป็นต้น
“เชื่อว่าการอบรมเชิงปฏิบัติการฯ ครั้งนี้จะสร้างและขยายเครือข่ายทางวัฒนธรรมในการเฝ้าระวังและสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมในทุกมิติ ตลอดจนเป็นสัญลักษณ์ของผลิดอกออกผลแห่งการรู้เท่าทันสื่อ สร้างบทบาทนําในการพาเด็กและเยาวชน ส่งต่อผลลัพธ์ที่ดีแก่ผู้อื่นอย่างยั่งยืน” นายประสพ กล่าว
ค่ายอบรมเชิงปฏิบัติการ Youth Culture Media Creator สร้างภูมิคุ้มให้รู้ทันสื่อ - รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมและกลโกงออนไลน์
ปลัด วธ. เปิดเผยว่า ปัจจุบันสังคมไทยและสังคมโลกกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด ซึ่งส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต พฤติกรรมและค่านิยมของคนในสังคม เกิดภัยคุกคามและเล่ห์เหลี่ยมและกลโกงออนไลน์ขึ้นมากมาย ในปีงบประมาณ 2568 กระทรวงวัฒนธรรม จึงร่วมมือกับสำนักงาน กสทช. มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตและเครือข่ายเยาวชน Seed Thailand จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ Youth Culture Media Creator เยาวชนสร้างสรรค์สื่อวัฒนธรรมใน 4 ภูมิภาค ครั้งที่ 1 จัดที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก มีเด็กและเยาวชน ครู อาจารย์ และข้าราชการสังกัดสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด กลุ่มจังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออก จาก 24 จังหวัด จำนวน 96 คน เข้าร่วม
ปลัด วธ. กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของ วธ.จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการฯ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐมนตรีว่าการ วธ. ในการเสริมพลังสร้างสรรค์ให้ “คน” เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมและสังคม โดยใช้กลยุทธ์บ่มเพาะคุณลักษณะของความสร้างสรรค์และต้นทุนชีวิตให้แก่เด็กและเยาวชน วธ.จึงเล็งเห็นว่าเด็กและเยาวชนคือเมล็ดพันธุ์ชั้นดีที่มีความพร้อมในการเติบโตและผลิดอกออกผลสู่สังคม รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาเครือข่ายทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะการมีส่วนร่วมกับเด็กและเยาวชนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศและให้เกิดความตระหนักรู้เกี่ยวกับสื่อที่นำเสนอผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงใช้วิจารณญาณรับสื่อ ลดความเสี่ยงและป้องกันตนเองจากผลกระทบของสื่อสามารถเข้าใจและใช้สื่ออย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ปัจจุบัน ตลอดจนเสริมทักษะการผลิตสื่อสร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเป็นนักสร้างสรรค์และผลิตเนื้อหาสื่อ (Content Creator) อย่างมืออาชีพ ที่สำคัญยังได้เรียนรู้การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การจัดการข้อมูล วิเคราะห์และประมวลผล รวมถึงคาดการณ์แนวโน้มที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
การอบรมเชิงปฏิบัติการฯ จะจัดขึ้น 4 ภูมิภาค ครั้งที่ 1 กลุ่มจังหวัดภาคกลาง ภาคตะวันออก 24 จังหวัด ครั้งที่ 2 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ 15 จังหวัด ครั้งที่ 3 กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๒๐ จังหวัด และครั้งที่ 4 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด หลักสูตรและเนื้อการจัดอบรมฯ เพื่อถ่ายทอดความรู้และสร้างภูมิคุ้มกันในประเด็นต่างๆ อาทิ รู้เท่าทันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ในศตวรรษที่ 21 เช่น ทักษะการรับมือการกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ การรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมและกลโกงออนไลน์ การรู้เท่าทันข่าวปลอม การเรียนรู้ สร้างสื่อ สร้างสรรค์สังคม กระบวนการและทักษะการผลิตสื่อสร้างสรรค์อย่างมืออาชีพ กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคสื่อ การเรียนรูทักษะการใช้ AI อย่างสร้างสรรค์ รวมถึงสร้างความตระหนักรู้เรื่องเพศ ภาษา ความรุนแรงและการให้ค่าความเป็นมนุษย์ เป็นต้น
“เชื่อว่าการอบรมเชิงปฏิบัติการฯ ครั้งนี้จะสร้างและขยายเครือข่ายทางวัฒนธรรมในการเฝ้าระวังและสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมในทุกมิติ ตลอดจนเป็นสัญลักษณ์ของผลิดอกออกผลแห่งการรู้เท่าทันสื่อ สร้างบทบาทนําในการพาเด็กและเยาวชน ส่งต่อผลลัพธ์ที่ดีแก่ผู้อื่นอย่างยั่งยืน” นายประสพ กล่าว