เนวิน โชว์ตัวเลขเงินสะพัด 5,000 กว่าล้าน
ปมยังไม่ต่อสัญญา Moto GP
ประธานสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โชว์ตัวเลข Moto GP เมื่อวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. 68 ทำเงินสะพัด 5,043 ล้านบาท หลังเปิดประเด็นรัฐบาลไทยต่อ-ไม่ต่อสัญญา หลังหมดปี 2026 ด้าน กทท. แจงไม่เคยพูดว่าจะไม่ต่อ ส่วนนายกฯ บอกต้องดูตัวเลขเป็นสำคัญ
กลายมาเป็นประเด็นบนสังคมออนไลน์ทันทีหลังจากที่เนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ลุงเนวิน เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ใจความว่า ขอบคุณคนบุรีรัมย์ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน Moto GP ในการต้อนรับ ดูแลนักท่องเที่ยวคนไทยและชาวต่างชาติเอง
พร้อมเล่าย้อนไปถึงการจัดงานในไทยและรายได้ที่ผ่านมา โดยประเด็นหลักถูกมุ่งเป้าไปที่รัฐบาลจะจัดงาน Moto GP ปี 2026 เป็นครั้งสุดท้าย และไม่ต่อสัญญาอีกต่อไป ข้อความส่วนนั้นระบุว่า
“อย่างไรก็ตาม ผมเพิ่งได้รับทราบอย่างเป็นทางการจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นข่าวเดียวกันกับที่แฟน Moto GP ได้ยินมาก่อนหน้านี้ คือ รัฐบาลจะลงทุนจัดการแข่งขัน Moto GP ปี 2026 เป็นปีสุดท้าย และจะไม่ต่อสัญญาจัดการแข่งขัน Moto GP อีกแล้ว
ซึ่งต้องยอมรับการพิจารณาตัดสินใจของรัฐบาล แม้ว่าจะรู้สึกเสียดายอย่างมาก เพราะการจัดการแข่งขัน Moto GP รัฐบาลลงทุนปีละไม่เกิน 500 ล้านบาท และมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุนอีกไม่น้อยกว่าปีละ 300 ล้านบาท แต่สร้างเงินทุนหมุนเวียนส่งเสริมธุรกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจ มากกว่า 5,000 ล้านบาท
แต่เมื่อรัฐบาลตัดสินใจแล้ว สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในฐานะผู้สนับสนุนรายหนึ่ง ก็ต้องยอมรับ และขอแจ้งให้แฟน Moto GP ชาวไทยได้ทราบว่า ปีหน้าจะเป็นปีสุดท้ายของ Thai GP หากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรัฐบาลไม่ทบทวนการตัดสินใจ และยังคงยืนยันที่จะไม่ต่อสัญญาจัดการแข่งขัน Moto GP ในประเทศไทย”
กกท. แย้ง ไม่เคยพูด
หลังจากนั้นไม่นาน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึงประเด็นข่าวที่ออกมาว่า กกท. จะไม่ต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพโมโตจีพี ที่สัญญาเดิมจะหมดในปี 2026 ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
จากการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในงานโมโตจีพีวันสุดท้ายของการแข่งขันนั้น ได้ตอบสื่อมวลชนไปว่า ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพูดคุย ซึ่งทางดอร์น่าเองก็ชื่นชมประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพว่าทำได้อย่างดีมาก ๆ
ส่วนทางรัฐบาลก็อยากให้มีการแข่งขันรายการใหญ่ที่ส่งเสริมด้านกีฬาแล้วยังเสริมด้านการท่องเที่ยวได้ด้วย ทาง กกท. ก็จะนำสถิติตัวเลขต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้นำเสนอกับทางรัฐบาลที่จะเป็นผู้ตัดสินใจต่อไป ซึ่งในการให้สัมภาษณ์ไม่มีประโยคไหนที่บอกว่าจะไม่ต่อสัญญาโมโตจีพีแต่อย่างใด
ดร.ก้องศักด เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “Moto GP ในปีนี้ เป็นปีที่ทุบสถิติในแทบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงเป็นประวัติการณ์เกินกว่า 5,000 ล้าน จำนวนผู้ชมที่สูงขึ้นเกือบ 7% การสร้างงานที่สูงขึ้น 12% และโดยเฉพาะการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 52,000 กว่าคน ที่สูงขึ้นประมาณ 38% สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มจัดงานมา”
จากการประเมินผลการจัดงานภาพรวมในเบื้องต้นไม่ว่าจะเป็นด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจ, การจ้างงานและจำนวนผู้ชมที่สูงขึ้น รวมทั้งการชื่นชมการจัดการแข่งขันจากดอร์น่าเองก็ตาม แน่นอนว่าการแข่งขันการเป็นเจ้าภาพสูงขึ้น หลายประเทศก็จ่อคิวรออยู่
ซึ่งทุกอย่างต้องชัดเจนก่อน 1 ปี เพราะดอร์น่าจะต้องจัดการเรื่องสนามให้ลงตัว ถ้าไทยไม่เป็นเจ้าภาพต่อ ดอร์น่าก็จะต้องไปคุยกับประเทศอื่น ๆ แทน ซึ่งในเชิงปฏิบัติ กกท. เราพร้อมอยู่แล้ว ทั้งจากคำชมและมูลค่าทางเศรษฐกิจต่าง ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องนำเสนอให้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจพิจารณาอีกที
นายกฯ บอก จะไปต่อต้องดูตัวเลข
เวลาต่อมาหลังจากประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการจัดการแข่งขัน Moto GP รถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกที่จะหมดสัญญากับสนามประเทศไทย ในปี 2026 ว่า เรื่องนี้จะให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และยังมีโอกาส ต้องคุยกันอีกทีจะว่าทำอย่างไรบ้าง
ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่จะไม่ต่อสัญญา นายกฯ กล่าวว่าต้องดูเรื่องตัวเลขด้วย โดยจะให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำเสนอว่าตัวเลขเป็นอย่างไร ได้ผลอย่างไรกับประเทศบ้าง ทุกโครงการหากเป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชนหมู่มากคงต้องทำต่อแน่นอน แต่หากไม่มีประโยชน์ ขาดทุน คงต้องเอามาดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง จะได้สนับสนุนงบประมาณถูก
เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวถูกมองว่าเป็นเรื่องการเมือง เนื่องจากสนามแข่งรถ เกี่ยวข้องกับนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้าของสนาม น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ถ้าเงินเข้าจังหวัด เข้าประเทศ ใครจะเป็นเจ้าของถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และเป็นธุรกิจของเขาที่เป็นเจ้าของ แต่ต้องดูว่าประเทศได้อะไร บางทีเอกชนกับภาครัฐต้องไปด้วยกัน ทั้งหมดขอดูรายละเอียดและความสมเหตุสมผล
“การจะมองว่าเป็นการเมืองก็มองได้ แต่ดิฉันขอมองเรื่องของธุรกิจและเงิน ว่าจะทำรายได้ให้เข้าประเทศมากน้อยแค่ไหน ขอตัดสินแบบนั้น”
เนวินโชว์ตัวเลข
ล่าสุด เมื่อ 09.00 น.ของวันนี้ เนวิน ชิดชอบ โพสต์ข้อมูลสำคัญ Thai GP 2025 จากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ลุงเนวิน ข้อความระบุว่า
“ขอบคุณแฟน ๆ Thai GP ทุกคน ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ และความสำเร็จทางเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล และบรรลุเป้าหมายการจัดการแข่งขัน Moto GP อย่างงดงาม ขอบคุณทุกกำลังใจ เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เพื่อรักษา Thai GP ไว้ในประเทศไทยต่อไป”
https://www.prachachat.net/economy/news-1765564
เนวิน โชว์ตัวเลขเงินสะพัด 5,000 กว่าล้าน ปมยังไม่ต่อสัญญา Moto GP
ปมยังไม่ต่อสัญญา Moto GP
ประธานสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โชว์ตัวเลข Moto GP เมื่อวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. 68 ทำเงินสะพัด 5,043 ล้านบาท หลังเปิดประเด็นรัฐบาลไทยต่อ-ไม่ต่อสัญญา หลังหมดปี 2026 ด้าน กทท. แจงไม่เคยพูดว่าจะไม่ต่อ ส่วนนายกฯ บอกต้องดูตัวเลขเป็นสำคัญ
กลายมาเป็นประเด็นบนสังคมออนไลน์ทันทีหลังจากที่เนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ลุงเนวิน เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ใจความว่า ขอบคุณคนบุรีรัมย์ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน Moto GP ในการต้อนรับ ดูแลนักท่องเที่ยวคนไทยและชาวต่างชาติเอง
พร้อมเล่าย้อนไปถึงการจัดงานในไทยและรายได้ที่ผ่านมา โดยประเด็นหลักถูกมุ่งเป้าไปที่รัฐบาลจะจัดงาน Moto GP ปี 2026 เป็นครั้งสุดท้าย และไม่ต่อสัญญาอีกต่อไป ข้อความส่วนนั้นระบุว่า
“อย่างไรก็ตาม ผมเพิ่งได้รับทราบอย่างเป็นทางการจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นข่าวเดียวกันกับที่แฟน Moto GP ได้ยินมาก่อนหน้านี้ คือ รัฐบาลจะลงทุนจัดการแข่งขัน Moto GP ปี 2026 เป็นปีสุดท้าย และจะไม่ต่อสัญญาจัดการแข่งขัน Moto GP อีกแล้ว
ซึ่งต้องยอมรับการพิจารณาตัดสินใจของรัฐบาล แม้ว่าจะรู้สึกเสียดายอย่างมาก เพราะการจัดการแข่งขัน Moto GP รัฐบาลลงทุนปีละไม่เกิน 500 ล้านบาท และมีภาคเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุนอีกไม่น้อยกว่าปีละ 300 ล้านบาท แต่สร้างเงินทุนหมุนเวียนส่งเสริมธุรกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจ มากกว่า 5,000 ล้านบาท
แต่เมื่อรัฐบาลตัดสินใจแล้ว สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในฐานะผู้สนับสนุนรายหนึ่ง ก็ต้องยอมรับ และขอแจ้งให้แฟน Moto GP ชาวไทยได้ทราบว่า ปีหน้าจะเป็นปีสุดท้ายของ Thai GP หากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรัฐบาลไม่ทบทวนการตัดสินใจ และยังคงยืนยันที่จะไม่ต่อสัญญาจัดการแข่งขัน Moto GP ในประเทศไทย”
กกท. แย้ง ไม่เคยพูด
หลังจากนั้นไม่นาน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึงประเด็นข่าวที่ออกมาว่า กกท. จะไม่ต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพโมโตจีพี ที่สัญญาเดิมจะหมดในปี 2026 ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
จากการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในงานโมโตจีพีวันสุดท้ายของการแข่งขันนั้น ได้ตอบสื่อมวลชนไปว่า ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพูดคุย ซึ่งทางดอร์น่าเองก็ชื่นชมประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพว่าทำได้อย่างดีมาก ๆ
ส่วนทางรัฐบาลก็อยากให้มีการแข่งขันรายการใหญ่ที่ส่งเสริมด้านกีฬาแล้วยังเสริมด้านการท่องเที่ยวได้ด้วย ทาง กกท. ก็จะนำสถิติตัวเลขต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้นำเสนอกับทางรัฐบาลที่จะเป็นผู้ตัดสินใจต่อไป ซึ่งในการให้สัมภาษณ์ไม่มีประโยคไหนที่บอกว่าจะไม่ต่อสัญญาโมโตจีพีแต่อย่างใด
ดร.ก้องศักด เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “Moto GP ในปีนี้ เป็นปีที่ทุบสถิติในแทบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงเป็นประวัติการณ์เกินกว่า 5,000 ล้าน จำนวนผู้ชมที่สูงขึ้นเกือบ 7% การสร้างงานที่สูงขึ้น 12% และโดยเฉพาะการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 52,000 กว่าคน ที่สูงขึ้นประมาณ 38% สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มจัดงานมา”
จากการประเมินผลการจัดงานภาพรวมในเบื้องต้นไม่ว่าจะเป็นด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจ, การจ้างงานและจำนวนผู้ชมที่สูงขึ้น รวมทั้งการชื่นชมการจัดการแข่งขันจากดอร์น่าเองก็ตาม แน่นอนว่าการแข่งขันการเป็นเจ้าภาพสูงขึ้น หลายประเทศก็จ่อคิวรออยู่
ซึ่งทุกอย่างต้องชัดเจนก่อน 1 ปี เพราะดอร์น่าจะต้องจัดการเรื่องสนามให้ลงตัว ถ้าไทยไม่เป็นเจ้าภาพต่อ ดอร์น่าก็จะต้องไปคุยกับประเทศอื่น ๆ แทน ซึ่งในเชิงปฏิบัติ กกท. เราพร้อมอยู่แล้ว ทั้งจากคำชมและมูลค่าทางเศรษฐกิจต่าง ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องนำเสนอให้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจพิจารณาอีกที
นายกฯ บอก จะไปต่อต้องดูตัวเลข
เวลาต่อมาหลังจากประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการจัดการแข่งขัน Moto GP รถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกที่จะหมดสัญญากับสนามประเทศไทย ในปี 2026 ว่า เรื่องนี้จะให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม และยังมีโอกาส ต้องคุยกันอีกทีจะว่าทำอย่างไรบ้าง
ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่จะไม่ต่อสัญญา นายกฯ กล่าวว่าต้องดูเรื่องตัวเลขด้วย โดยจะให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำเสนอว่าตัวเลขเป็นอย่างไร ได้ผลอย่างไรกับประเทศบ้าง ทุกโครงการหากเป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชนหมู่มากคงต้องทำต่อแน่นอน แต่หากไม่มีประโยชน์ ขาดทุน คงต้องเอามาดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง จะได้สนับสนุนงบประมาณถูก
เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวถูกมองว่าเป็นเรื่องการเมือง เนื่องจากสนามแข่งรถ เกี่ยวข้องกับนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้าของสนาม น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ถ้าเงินเข้าจังหวัด เข้าประเทศ ใครจะเป็นเจ้าของถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และเป็นธุรกิจของเขาที่เป็นเจ้าของ แต่ต้องดูว่าประเทศได้อะไร บางทีเอกชนกับภาครัฐต้องไปด้วยกัน ทั้งหมดขอดูรายละเอียดและความสมเหตุสมผล
“การจะมองว่าเป็นการเมืองก็มองได้ แต่ดิฉันขอมองเรื่องของธุรกิจและเงิน ว่าจะทำรายได้ให้เข้าประเทศมากน้อยแค่ไหน ขอตัดสินแบบนั้น”
เนวินโชว์ตัวเลข
ล่าสุด เมื่อ 09.00 น.ของวันนี้ เนวิน ชิดชอบ โพสต์ข้อมูลสำคัญ Thai GP 2025 จากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ลุงเนวิน ข้อความระบุว่า
“ขอบคุณแฟน ๆ Thai GP ทุกคน ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ และความสำเร็จทางเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล และบรรลุเป้าหมายการจัดการแข่งขัน Moto GP อย่างงดงาม ขอบคุณทุกกำลังใจ เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เพื่อรักษา Thai GP ไว้ในประเทศไทยต่อไป”
https://www.prachachat.net/economy/news-1765564