หวานซะยิ่งกว่าหวาน อบอวลกลิ่นอายความหวาน

เค้กก้อนโต เค้กสตรอเบอรี่ เค้กวันเกิด

จริงๆแล้วเมื่อวานนี้ก็ไม่ใช่วันคล้ายวันเกิดของใครในบ้าน เป็นวันอาทิตย์ธรรมดาๆวันนึง วันธรรมดาที่แสนพิเศษ อีกไม่กี่วันลูกชายคนโตของผมจะต้องไปเข้าค่ายนศท. เราเลยตกลงกันว่าจะเติมเนื้อ ผลไม้ และน้ำตาลให้กับพี่ชายเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับวันหนักๆที่จะผ่านเข้ามา เราเลยนั่งกินหมูกะทะกัน และตบท้ายด้วยของหวานเป็นเค้กก้อนโต

วันนี้ผมไม่ได้พูดถึงมีด ปรัชญาชีวิตหรือสาระอะไร แค่เล่าเรื่องหรือลงภาพถ่ายบันทึกความเป็นไปให้กันฟัง

ผมเองเกิดวันที่ 27 กุมภาพันธ์ และภรรยาแสนรักของผมเกิดวันที่ 21 กุมภาพันธ์ของปีถัดไป เราอายุห่างกันราวๆหนึ่งปี ทุกครั้งที่มีโอกาสเราจะจัดงานวันเกิดเล็กๆซึ่งบางทีก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการกินข้าวด้วยกันเหมือนวันก่อนๆ เหมือนมื้อที่แล้ว แค่ยินดีหรือแอบๆปลื้มใจที่เรายังจำวันสำคัญบางสิ่งบางอย่างระหว่างกันและกัน เรายังผ่านวันเวลามาด้วยกันได้และเราจะพยายามอยู่ให้ถึงวันนี้ในปีถัดๆไป ส่วนมากแล้วถ้าจัดงานเลี้ยงแบบส่วนตัวเพราะไม่มีแขกเหรื่อหรือเพื่อนฝูงใดๆมาร่วมแสดงความยินดี เป็นการละเล่นในครอบครัวซึ่งมีสมาชิกไม่กี่คน ส่วนมากมีสี่ อาจจะเป็นห้าหรือหกบ้างในบางโอกาส และที่เหลือก็เป็นฝูงแมว

เราก็จัดงานอย่างที่ว่านี่เพียงครั้งเดียว จะได้ไม่ยุ่งยากหรือสิ้นเปลืองกับการจัดเตรียมข้าวของ บางทีก็ใช้วันที่ 23 หรือ 24 ที่เป็นวันกลางๆ และที่สำคัญคือจัดวันที่ลูกไม่ได้ไปโรงเรียน แต่เมื่อสิบปีที่แล้ว พ่อของผมเสียชีวิตในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้จัดงานเลี้ยงในวันที่ 23 หรือ 24 อีกเลย คือยกให้พ่อของผม เราจัดงานหรือไปทำบุญที่วัดเพื่อระลึกถึงการจากไปของพ่อของผม เป็นการทำบุญให้ผู้ล่วงลับ ไม่ใช่ทำบุญวันเกิด และย้ายการทำบุญวันเกิดมาอยู่ในช่วงวันที่ 27 หรือ ช่วงต้นเดือนมีนาคมแล้วแต่ความพอดีของลูกๆ

และสำหรับปีนี้ก็เป็นเมื่อวานคือวันที่ 2 มีนาคม

ไหนเรามาดูกันซิว่าเราจะได้กินอะไรเข้าไปบ้าง เค้กครีมขนาดสองปอนด์กว่าๆแบบเขื่องๆ ด้านในผ่าและราดซอสสตรอเบอรี่ ด้านนอกห่อหุ้มไว้ด้วยครีมสีขาว และประดับหน้าเค้กและด้านข้างด้วยสตรอเบอรี่ เขียนหน้าเค้กว่า พ่อ 48 แม่ 47 ก็คืออายุของผมและภรรยานั่นแหละ ไม่ได้ตกแต่งอะไรให้มันสวยงาม เธออาจจะไม่ถนัดแบบนั้น แต่เธอทำขนมได้ ทำเค้กได้ ทำสิ่งที่สามีและลูกๆอยากจะกิน เธอทำเพื่อพวกเราทุกคน

ภรรยาผมเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ เป็นแม่บ้านตามแบบของผู้หญิงชาวชนบทผู้ห่างไกลจากชีวิตศิวิไลซ์ในตัวเมือง  เธออุทิศชีวิตทั้งหมดให้กับการดูแลผม ลูกๆ และฝูงแมวลูกๆสี่ขาของเธอ ผู้หญิงคนนึงรับมือกับผู้ชายที่ไม่ค่อยปรกติอย่างผมและลูกๆอีกสองคนด้วยความอดทน ไม่ปริปากบ่น แม้ว่าบางทีจะมีเสียงด่าลอยมาตามสายลมให้พอสะดุ้งหรือเสียดแทงหัวใจ แต่ผมรักเธอ รักมาก ลูกๆและแมวก็รักเธอ เราแสดงความรักต่อเธอด้วยการจ้องดูเงียบๆพร้อมรอยยิ้มในเวลาที่เธอกำลังหาอะไรให้พวกเรากิน

แล้วเราก็ตัดเค้กกัน เธอเป็นคนตัดเค้กก้อนโตแบ่งเป็นแปดชิ้น ลูกๆคนละชิ้นใส่จานแรก ผมและเธอตักมาหนึ่งชิ้นใส่จานเดียวกัน เรากินด้วยกัน การทำแบบนี้ทำให้ผมสามารถกินขนมให้มากกว่าเธอโดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเพราะไม่มีพยานวัตถุใดๆแสดงให้เห็นว่าผมเอาเปรียบเธอ

เค้กนุ่มละมุนหอมหวาน นุ่มยิ่งกว่าละอองปุยเมฆหรือขนสัตว์ใดๆ หวานน้อยในแบบที่ไม่มีความหวานใดๆมาเปรียบ ผมมีปัญหาเล็กน้อยกับสตรอเบอรี่ที่ผ่านการแช่เย็น วิกาลแห่งอินทรีย์มันเป็นของมันอย่างนั้น ลูกๆกินชิ้นแรกหมดไปและยื่นจานเปล่าๆมารับชิ้นที่สอง ผมเองก็ได้รับเค้กชิ้นใหม่เหมือนกัน เค้กหมดไปหกชิ้น เหลือสองชิ้น เธอบอกลูกชายคนเล็กว่าให้หากล่องมาใส่เค้กชิ้นนึงไว้เอาไปให้ใครบางคน หมอนั่นหน้าบานยิ้มหยีจนแทบมองลูกกะตาไม่เห็น หวานซะยิ่งกว่า น้ำตาลหรือเค้กใดๆก็หวานไม่เท่า แก้มแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาดเปล่งปลั่งไม่แพ้สีสตรอเบอรี่ที่ผมไม่อยากจะเชื่อว่าลูกคนนี้ยังรู้จักเขินอาย 

เหลือเค้กอยู่ในจานใบเดิมชิ้นนึง กับมีดคิยะเอลเดอไวลส์

ขนมเค้กผ่านไปพร้อมกลิ่นอายของความสุข วันพรุ่งนี้อาจจะไม่มีเค้กหรือสตรอเบอรี่ แต่ความสุขที่เราแบ่งปันให้กันมีมากเพียงพอสำหรับทุกวันและทุกคน

อร่อยมากครับผม

ผมรักเธอ และผมรักขนมของเธอด้วย

...

และแน่นอนว่ารักเธอมากกว่า

สุขสันต์วันเกิดนะคนดี

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่