สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
มันไม่ใช่ประเทศไทยที่เดียวหรอกค่ะ ที่ยุโรปเค้าประสบปัญหานี้มาก่อนไทยหลายสิบปีแลัว
ขนาดคนท้องที่นั่นมีสิทธิพิเศษและกฏหมายคุ้มครองในที่ทำงานดีกว่าไทยหลายสิบเท่า
เราทำงานกับคนท้องเห็นแต่ละคนลากันฉ่ำ แค่เวียนหัวคลื่นไส้บางคนลาตั้งแต่ท้อง 3 เดือน
ลายาวยันคลอดเลย แล้วห้ามยืนเกินเวลาที่กำหนด ต้องมีที่นอนให้งีบ ฯลฯ
พอลูกคลอดมาก็ได้เงินเพิ่ม ลาคลอดได้ 3 ปี(แต่ได้เงินเดือน 100% 1 ปี ลาแบบไม่รับเงิน 2 ปี
โดยที่ทำงานต้องรักษาตำแหน่งให้) ยังไม่ช่วยให้คนอยากมีเพิ่มเลย
เพราะมีลูกแล้วมันทุ่มเทกับตำแหน่งหน้าที่การงานได้ไม่เต็มที่ค่ะ แค่เป็นหญิงก็เสียเปรียบ
ชายในหลาย ๆ ดัานแล้ว ผู้หญิงที่นั่นก็ต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีมาหลายปีกว่าจะได้ความเท่าเทียม
พอมีลูกปุ๊บสถานการณ์ก็จะกลับไปเป็นรองชายทันที (ในที่ทำงาน)
ในประเทศเอเชียที่ไม่ค่อยเจริญ เพิ่งจะมามีปัญหานี้ทีหลังพวกยุโรปเขา เพราะสถานะของ
หญิงเอเชียมันไม่เท่าชายมาแต่แรกแล้ว การมีลูกหรือไม่มีลูกจึงไม่ทำให้สถานะเปลี่ยนไป
เพียงแต่ปัจจุบัน ผู้หญิงเอเชียก็เริ่มคิดแบบหญิงยุโรป คือไม่เท่าไม่เป็นไร แต่ชั้นรักอิสระ
อยากตั้งใจเติบโตในหน้าที่การงานบ้าง เลยเพิ่งจะมีปัญหานี้เมื่อไม่กี่ปีนี้เอง
วิธีแก้ไม่มีค่ะ ถ้ามี ที่ยุโรปคงแก้สำเร็จไปแล้ว ขนาดประเทศเขาไม่ค่อยกีดกันคนต่างชาติมาอยู่
พวกต่างชาติที่ไปแต่งงานหรือทำงาน ถ้ามีลูกก็ได้สวัสดิการเท่าคนในประเทศ ก็ยังไม่ช่วย
ให้คนอยากมีลูกเลย
ตัวอย่างเราและน้อง ๆ เรา ที่พร้อมทุกด้าน ไม่มีปัญหาเรื่องค่าเลี้ยง ก็ไม่อยากมีลูกเช่นกัน
ฉะนั้น มันไม่ใช่แค่ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเดียวค่ะ
ขนาดคนท้องที่นั่นมีสิทธิพิเศษและกฏหมายคุ้มครองในที่ทำงานดีกว่าไทยหลายสิบเท่า
เราทำงานกับคนท้องเห็นแต่ละคนลากันฉ่ำ แค่เวียนหัวคลื่นไส้บางคนลาตั้งแต่ท้อง 3 เดือน
ลายาวยันคลอดเลย แล้วห้ามยืนเกินเวลาที่กำหนด ต้องมีที่นอนให้งีบ ฯลฯ
พอลูกคลอดมาก็ได้เงินเพิ่ม ลาคลอดได้ 3 ปี(แต่ได้เงินเดือน 100% 1 ปี ลาแบบไม่รับเงิน 2 ปี
โดยที่ทำงานต้องรักษาตำแหน่งให้) ยังไม่ช่วยให้คนอยากมีเพิ่มเลย
เพราะมีลูกแล้วมันทุ่มเทกับตำแหน่งหน้าที่การงานได้ไม่เต็มที่ค่ะ แค่เป็นหญิงก็เสียเปรียบ
ชายในหลาย ๆ ดัานแล้ว ผู้หญิงที่นั่นก็ต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีมาหลายปีกว่าจะได้ความเท่าเทียม
พอมีลูกปุ๊บสถานการณ์ก็จะกลับไปเป็นรองชายทันที (ในที่ทำงาน)
ในประเทศเอเชียที่ไม่ค่อยเจริญ เพิ่งจะมามีปัญหานี้ทีหลังพวกยุโรปเขา เพราะสถานะของ
หญิงเอเชียมันไม่เท่าชายมาแต่แรกแล้ว การมีลูกหรือไม่มีลูกจึงไม่ทำให้สถานะเปลี่ยนไป
เพียงแต่ปัจจุบัน ผู้หญิงเอเชียก็เริ่มคิดแบบหญิงยุโรป คือไม่เท่าไม่เป็นไร แต่ชั้นรักอิสระ
อยากตั้งใจเติบโตในหน้าที่การงานบ้าง เลยเพิ่งจะมีปัญหานี้เมื่อไม่กี่ปีนี้เอง
วิธีแก้ไม่มีค่ะ ถ้ามี ที่ยุโรปคงแก้สำเร็จไปแล้ว ขนาดประเทศเขาไม่ค่อยกีดกันคนต่างชาติมาอยู่
พวกต่างชาติที่ไปแต่งงานหรือทำงาน ถ้ามีลูกก็ได้สวัสดิการเท่าคนในประเทศ ก็ยังไม่ช่วย
ให้คนอยากมีลูกเลย
ตัวอย่างเราและน้อง ๆ เรา ที่พร้อมทุกด้าน ไม่มีปัญหาเรื่องค่าเลี้ยง ก็ไม่อยากมีลูกเช่นกัน
ฉะนั้น มันไม่ใช่แค่ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเดียวค่ะ
ความคิดเห็นที่ 24
สมัยก่อนมีลูก มีเมียตามตามกันไป ไม่คิดอะไร
แต่พอปัจจุบัน ทุกคนเห็นตัวอย่าง คนมีลูกกับไม่มีลูก มีครอบครัวกับไม่มี และยังไม่นับว่ามีลูกดีหรือไม่ดีอีกนะ
นอกจากนี้คนสมัยนี้เริ่มตกผลึกความคิดกันขึ้น
1. มีลูกโดยไม่มีฐานะเพียงพอ มันส่งผลแน่ ๆ มีเด็กบางคนลำบาก เรียน รร.วัดแล้วได้ดี แต่สมัยนี้ความเชื่อแบบนั้นใครจะกล้ารับประกันได้อีก
2. สมัยเด็กเคยลำบากมาก่อน โตขึ้นมาการมีลูกหลายคนทราบแล้วว่ายุคสมัยมันเปลี่ยน จะไปเลี้ยงเด็กด้วยความลำบากแบบเดิมมันใช้ไม่ได้อีกแล้ว
3. ทุกคนในสังคมตอนนี้ยอมรับแล้วว่า รวยกว่าย่อมดีกว่า เรื่องอื่นเป็นรองหมด การมีลูกแล้วยิ่งต้องมาต่อสู้ดิ้นรนยากลำบากเพิ่มขึ้นอีก คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
4. สมัยก่อนมีลูกเพื่อเป็นแรงงาน เลี้ยงเด็กไว้เพื่อความกตัญญูตอบแทน แต่สมัยนี้เหตุผลนี้ใช้ไม่ได้แล้ว
5.ชีวิตคนเรามีเรื่องต้องทำเยอะแยะมากกว่าต้องมาเลี้ยงลูก การเลี้ยงเด็กคนนึงต้องทุ่มเทเวลามากเกิน 20 ปี เวลาชีวิตที่หายไปนี่ เรียกคืนไม่ได้
แต่พอปัจจุบัน ทุกคนเห็นตัวอย่าง คนมีลูกกับไม่มีลูก มีครอบครัวกับไม่มี และยังไม่นับว่ามีลูกดีหรือไม่ดีอีกนะ
นอกจากนี้คนสมัยนี้เริ่มตกผลึกความคิดกันขึ้น
1. มีลูกโดยไม่มีฐานะเพียงพอ มันส่งผลแน่ ๆ มีเด็กบางคนลำบาก เรียน รร.วัดแล้วได้ดี แต่สมัยนี้ความเชื่อแบบนั้นใครจะกล้ารับประกันได้อีก
2. สมัยเด็กเคยลำบากมาก่อน โตขึ้นมาการมีลูกหลายคนทราบแล้วว่ายุคสมัยมันเปลี่ยน จะไปเลี้ยงเด็กด้วยความลำบากแบบเดิมมันใช้ไม่ได้อีกแล้ว
3. ทุกคนในสังคมตอนนี้ยอมรับแล้วว่า รวยกว่าย่อมดีกว่า เรื่องอื่นเป็นรองหมด การมีลูกแล้วยิ่งต้องมาต่อสู้ดิ้นรนยากลำบากเพิ่มขึ้นอีก คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
4. สมัยก่อนมีลูกเพื่อเป็นแรงงาน เลี้ยงเด็กไว้เพื่อความกตัญญูตอบแทน แต่สมัยนี้เหตุผลนี้ใช้ไม่ได้แล้ว
5.ชีวิตคนเรามีเรื่องต้องทำเยอะแยะมากกว่าต้องมาเลี้ยงลูก การเลี้ยงเด็กคนนึงต้องทุ่มเทเวลามากเกิน 20 ปี เวลาชีวิตที่หายไปนี่ เรียกคืนไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
ชวนคุย สังคมไทยของเราสร้างกันแบบไหนคนถึงไม่อยากมีลูกมีภาระ
คือประเทศไทยเป็นประเทศที่ผู้คนเป็นมิตร อัธยาศัยไมตรีน้ำจิตน้ำใจงดงาม
ทำไมสังคมไทยสร้างเราให้คิดว่าการมีลูกคือเป็นเรื่องลำบากครับ
เรื่องนี้เกิดจากอะไรแล้วเราจะแก้ปัญหากันยังไงเพราะโดยส่วนตัวก็คงไม่อยากมีลูก ไม่อยากให้ลูกมาเจอรถติดมลภาวะหรือว่าค่าเทอมที่แพงหูฉี่ถ้าไม่ได้เหมือนคนอื่นก็โดนดูถูก
เราจะแก้ปัญหาสังคมนี้ยังไงครับ