ปรึกษาการเรียนต่อ/ความคาดหวังพ่อแม่ / ปรึกษาคณะของ camt มช

สวัสดีค่ะตอนนี้หนูเรียนอยู่ม.5 กำลังขึ้นม.6 เครียดเรื่องนี้มานานมากๆแล้วอาจจะยาวหน่อยแต่ขอคำปรึกษาจากทุกคนหน่อยนะคะจะขอบคุณมากๆค่ะ
จะแบ่งเป็นที่ละอย่างเพื่อที่ง่ายต่อการอ่านนะคะ อยากอ่านเข้ามหาลัยไปข้อ 4 เลยค่ะ

1. เราถนัดด้านอะไร และ passion ที่ต้องการ /นิสัยส่วนตัว
เราถนัดพวกการเขียนโค้ดชื่นชอบการทำเกม และ วาดรูปได้เก่งพอตัวเลยค่ะ ชอบทำพวกกราฟฟิคดีไซน์นิดหน่อย และ ตัดต่อเป็น (ไม่ใช่ตัดต่อใน capcut ง่อยๆที่คนทั่วไปทำกันนะคะ เป็นตัดต่อใช้ effects ที่ระัดบสูงขึ้นมานิดหน่อย) ใช้ after effects ตัดต่อค่ะ เราเป็นคนรักอิสระมากๆๆไม่ชอบอยู่ในกฏเกณฑ์แต่ไม่ได้ดื้อดึงถึงขั้นเป็นเด็กไม่ดีนะคะ เราเป็นคนถ้ามีเป้าหมายที่ต้องการจริงๆเราจะพยายามมากๆค่ะเพื่อจะคว้าสิ่งนั้นมา ชอบเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการอยากจะรู้เท่านั้น เช่น ถ้าเราอยากจะทำแบบนั้น เราต้องไปดูคลิปหรือคนสอนแบบนี้นะ หรือ ถ้าเก่งขึ้นมาหน่อยก็ อยากตัดต่อตามคนนั้น เราก็สามารถใช้ความรู้ที่มีตัดต่อให้เหมือนโดยที่ไม่ต้องพึ่งคลิปสอนใดๆ อยากที่บอกค่ะเรารักอิสระ ชอบการสร้างสรรค์ผลงาน จุดเริ่มต้นมาจากเราชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กๆค่ะ แต่อาจจะน้อยคนที่โตมาแล้วยังชอบวาดรูปและพัฒนาให้ดีขึ้นมาได้ 

      1.2 งานอดิเรก .  งานอดิเรกเราคือการวาดรูป ทำกราฟฟิคนิดหน่อย เล่นดนตรี (กีต้าร์ไฟฟ้า กลอง และ เครื่องดนตรีไทยพื้นบ้านภาคเหนือ) ซึ่งการเล่นดนตรีพ่อแม่ส่งเรียนตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ชอบการเล่นเกม การตัดต่อ การเขียนโค้ดต่างๆ และ การทำเกมขึ้นมาค่ะ

     1.2 ไม่ชอบ .   เราไม่ชอบด้านวิทย์กับคณิตมากๆ คณิตถ้าตั้งใจยังพอได้แต่วิทย์นี่พอเลย ไม่ชอบอยู่กรอบสี่เหลี่ยม ชอบการใช้ชีวิตหาสิ่งใหม่ๆ 

     1.3 ปัญหาส่วนตัว .  บ้านเรามีปัญหาต่างๆพ่อแม่ก็ชอบทะเลาะกันตั้งแต่เด็ก(พ่อโมโหร้ายและโมโหง่าย) ตอนเด็กเราเลยมีพฤติกรรมขี้โมโหและเวลาอะไรไม่ได้ดั่งใจก็จะโกรธจนทำร้ายตัวเอง แต่นิสัยนี้เริ่มลดลงตั้งแต่ม.2 //// โดนกดดันจากความคาดหวังจากพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆเห็นอาชีพอะไรก็ชอบบอกแม่ว่าอยากเป็นอันนั้นอันนี้  เช่น ตอนเด็กดูข่าวบ่อยก็บอกแม่ว่า อยากเป็นนักข่าว แม่ก็ชอบบอกว่าอย่าไปเป็นเลยนักข่าว หรือ อาชีพอื่นๆ (เริ่มเศร้าตั้งแต่ตอนป.4 (บ้านมีปัญหา) และ เริ่มหนักตอนม.1)ตอนป.6 โดนคาดหวังให้เข้า ม.1 วิทย์คณิต โรงเรียนดังในจังหวัดแห่งหนึ่ง แต่เราก็เข้าได้แค่ห้องปกติ เราดีใจมากแต่พ่อแม่ไม่ค่อยจะแฮปปี้ด้วยเท่าไหร่ ตอนม.ต้นพ่อแม่ก็บอกว่าอยากให้เข้าหมอเพราะฉะนั้นตอนม.4 ตอนเข้าวิทย์-คณิตให้ได้ และ บอกว่าไม่ต้องเป็นหรอกพยาบาลมันลำบากต้องไปเช็ดอึไปฉี่ผู้ป่วย แต่พอขึ้นม.3 มาพ่อแม่ก็ไม่ค่อยมีหวังกับหมอเพราะมันน่าจะยากไปสำหรับลูกเลยคิดว่าจะให้ไปเภสัช ช่วงนั้นได้เลี้ยงนกแก้วต่อจากพี่ชาย(พี่ชายไปอยู่มหาลัย) จำเป็นต้องเลี้ยงเพราะพ่อแม่ไม่ยอมเลี้ยง(ช่วยแค่เรื่องซื้ออาหารซื้อกรง) นกแก้วตัวนั้นเหมือนเป็นที่พึ่งทางใจเราโลกทั้งใบเลย ช่วงนั้นร้องไห้บ่อยมากเพราะกลัวว่าถ้านกตายเราจะทำยังไงแรงจูงใจในการใช้ชีวิตไม่มี จนความกลัวนั้นก็มาจริงนกเราป่วยและเสียชีวิตกระทันหันมาก ตอนนั้นโคตรจะเสียใจ เวลาร้องไห้ชอบไปร้องคนเดียวไม่อยากให้ใครเห็น ปรึกษาพ่อแม่อะไรก็ไม่ค่อยได้คำตอบที่ดี เวลาข่าวพวกเด็กฆตตหรือซึ่มเศร้าหรือเด็กมีปัญหา พ่อชอบบอกว่าเด็กที่ฆตตหรือซึมเศร้าเป็นพวกอ่อนโตโลกอ่อนแอก็แพ้ไปประมาณนั้น เวลาบอกพ่อแม่ว่าเหนื่อยก็ได้คำตอบแบบ ยังมีอีกหลายคนที่เหนื่อยกว่าลูกหรือทำงานหาเงินเหนื่อยกว่านี้ เพราะแบบนี้เลยกลายเป็นเด็กที่ไม่ปรึกษาพ่อแม่ไปเลย โคตรไม่มีเป้าหมายในชีวิตแต่ชีวิตยังไงก็ต้องเดินหน้าต่อ ชอบพูดกับตัวเองว่าเหนื่อยอยากฆตตบ่อยมากๆจนเป็นเรื่องปกติ ไม่อยากพูดเต็มปากว่าเป็นซึมเศร้าเพราะยังไม่ได้ไปพบจิตแพทย์ไม่กล้าไปด้วย ไม่กล้าบอกใครเพราะว่าเพื่อนๆอาจจะคิดว่ามันเบียว หรือ เราอาจจะแค่เครียดกับเศร้าเฉยๆไม่ได้เป็นจริงก็ได้  (เรามี trust issuesค่ะ

1.3.1 พ่อแม่ยัดให้เราเรียนแต่สุดท้ายก็เข้าวิทย์คณิตไม่ได้ ทำให้ทางเดียวคือการเรียนพยาบาลเอกชน พ่อแม่ชอบพูดเรื่องว่าเรียนพยาบาลอย่างนู้นอย่างนี้บ่อยเข้าจนเราเครียดจัด เครียดมากๆ เพราะไม่ชอบอาชีพพยาบาล ไม่อยากเรียนมาก ถึงขั้นเกลียดอาชีพนี้มาก (ไม่ได้เกลียดคนที่เป็นพยาบาลนะคะ) แค่เกลียดที่ตัวเองจะต้องไปเป็นอาชีพพยาบาล ไม่ชอบขนาดที่ว่าถ้าได้ไปเรียนเหมือนตกนรกทั้งเป็น เรามีรุ่นพี่หลายคนที่เขาเรียนคณะนี้จากหลายสถาบันเราก็ไปถามเรื่องการเรียนพยาบาลมาซึ่งมีหลายๆอย่างที่เราไม่ชอบเอาง่ายๆคือ พยาบาลต้องใจรัก การบริการ และ อื่นๆ คุณสมบัติเหล่านี้เราไม่เต็มใจที่จะทำตามเลย เราชอบเจาะร่างกาย อารมณ์ศิลป์ ประมาณนี้

1.3.2 เราค่อนข้างน้อยใจที่พ่อแม่ไม่เคยพูดว่าภูมิใจในตัวเราเลยไม่ว่าทำอะไรก็ตามยิ่งโตเหมือนเขายิ่งผิดหวังขึ้นเรื่อยๆ ครั้งหนึ่งเราหลับดึกไม่ทำตามข้อตกลงที่พ่อแม่ให้หลับก่อนเวลานี้ วันต่อมาพ่อแม่โกรธมาก และแม่พูดคำนึงที่กระทบจิตใจเรามากและคำนั้นยังติดอยู่ในหัวมาตลอดคือ แม่ผิดหวังในตัวลูก

2. ความคาดหวังของพ่อแม่ 
(พ่อแม่ทำงานราชการกันทั้งคู่ไม่มีปัญหาเรื่องการเงินที่บ้านแต่ก็ไม่ได้รวย/เราเรียนสายศิลป์คำณวนค่ะ) พ่อแม่ต้องการให้หนูเรียนคณะที่เรียนแล้วไม่ตกงานและมั่นคงทางการเงินเช่น ครู หรือ อาชีพทางการแพทย์ พ่อแม่ท่านอยากให้เราเรียนคณะพยาบาลมหาลัยเอกชนแห่งหนึ่งที่ไม่ได้แข่งขันอะไรเยอะสามารถจ่ายเงินแล้วเรียนได้เลย ไม่ตกงานแน่นอนแต่ค่าเทอมแพงมากเลยค่ะตลอดหลักสูตร 4 ปี 640,000 บาทแต่เขาก็ยอมจ่ายเพื่อให้เราไม่จบมาตกงานและลำบาก เขาอยากได้อาชีพที่มั่นคงเรียนจบมาไม่ตกงาน นี่คือสิ่งที่เขาต้องการค่ะ

3. อาชีพที่พ่อแม่ต้องการให้เรียน (พยาบาล)
พ่อแม่อยากให้เรียนอาชีพสายการแพทย์อื่นๆเช่น หมอ ทันตะ หรือ เภสัช เราเลือกเรียนศิลป์คำณวนบางมหาลัยไม่รับหนูไม่มี passion หรือ พยายามมากพอในการเข้าคณะเหล่านี้พ่อแม่คิดว่าพยาบาลดีที่สุดแล้วสำหรับหนูไม่ตกงานแน่นอนเพราะความต้องการสูง หรือ การเป็นครู ซึ่งพี่ชายเรากำลังเรียนอยู่ค่ะ (เพิ่มเติมมหาลัยที่เรียนพยาบาลแห่งนั้นต้องอยู่หอในค่ะ)
แล้วคณะอื่นหรืออาชีพอื่นๆล่ะ?
  : เคยเสนอพ่อแม่เข้าคณะอื่นแล้วเช่น สถาปัต หรือ วิศวะคอม พ่อแม่ไม่เห็นด้วยมากๆคิดว่าหางานยาก ตกงานแน่ เพือนแม่มาอวดว่าลูกตัวเองเรียนวิศวะลาดกระบัง หรือ จุฬาแม่ก็ไม่สนใจ บอกเราว่า เรียนสูงไปเถอะตกงานหรือไม่ตกงานก็ไม่รู้

4. คณะที่อยากเข้า และ มหาลัยที่อยากเรียน
เราชอบมชมาก อยากเข้าไปเรียนในมหาลัยนี้มากๆ กับพ่อแม่ที่ไม่ชอบให้ไปเรียนไกลบ้าน กับ มหาลัยมฟลถ้าเข้ามชไม่ได้ก็จะมาที่นี่แต่เป็นแค่ตัวเลือกสำรอง เพราะ สุดท้ายก็โดนบังคับเข้าพยาบาลอยู่ดี (มหาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง) ส่วนตัวเล็ง CAMT วิทลัยสื่อ เทคโน มชไว้ สาขาที่สนใจมากๆมี
   1. วิศวกรรมซอฟแวร์
    2. ดิจิตอลเกม
    3. แอนิเมชั่น (ดิจิตอลมีเดีย)
เราวางแผนไว้ว่าจะเข้าดิจิตอลเกม เริ่มหางานต่อปี2-3 จบมาจะได้สบายไม่ต้องดิ้นรนมาก หรือไม่ก็เป็น devoloper แบบฟรีแลนส์ไปเลย ส่วนพวกที่เกี่ยวกับวิศวะซอฟแวร์จะไปหาเรียนคอร์สเอาข้างนอกมาพัฒนาตัวเอง อยากให้พี่ๆทุกคนที่จบด้านนี้มาหรือกำลังเรียนอยู่แนะนำหน่อยนะคะ

5. ช่วยตัดสินใจหน่อยค่ะว่าควรไปทางไหนดี
เรามีสองความคิดอยู่ในหัว คือ ทำงานที่มั่นคงก่อนแล้วค่อยทำในสิ่งที่ตัวเองชอบตอนทำงานมีเงินแล้ว กับ จะมีวัยรุ่นซักกี่คนที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและทำมันได้ดี ผู้ใหญ่และเพื่อนหลายๆคนมักจะบอกความคิดแรกเสมอไม่มีใครเชื่อว่าเราจะทำตามความคิดที่ 2 ได้เลยซักคน เรามั่นใจมากว่าเราสามารถทำตามความคิดทีสองได้แน่นอนแต่ก็น้อยคนหรือไม่มีเลยที่สนับสนุน และ อาชีพฟรีแลนซ์เป็นอาชีพที่พ่อแม่โคตรไม่ชอบ เพราะมันไม่คงเลย ตอนนี้ก็เลยคิดหนักค่ะว่าไปตามที่พ่อแม่บอก หรือ ทำตามความชอบของตัวเองไปเลยใช้ชีวิตเปิดโลกเปิดหูเปิดตาเป็นอิสระ เราไม่ชอบอยู่ในกรอบเลยแต่คิดแล้วคิดอีกจนเครียดมาก

ช่วยมาออกความคิดเห็นกันหน่อยนะคะทุกความคิดเห็นมีผลต่อเรามากๆค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่