เปรียบเทียบ ประกันสังคม VS สิทธิบัตรทอง เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ในปี พ.ศ. 2569 ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมจะต้องจ่ายเงินสมทบต่อเดือนเพิ่มขึ้น โดยสูงสุดอยู่ที่ 875 บาท

โดยในวันนี้เราจะมาดูในส่วนค่ารักษาเกี่ยวกับฟันเท่านั้นนะทุกคน
รักษารากฟัน
บัตรทอง : รักษารากฟันแท้ ใส่รากฟันเทียม ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : ไม่รวมอยู่ในสิทธิ ดังนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
ศัลยศาสตร์ช่องปาก
บัตรทอง : รักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : ไม่รวมอยู่ในสิทธิ ดังนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
ตรวจฟัน
บัตรทอง : ตรวจวินิจฉัยโรค เอกซเรย์ฟัน รวมถึงการให้ยาก่อนและหลังการรักษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : ตรวจฟันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากมีการเอกซเรย์ฟันหรือให้ยาก่อนและหลังการรักษาต้องจ่ายเงินเอง
เคลือบฟลูออไรด์
บัตรทอง : รักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : ไม่รวมอยู่ในสิทธิ ดังนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด
บัตรทอง : รักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : รักษาได้ในวงเงินไม่เกิน 900 บาท/ปี หากมีส่วนเกินจะต้องจ่ายเอง
รักษาโรคเหงือก ปริทันต์
บัตรทอง : รักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : ไม่รวมอยู่ในสิทธิ ดังนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

การใส่ฟันเทียม ฟันปลอม
บัตรทอง : ใส่ฟันเทียมฐานอะคริลิกได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : ใส่ฟันเทียมฐานอะคริลิกชนิดถอดได้บางส่วน จำนวน 1-5 ซี่ เบิกได้ไม่เกิน 1,300 บาท
ใส่ฟันเทียมฐานอะคริลิกชนิดถอดได้บางส่วน จำนวนมากกว่า 5 ซี่ เบิกได้ไม่เกิน 1,500 บาท
ใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่าง เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงในวงเงินไม่เกิน 2,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ใส่ฟันเทียม
ใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปากบนและล่าง เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงในวงเงินไม่เกิน 4,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ใส่ฟันเทียม
*** นอกจากนี้ผู้ประกันตนจะต้องสำรองจ่ายค่าใส่ฟันปลอมไปก่อน จากนั้นค่อยนำเอกสารและใบเสร็จรับเงินไปติดต่อเบิกได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ ข้อมูลล่าสุด 27 ก.พ. 68
ขอบคุณ Thainewsonline
เปรียบเทียบ ประกันสังคม VS สิทธิบัตรทอง ในการรักษาฟัน
โดยในวันนี้เราจะมาดูในส่วนค่ารักษาเกี่ยวกับฟันเท่านั้นนะทุกคน
รักษารากฟัน
บัตรทอง : รักษารากฟันแท้ ใส่รากฟันเทียม ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : ไม่รวมอยู่ในสิทธิ ดังนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
ศัลยศาสตร์ช่องปาก
บัตรทอง : รักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : ไม่รวมอยู่ในสิทธิ ดังนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
ตรวจฟัน
บัตรทอง : ตรวจวินิจฉัยโรค เอกซเรย์ฟัน รวมถึงการให้ยาก่อนและหลังการรักษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : ตรวจฟันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากมีการเอกซเรย์ฟันหรือให้ยาก่อนและหลังการรักษาต้องจ่ายเงินเอง
เคลือบฟลูออไรด์
บัตรทอง : รักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : ไม่รวมอยู่ในสิทธิ ดังนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด
บัตรทอง : รักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : รักษาได้ในวงเงินไม่เกิน 900 บาท/ปี หากมีส่วนเกินจะต้องจ่ายเอง
รักษาโรคเหงือก ปริทันต์
บัตรทอง : รักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : ไม่รวมอยู่ในสิทธิ ดังนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง
การใส่ฟันเทียม ฟันปลอม
บัตรทอง : ใส่ฟันเทียมฐานอะคริลิกได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ประกันสังคม : ใส่ฟันเทียมฐานอะคริลิกชนิดถอดได้บางส่วน จำนวน 1-5 ซี่ เบิกได้ไม่เกิน 1,300 บาท
ใส่ฟันเทียมฐานอะคริลิกชนิดถอดได้บางส่วน จำนวนมากกว่า 5 ซี่ เบิกได้ไม่เกิน 1,500 บาท
ใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่าง เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงในวงเงินไม่เกิน 2,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ใส่ฟันเทียม
ใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปากบนและล่าง เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงในวงเงินไม่เกิน 4,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ใส่ฟันเทียม
*** นอกจากนี้ผู้ประกันตนจะต้องสำรองจ่ายค่าใส่ฟันปลอมไปก่อน จากนั้นค่อยนำเอกสารและใบเสร็จรับเงินไปติดต่อเบิกได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ ข้อมูลล่าสุด 27 ก.พ. 68
ขอบคุณ Thainewsonline