สุขภาพฟันที่ดีเป็นสิ่งสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัย การป้องกันฟันผุและเสริมความแข็งแรงของเคลือบฟันเป็นกุญแจหลักที่ช่วยให้ฟันอยู่กับเราไปตลอดชีวิต หนึ่งในแนวทางที่มีประสิทธิภาพคือ "การแปรงฟันแห้ง" ร่วมกับ "การอมน้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์" ซึ่งช่วยเสริม กระบวนการ Remineralization และป้องกันฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทบาทในกระบวนการ Remineralization:

✅ กระบวนการ Remineralization เป็นกระบวนการที่แร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียมและฟอสฟอรัส จะถูกนำกลับมาสะสมบนผิวฟันที่ถูกทำลายโดยกรด
✅ น้ำลายมีบทบาทสำคัญในการนำพาแร่ธาตุเหล่านี้ไปยังผิวฟัน
✅ ฟลูออไรด์จะช่วยส่งเสริมกระบวนการนี้ โดยการสร้างผลึกฟลูออโรอะพาไทต์ ซึ่งแข็งแรงกว่าเคลือบฟันตามธรรมชาติ

📌 สรุป
✅ กระบวนการ Remineralization จะเกิดขึ้นได้ทันทีเมื่อน้ำลายที่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสมาสัมผัสกับเคลือบฟันที่เสียหาย อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาที
✅ นอกจากนี้ กระบวนการ Remineralization ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น สภาพของเคลือบฟัน ปริมาณฟลูออไรด์ที่ได้รับ และระยะเวลาที่น้ำลายสัมผัสกับเคลือบฟันที่เสียหาย
✅ โดยสรุป กระบวนการ Remineralization ใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาที แต่อาจใช้เวลานานกว่านั้นหากเคลือบฟันได้รับความเสียหายมากหรือได้รับฟลูออไรด์ไม่เพียงพอ

---

🔍 วิธีการแปรงฟันแห้ง: เพิ่มประสิทธิภาพของฟลูออไรด์

1️⃣ บีบยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ลงบนแปรงสีฟัน โดยไม่ต้องจุ่มน้ำ
2️⃣ แปรงฟันให้ทั่วถึงทุกซี่ อย่างน้อยประมาณ 2 นาที โดยเน้นบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ
3️⃣ บ้วนน้ำลายออก แต่ไม่ต้องบ้วนน้ำตาม เพื่อให้ฟลูออไรด์สัมผัสกับผิวฟันได้นานขึ้น
4️⃣ หลังแปรงฟันแห้ง ควรงดดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ฟลูออไรด์ทำงานได้อย่างเต็มที่

📌 ปริมาณฟลูออไรด์ในยาสีฟัน:

👉 สำหรับผู้ใหญ่ ควรเลือกใช้ยาสีฟันที่มีปริมาณฟลูออไรด์ 1,350-1,500 ppm (ส่วนในล้านส่วน)
👉 ปริมาณฟลูออไรด์ในระดับนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุได้อย่างดี

---

🔍 วิธีการอมน้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์: เพิ่มการปกป้องอีกขั้น

1️⃣ เทน้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ในปริมาณที่แนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ (โดยทั่วไปประมาณ 10-20 มิลลิลิตร)
2️⃣ อมน้ำยาบ้วนปาก กลั้วให้ทั่วช่องปาก เป็นเวลา 30-60 วินาที
3️⃣ บ้วนน้ำยาบ้วนปากทิ้ง โดยไม่ต้องบ้วนน้ำตาม
4️⃣ หลังอมน้ำยาบ้วนปาก ควรงดดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ฟลูออไรด์เคลือบผิวฟันและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

📌 ปริมาณฟลูออไรด์ในน้ำยาบ้วนปาก:

👉 ความเข้มข้น 0.05% NaF (โซเดียมฟลูออไรด์) ซึ่งมีความเข้มข้นของฟลูออไรด์ประมาณ 226 ppm สำหรับใช้ทุกวัน
👉 ความเข้มข้น 0.2 % NaF (โซเดียมฟลูออไรด์) ซึ่งมีความเข้มข้นของฟลูออไรด์ประมาณ 904 ppm สำหรับใช้1-2ครั้งต่อสัปดาห์

---

🔍 เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อฟันแข็งแรง:
✅ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
✅ ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ เพื่อทำความสะอาดซอกฟัน
✅ หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
✅ ไปพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและรับการทำความสะอาดฟัน

---

ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่เคยสนใจเรื่องแปรงฟันแห้งมาก่อน เพราะคิดว่าแค่เพียงแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ แค่นี้ฟลูออไรด์ก็น่าจะเข้าไปจัดการโน่นนี่นั่นบนฟันของเราได้แล้ว แต่พอได้มาศึกษาขบวนการ Remineralization ซึ่งมันมีรายละเอียดที่ซับซ้อนกว่าที่คิด คร่าวๆ ก็คือ

แคลเซียม + ฟอสฟอรัส (ในน้ำลาย) + ฟลูออไรด์ (ในยาสีฟัน) = ซ่อมเคลือบฟัน ซึ่งจะใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาที (ระยะหวังผล 30 นาที)

นั่นหมายถึง แค่เราแปรงฟันเสร็จแล้วบ้วนยา ตามด้วยบ้วนปากด้วยน้ำเปล่า 3 ครั้ง ตามหลักสูตรสมัยโบราณที่พวกเราชาว สว ได้ร่ำเรียนกันมาตั้งแต่สมัย ป. 1 แค่นั้นมันไม่สามารถทำให้เคลือบฟันที่สึกหรอได้รับการซ่อมแซมได้ เด็กยุคใหม่ที่ใช้หลักสูตรใหม่ (แปรงฟันแห้ง) จึงมักไม่มีปัญหาฟันผุเหมือนพวกเรา

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปฏิวัติร่างกายเราใหม่ สูงวัยจะต้องมีฟันที่แข็งแรง เพราะคุณภาพชีวิตจะดีได้ ฟันต้องดีก่อน. ขอให้ทุกท่านจงมีสุขภาพฟันที่ดี จะได้ไม่ต้องร้องเพลง "เหงือกจ๋า ฟันลากร่อย" ครับ 

---

* หมายเหตุ น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ที่กล่าวถึงในกระทู้นี้ อ้างอิงจาก น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลที่จะทำลายสุขภาพช่องปาก .. น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ที่ได้รับความนิยมและการยอมรับในปัจจุบัน คือ น้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ Fresh จากคณะทันตแพทย์ ม.มหิดล และ น้ำยาบ้วนปาก คูฬเดนท์ สตีเวียฟลูออไรด์ CU Dent จากคณะทันตะฯ จุฬา ทั้ง 2 ยี่ห้อสามารถหาซื้อได้ที่ Shopee และ Lazada (จขกท ไม่ได้รับค่าสปอนเซอร์ แต่หากทั้ง 2 ยี่ห้อจะใจดี มอบให้ใช้ซักยี่ห้อละ 1 ลัง ก็ยินดีครับบ  )