สมัยก่อน ไม่ค่อยมีคนใข้คำนี้ introvert คนที่เป็น introvert แท้ๆ จึงมักรู้สึกตัวเองเสมอว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่น
สมัยเข้าโรงเรียนประจำครั้งแรก แม่พาไปโรงเรียน ผมเห็นเพื่อนๆ ร้องไห้ เพราะจากพ่อแม่มา แน่นอนว่าเด็กร้องไห้กันแทบทุกคนเมื่อถึงเวลาที่พ่อแม่ปล่อยทิ้งไว้ที่โรงเรียน มีแต่เราคนเดียวที่นิ่ง ไม่ร้องไห้สักแอะ ร้องทำไม ร้องเพื่ออะไร แถมบอกแม่ให้กลับไปเถอะ เราอยู่ได้สบาย ไม่ต้องห่วงเรา ตอนนั้นเรายังตัวน้อยอยู่เลย เราเป็นเด็กที่นิ่ง ไม่ชอบเล่นกับใคร
จำได้ว่า ตอน ม.5 เคยได้สมุดพกของตัวเองที่มีผลการเรียน 4.00 แต่อาจารย์ที่ปรึกษา ลงความเห็นในสมุดพกว่า ควรปรับตัวเข้ากับเพื่อนบ้าง ตอนนั้นมีความรู้สึกว่า การไม่ปรับตัวหาใครเป็นเรื่องผิดของชีวิตหรือเปล่า...
ตอนมหาลัย เราค่อนข้างเรียนดีมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะวิชายากๆ ที่ต้องใช้ความจำ เรื่องยากๆซับซ้อน หรือใช้การปฏิบัติเยอะๆ เราทำมันได้ดีเป็นพิเศษ จนเกิดความเชี่ยวชาญในสาขาหนึ่งที่เป็นเฉพาะทาง
เวลาผ่านไป ผมสอบชิงทุนได้ ได้ไปเรียนต่อเมืองนอกต่อ ชอบทำวิจัยมาก กลับมาทำงานให้มหาวิทยาลัยได้ไม่กี่ปี ก็ลาออก เพราะต้องไปช่วยงานที่บ้านที่อยู่ในช่วงต้มยำกุ้ง ยุคนั้น เศรษฐกิจแย่มาก แต่ที่บ้านก็ผ่านมันมาได้ ถือว่าเป็นการพลิกฟื้นชีวิตในครอบครัวครั้งใหญ่
ที่เล่ามาอยากบอกว่า ผมไม่เคยคิดว่า introvert ของผม คือจุดด้อยในขีวิตอีกต่อไป เพราะมันคือจุดเด่นที่ยิ่งใหญ่ที่นำพาผมมาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะความเป็น introvert ของผมจริงๆ ที่บ้านผมเป็น introvert ทั้งบ้าน แต่ผมจะหนักกว่าเพื่อน สามารถอยู่คนเดียวได้เป็นเดือนๆ หรือเป็นปีได้ โดยไม่เจอใคร
ด้วยความ introvert ชอบความเป็นส่วนตัว ผมสร้างบ้านตัวเองคนละหลังจากบ้านพ่อแม่ อยู่บนที่ดินเดียวกัน ใกล้ๆกันนี่แหล่ะ แต่จำลองสภาพบ้านที่ผมพักสมัยอยู่ที่อเมริกามาจนหมด ไม่ว่าจะเป็นห้องลับใต้ดิน ห้องน้ำตุ๊กตา มันเป็นความทรงจำที่ดีของผม แม้ว่าต้องมีค่าดูแลมันเยอะมากก็ตาม มันไม่เหมาะกับบ้านเมืองร้อนเลย พับผ่า..
พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ...นิสัย introvert
สมัยเข้าโรงเรียนประจำครั้งแรก แม่พาไปโรงเรียน ผมเห็นเพื่อนๆ ร้องไห้ เพราะจากพ่อแม่มา แน่นอนว่าเด็กร้องไห้กันแทบทุกคนเมื่อถึงเวลาที่พ่อแม่ปล่อยทิ้งไว้ที่โรงเรียน มีแต่เราคนเดียวที่นิ่ง ไม่ร้องไห้สักแอะ ร้องทำไม ร้องเพื่ออะไร แถมบอกแม่ให้กลับไปเถอะ เราอยู่ได้สบาย ไม่ต้องห่วงเรา ตอนนั้นเรายังตัวน้อยอยู่เลย เราเป็นเด็กที่นิ่ง ไม่ชอบเล่นกับใคร
จำได้ว่า ตอน ม.5 เคยได้สมุดพกของตัวเองที่มีผลการเรียน 4.00 แต่อาจารย์ที่ปรึกษา ลงความเห็นในสมุดพกว่า ควรปรับตัวเข้ากับเพื่อนบ้าง ตอนนั้นมีความรู้สึกว่า การไม่ปรับตัวหาใครเป็นเรื่องผิดของชีวิตหรือเปล่า...
ตอนมหาลัย เราค่อนข้างเรียนดีมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะวิชายากๆ ที่ต้องใช้ความจำ เรื่องยากๆซับซ้อน หรือใช้การปฏิบัติเยอะๆ เราทำมันได้ดีเป็นพิเศษ จนเกิดความเชี่ยวชาญในสาขาหนึ่งที่เป็นเฉพาะทาง
เวลาผ่านไป ผมสอบชิงทุนได้ ได้ไปเรียนต่อเมืองนอกต่อ ชอบทำวิจัยมาก กลับมาทำงานให้มหาวิทยาลัยได้ไม่กี่ปี ก็ลาออก เพราะต้องไปช่วยงานที่บ้านที่อยู่ในช่วงต้มยำกุ้ง ยุคนั้น เศรษฐกิจแย่มาก แต่ที่บ้านก็ผ่านมันมาได้ ถือว่าเป็นการพลิกฟื้นชีวิตในครอบครัวครั้งใหญ่
ที่เล่ามาอยากบอกว่า ผมไม่เคยคิดว่า introvert ของผม คือจุดด้อยในขีวิตอีกต่อไป เพราะมันคือจุดเด่นที่ยิ่งใหญ่ที่นำพาผมมาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะความเป็น introvert ของผมจริงๆ ที่บ้านผมเป็น introvert ทั้งบ้าน แต่ผมจะหนักกว่าเพื่อน สามารถอยู่คนเดียวได้เป็นเดือนๆ หรือเป็นปีได้ โดยไม่เจอใคร
ด้วยความ introvert ชอบความเป็นส่วนตัว ผมสร้างบ้านตัวเองคนละหลังจากบ้านพ่อแม่ อยู่บนที่ดินเดียวกัน ใกล้ๆกันนี่แหล่ะ แต่จำลองสภาพบ้านที่ผมพักสมัยอยู่ที่อเมริกามาจนหมด ไม่ว่าจะเป็นห้องลับใต้ดิน ห้องน้ำตุ๊กตา มันเป็นความทรงจำที่ดีของผม แม้ว่าต้องมีค่าดูแลมันเยอะมากก็ตาม มันไม่เหมาะกับบ้านเมืองร้อนเลย พับผ่า..