Fairy Meadows - Hunza Velley
.
จากที่น็อคเมื่อวาน จากอาการแพ้ความสูง....ภาพตัดมาตอนเช้า
8 โมงเช้า เพื่อนที่เอาเทอร์โมมิเตอร์มาบอกว่า -7 องศา ตอนเช้ามืดไม่รู้เท่าไหร่ รู้แต่ว่าหนาวจัดมาก
อาการป้าดีขึ้นนิดหน่อย


เปิดประตูห้องออกมาเจอวิวนี้เลย ยอดนังกาปาร์บัต สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก


ที่พัก Raikot Sarai Fairy Meadows เมื่อวานมาถึงพี่หมดสภาพไม่ได้ถ่ายรูปอะไรไว้เลย


ภาพนี้หน้าห้องพัก ป้าไหวแค่นี้ ภูเขาในรูปคือนังกาปาร์บัต

เช้านี้ป้ายังทานอาหารไม่ได้ ทานซุปเข้าไปพอให้มีอะไรในท้อง เพื่อนๆ ไปดูเงาสะท้อนน้ำที่ Fairy Meadows Lake กัน ป้ารอที่ห้องอาหาร อาการแพ้ความสูงของป้ายังไม่หายดี ทั้งที่เมื่อคืนก็กินยาซ้ำไปแล้ว ป้ายังมีอาการวิ้งวิ้งอยู่ เมื่อวานถึงเช้านี้ออกซิเจนหมดไป 1 กระป๋อง เหลืออีก 1 ไม่เป็นไร เดี๋ยวลงเขาแล้ว ระหว่างรอป้าถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ แต่ไม่กล้าเดินเยอะ เพราะอากาศเบาบาง รู้สึกตัวหนักๆ และเหนื่อยงาน




ภาพจากในห้องอาหาร
.

เมื่อคืนปัาพักห้องซ้ายสุดที่มีต้นไม้บังนั่นแหละ หน้าบ้านทุกหลัง เห็นยอดนังกาปาร์บัต



หน้าห้องอาหาร สวยมั๊ย เริ่มสายแล้วแดดแรง หิมะเริ่มละลาย
.
เพื่อนๆ ไปดู Lake กัน ได้วิวสวยๆ ป้าเสียดาย ไกด์บอกว่าเดินไม่ไกล แค่ 200 เมตร แต่ป้ายังรู้สึกไม่ค่อยดี เลยไม่ไป

เงาสะท้อนในน้ำไม่ค่อยชัดเท่าไหร่



ป้าๆ มาเพื่อภาพนี้ Fairy Medows ฉากหลังเป็นยอดนังกาปาร์บัต ที่สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และเงาสะท้อนน้ำ เพื่อนๆ บอกว่า จริงๆ Lake ไม่ใหญ่เท่าไหร่



เมื่อเพื่อนกลับมา ก็ลงจากเขา
.
ขาขึ้นว่าโหดแล้วขาลงโหดกว่า
.
ย้อนเหตุการณ์เมื่อวานนิดนึง ตอนขี่ม้า ม้าก็ขี้ไปตลอดทาง จนถึงทางเข้ารีสอร์ทที่ค่อนข้างชันและเป็นดิน เมื่อคืนหิมะตกเช้าหิมะละลายปนกับขี้ม้า ทั้งเละ ลื่น เหม็น ถ้าขึ้นม้าแต่แรกจะอันตรายทั้งคนทั้งม้า เจ้าของม้าก็ให้เราเดินฝ่าทางลื่นด้วยขี้ม้าและหิมะที่กำลังละลาย เพื่อไปขึ้นม้าที่ปลอดภัย ถ้าขึ้นม้าแต่แรกแล้วลื่นล้มคงเป็นทางลัดทีเดียวลงถึงตีนเขาเลย หรือไม่ก็มีฉากลื่นไถลแล้วคว้ากิ่งไม้ตรงริมหน้าผาได้แบบในหนัง.....ฮา
.
เดินไปประมาณ 300 เมตร ข้ามลำธารเล็กๆ ถึงจะได้ขึ้นม้า

เดินไปขึ้นม้า ตรงนี้เริ่มแห้งแล้ว
.
พอขึ้นม้าได้ม้าวิ่งเร็วมาก เพราะเป็นทางลง รวดเดียวถึงข้างล่างโดยไม่มีพัก เจ้าของม้าคอยดุม้าเป็นพักๆ ถ้าม้าวิ่งเร็วเกินไป บางทีป้ากลัวก็บอก slow slow เค้าก็เตือนม้าให้ช้าลง



ขาลงม้ากระแทกแรงจนจุก ก้นช้ำ เลือกเอาเลยว่าจะยอมช้ำด้านหน้าหรือช้ำด้านหลัง....ฮา
มีคนบอกให้เตรียมแพมเพิสผู้ใหญ่มาเพื่อกันกระแทกตอนลง แต่บอกแลย ไม่มีประโยชน์มีแต่จะหนักกว่าเดิม
กระเป๋าเป้เล็กที่สะพายไว้ด้านหน้าสีกับหลังมือจนพอง ไม่กล้าปล่อยมือจากอานม้าเพื่อเปลี่ยนท่าสะพายเป้กลัวตกม้า
ภาพไม่ค่อยมีเพราะป้าป่วย ถ้าป้าไม่ป่วยคงได้วิวสวยๆ เยอะกว่านี้
.
ไกด์บอกว่า กรุ๊ปป้าเป็นกรุ๊ปสุดท้ายของปีแล้ว พอป้าลงไปรีสอร์ทจะปิด พนักงานทั้งหลายก็จะลงไปอยู่ในหมู่บ้านด้านล่าง
ถ้าเป็นฤดูปีนเขา มีบางคนเดินทางต่อไปยอดนังกาปาร์บัต หรือไปเที่ยวใกล้ๆ ซึ่งจะต้องค้างมากกว่า 1 คืน ขึ้นกับว่าเราจะไปไกลแค่ไหน
.

ถึงหมู่บ้าน Tato ที่ขึ้นรถจี๊ป
.

ทางลงก็โหดไม่แพ้ทางขึ้น แต่เร็วกว่า
.
ตัดภาพไปตอนจัดกระเป๋า
การจัดกระเป๋าขึ้นแฟรี่ต้องคิดดีๆ เพราะจัดได้เพียง 7 กก.
ไม่ต้องเอาอะไรไปเยอะ เสื้อผ้าคิดไปเลยว่า "ชุดนอนชุดเที่ยวชุดเดียวกัน"
ในกระเป๋าควรเป็นอุปกรณ์เอาชีวิตรอด
เช่น ผ้าห่ม ถุงทรายร้อน ไฟฉาย ของกิน ออกซิเจนกระป๋อง ไฟฉาย
ของที่ควรพกติดตัว (อย่าเอาไปฝากไว้กับเจ้าของม้า เพราะจะใช้ต้องหยิบได้ทันที) คือถุงทรายร้อน ออกซิเจนกระป๋อง และน้ำดื่มขวดเล็ก
ไฟฉายควรเป็นไฟฉายแบบสว่างมาก เพราะกลางคืนบนแฟรี่มืดมาก ไฟฉายจากโทรศัพท์ไม่พอแน่นอน
.
แป๊บเดียวก็ถึงเบสแคมป์ ขึ้นรถบัสเพื่อไป Hunza Veley ระหว่างทางมีวิวสวยๆ ตลอดทาง





เมือง Gilgit เมืองหลวงของรัฐ Gilgit Baltistan


วันนี้ป้าพักที่ Eagle Nest เป็นโรงแรมใกล้ยอดเขาใน Hunza Velley ซึ่งสามารถมองเห็นวิว Lady Finger ได้ชัดเจน




เค้ามองว่า Lady Finger เหมือนมือชูนิ้วก้อย



มีตำนานเศร้าๆ เล่าว่า
.
เจ้าชายจากต่างเมือง มาแต่งงานกับเจ้าหญิงเมืองนี้แต่แล้วก็ได้ข่าวว่าเมียที่อยู่เมืองเก่าถูกกษัตริย์เมืองอื่นจับตัวไป....จึงลาจากไป
โดยทิ้งแม่ไก่ กับข้าว 1 ถุงไว้ให้ เจ้าหญิงถามว่าเมื่อไร่จะกลับมา เจ้าชายตอบว่า ป้อนข้าวสารในถุงให้ไก่ปีละ 1 เมล็ด ข้าวหมดเมื่อไหร่จะกลับมา เจ้าหญิงก็เลยยังชูนิ้วก้อยรอ และป้อนข้าวแม่ไก่ต่อไป
เฮ้อออออ.....ป่านนี้ป้อนถึงครึ่งถุงหรือยังเนี่ย


.
จากโรงแรมเดินขึ้นไปชมวิวมุมสูงของ Hunza Velley ได้


หินรูปนกอินทรี ที่มาของชื่อ Eagle Nest

Hunza Valley มองจากหัวนกอินทรี
.
จุดสูงสุดของยอดเขา เป็นหินรูปนก ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Eagle Nest ป้าๆ มาถึงใกล้ค่ำแล้ว ร้านของที่ระลึกหลายร้านยังเปิดอยู่ ของที่นี่ราคาไม่แพง เพียงแต่มันเป็นของที่เราไม่ได้ใช้ เช่น เสื้อกันหนาวหนาๆ ที่ไม่มีวันได้ใส่ในเมืองไทย
.
พักที่ Eagle Nest ก็หวังว่าจะมีฮีตเตอร์ เพราะเป็นโรงแรม “ห้าดาว” และดังมากในปากี เปล่าค่ะ 4 ทุ่มตัดไฟ สรุปหนาวจัดเหมือนเดิม น้อยกว่าบนแฟรี่หน่อยนึง
.
รีวิวนี้เน้นดูวิวสวยๆ กันค่ะ
โปรแกรมการเดินทางของป้าๆ มี 11 วัน
EP 1 : Bkk – Islamabad : https://ppantip.com/topic/43254795
EP 2 : Islamabas – Chilas : https://ppantip.com/topic/43263775
EP 3 : Chailas – Fairy Medows : https://ppantip.com/topic/43277209
EP 4 : Fairy Medows – Hunza Duikar : https://ppantip.com/topic/43281920?sc=9yH9QlL
EP 5 : Hunza Duikar – Nagar – Attabad
EP 6 : Attabad – Passu – Hunza Aliabad
EP 7 : Hunza Aliabad – Skardu
EP 8 : Skardu – Khaplu
EP 9 : Skardu
EP 10 : Skardu – Basham
EP 11 : Basham – Islamabad - Bkk
 .
หรือติดตามสาระอื่นๆ ได้จากเพจ หลากหลาย by Artima : https://www.facebook.com/profile.php?id=100064724916964