(1) การมีอยู่และความสำเร็จของ Flow เหมือนเป็นการตอกย้ำดังๆ ว่า ความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ ยังคงมีพลังที่ยิ่งใหญ่และมีพื้นที่อยู่เสมอ หลังจากคว้ารางวัลบนเวทีลูกโลกทองคำ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เหนือกว่าภาพยนตร์ทุนสร้างหลักร้อยล้านดอลลาร์ฯ อย่าง Moana 2 (150 ล้านฯ) และ Inside Out 2 (200 ล้านฯ) ส่วนคู่แข่งโดยตรงอย่าง The Wild Robot ก็มีทุนสร้างไม่น้อยที่ประมาณ 80 ล้านดอลลาร์ฯ ในขณะที่ Flow ใช้ทุนสร้างทั้งหมดเพียงแค่ 3.6 ล้านดอลลาร์ฯ เท่านั้น

(2) ซึ่งนั่นก็ไม่น่าแปลกใจเมื่อพบว่าผู้กำกับชาวลัตเวีย “กินต์ ซิลบาโลดิส” (Gints Zilbalodis) ทำหน้าที่ทั้งกำกับ เขียนบท ถ่ายภาพ(ออกแบบมุมกล้อง) อำนวยการผลิต และทำเพลงประกอบด้วยตัวเองเกือบทั้งหมด ภายใต้บริษัทของเขาเองอย่าง Dream Well Studio โดยที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้ดีเลย คือ ตัวอนิเมชั่นเกือบทั้งหมด ตัวละคร มุมกล้อง ฉาก แสงและเงา ถูกสร้างขึ้นจากซอฟต์แวร์ที่มีชื่อว่า Blender ซึ่งเป็น Opensource แจกฟรี (ยกเว้นการเคลื่อนไหวและฉากที่ซับซ้อน ซึ่งผลิตที่สตูดิโอ Sacrebleu ในฝรั่งเศส และสตูดิโอ Take Five ในเบลเยียม) นั่นหมายความว่าใครก็ตามที่มีความฝันจะไม่มีข้ออ้างเรื่องเงินและทรัพยากรมาฉุดรั้งอีกต่อไป

(3) ตัวเรื่องของ Flow ไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่าการเอาชีวิตรอดของเจ้าแมวสีดำ(ที่จริงคือสีเทาเข้ม) และผองเพื่อน จากปรากฏการณ์น้ำท่วมปริศนาที่ค่อยๆ เพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยสิ่งที่เพิ่มความโดดเด่นให้กับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้ คือ การเลือกใช้วิธีการสื่อสารแบบไม่มีบทพูด ซึ่งตรงข้ามกับ The Wild Robot อย่างสิ้นเชิง และเมื่อไม่มีบทพูด(แต่ไม่ใช่หนังเงียบ) ตัวเรื่องจึงต้องสื่อสารกับผู้ชมผ่าน “พฤติกรรมสัตว์” ซึ่งเป็นสิ่งที่สากลมากและทำให้เราไม่ต้องเหนื่อยอ่านซับเลย (เพราะมีแต่เสียวเมี๊ยวๆ ตลอดทั้งเรื่อง)

(4) เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Flow พุ่งทะยานขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ คือ ความทำถึง แน่นอนว่าหากคุณมีทุนสร้างระดับร้อยล้านคงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่กับอนิเมชั่นแมวเหมียวเรื่องนี้ที่ทุนสร้างต่างกันหลายสิบเท่าจนเกือบจะร้อยเท่ากลับให้งานภาพที่ “วิจิตรตระการตา” ทัดเทียมกันอย่างน่าทึ่ง ว่ากันว่าสิ่งที่ยากที่สุดในการสร้างอนิเมชั่น คือ การสร้างของเหลว และใช่แล้ว Flow นั้นเต็มไปด้วยน้ำตลอดทั้งเรื่อง จนคิดไม่ออกเลยว่าพวกเขาและตัวผู้กำกับกินต์ ซิลบาโลดิส สร้างอนิเมชั่นเรื่องนี้ภายใต้ทุนสร้างอันกระจ้อยร่อยได้อย่างไร

(5) และเมื่อเลือกทางว่าต้องดำเนินเรื่องแบบไม่มีบทพูด จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากว่าจะทำอย่างไรออกมาให้ไม่น่าเบื่อ โดยตัวผู้กำกับซิลบาโลดิส เลือกใช้วิธีจะปล่อยให้ “สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม” คือ แมวทำอย่างแมวและหมาก็ทำอย่างหมาไปนั่นแหละ (สำหรับทาสแมวหรือหมาก็อาจจะถูกใจความน่ารักน่าเอ็นดูของพวกเขาไม่น้อย) จะเห็นว่าในช่วงแรกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องของการหนีและใช้สัญชาตญาณเอาตัวรอดซะส่วนใหญ่ ด้วยความพิถีพิถันของอนิเมชั่นที่จำลองพฤติกรรมของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่แบบละเอียดสมจริง ทำให้เกิดความลุ้นระทึกขึ้นโดยปริยายว่าพวกเขาจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ต่อให้เป็นมนุษย์เองก็คงยากที่จะเอาตัวรอดนี้ได้อย่างไร

(6) แต่นี่ไม่ใช่สารคดีสัตว์โลกหรรษาที่ต้องทำตามธรรมชาติร้อยเปอร์เซนต์ ดังนั้น ตั้งแต่ช่วงกลางๆ เรื่องเป็นต้นไป พวกสัตว์น้อยใหญ่เริ่มมีการกระทำที่ใกล้เคียงกับมนุษย์มากขึ้น เช่น มีการช่วยเหลือกันด้วยการแบ่งปันอาหาร การหวงแหนสมบัติของลีเมอร์หางแหวน หรือการบังคับเรือของนกเลขานุการ ซึ่งเข้าใจได้ว่า หากไม่ทำแบบนี้ก็จะไม่สามารถดำเนินเรื่องไปในทิศทางที่ต้องการได้ และถ้าจะเอาสมจริงสมจังก็พูดได้เต็มปากว่าพวกเขาคงไม่รอดมาถึงเรื่องแน่นอนกับสภาพระดับภัยพิบัติยิ่งกว่า 2012(ภาพยนตร์) ที่เกิดขึ้น

(7) งานศิลปะที่มีคุณค่าก็ย่อมต้องสอดแทรกประเด็นที่ลึกซึ้งไว้เบื้องหลัง ฉากหลังของ Flow ก็มีการหยิบยืมตำนานของเรือโนอาห์ที่ว่าด้วยเหตุการณ์ภัยพิบัติฝนตกหนักเป็นเวลา 40 วัน จนน้ำท่วมโลกมาใช้อยู่เนืองๆ ประกอบกับมนุษย์ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยน่าจะมีความหมายถึงการล้างบาปบางอย่าง

(8) และตัวละคร(สัตว์)นำทั้ง 5 ได้แก่ แมวดำเก้าชีวิตสุดแกร่ง ลีเมอร์หางแหวนจอมหวง สุนัขลาบราดอร์แสนซน คาปิบาราจอมขี้เกียจ และผู้นำกลุ่มอย่างนกเลขานุการผู้เรืองปัญญา ก็เป็นตัวแทนมนุษย์อย่างเราๆ ที่มีหลายประเภททั้งเห็นแก่ตัวและเอื้ออาทร แต่เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ต้องช่วยเหลือกัน และอีกหลากประเด็นที่มนุษย์อย่างเราๆ สามารถเรียนรู้ได้มากมายจากสัตว์ร่วมโลก

(9) สำหรับบทบาทบนเวทีออสการ์ Flow มีชื่อเข้าชิงในสาขาภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม ซึ่งน่าตลกตรงที่ผู้เข้าชิงที่เหลือก็คือรายชื่อเดียวกันจากเวทีลูกโลกทองคำทั้งหมด ขาดแต่แค่ Moana 2 เพราะออสการ์เข้าชิงได้แค่ 5 เรื่องเท่านั้น ในขณะที่อีกสาขาที่เข้าชิงอย่างสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมก็น่าขันเช่นกันว่า ตลอดทั้งเรื่องที่ไม่มีบทพูดเป็นภาษามนุษย์เลยแต่กลับได้อยู่ในสาขาภาษาต่างประเทศ หรืออาจจะมองได้อีกอย่างว่านี่เป็นภาษาต่างเผ่าพันธุ์ก็อาจจะเข้าข่ายอยู่

(10) แต่อย่างไรก็ตามแม้ไม่มีบทพูด “มีเหมียว มีกัน วันน้ำท่วมโลก” ก็พิสูจน์แล้วว่าหาใช่เรื่องสำคัญไม่ ในเมื่องานศิลปะในรูปแบบอนิเมชั่นเรื่องนี้ สามารถพาผู้ชมให้ตื่นตาไปกับผจญภัยที่ชุ่มฉ่ำของเจ้าเหมียวและผองเพื่อนร่วมทาง และตรึงใจด้วยคุณภาพการผลิตที่งดงามเหนือทุนสร้างได้ตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนต้องมนต์สะกด จนรู้สึกตัวอีกที เวลา 90 นาทีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียแล้ว พร้อมกับนัยยะที่บอกว่า ทุกสิ่งมีชีวิตย่อมต้องดำเนินไปตามวัฎจักรของธรรมชาติ ก็เป็นเครื่องเตือนใจชั้นดีสำหรับมนุษย์ผู้ทะเยอทยานที่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปกว่าธรรมชาติ
Story Decoder
[รีวิว] Flow - แมวเหมียวผจญภัยพิบัติน้ำท่วมโลกกับงานสร้างขั้นวิจิตรแฝงด้วยนัยยะที่ลึกซึ้งถึงวิถึและสัจธรรม
(2) ซึ่งนั่นก็ไม่น่าแปลกใจเมื่อพบว่าผู้กำกับชาวลัตเวีย “กินต์ ซิลบาโลดิส” (Gints Zilbalodis) ทำหน้าที่ทั้งกำกับ เขียนบท ถ่ายภาพ(ออกแบบมุมกล้อง) อำนวยการผลิต และทำเพลงประกอบด้วยตัวเองเกือบทั้งหมด ภายใต้บริษัทของเขาเองอย่าง Dream Well Studio โดยที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้ดีเลย คือ ตัวอนิเมชั่นเกือบทั้งหมด ตัวละคร มุมกล้อง ฉาก แสงและเงา ถูกสร้างขึ้นจากซอฟต์แวร์ที่มีชื่อว่า Blender ซึ่งเป็น Opensource แจกฟรี (ยกเว้นการเคลื่อนไหวและฉากที่ซับซ้อน ซึ่งผลิตที่สตูดิโอ Sacrebleu ในฝรั่งเศส และสตูดิโอ Take Five ในเบลเยียม) นั่นหมายความว่าใครก็ตามที่มีความฝันจะไม่มีข้ออ้างเรื่องเงินและทรัพยากรมาฉุดรั้งอีกต่อไป
(3) ตัวเรื่องของ Flow ไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่าการเอาชีวิตรอดของเจ้าแมวสีดำ(ที่จริงคือสีเทาเข้ม) และผองเพื่อน จากปรากฏการณ์น้ำท่วมปริศนาที่ค่อยๆ เพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยสิ่งที่เพิ่มความโดดเด่นให้กับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้ คือ การเลือกใช้วิธีการสื่อสารแบบไม่มีบทพูด ซึ่งตรงข้ามกับ The Wild Robot อย่างสิ้นเชิง และเมื่อไม่มีบทพูด(แต่ไม่ใช่หนังเงียบ) ตัวเรื่องจึงต้องสื่อสารกับผู้ชมผ่าน “พฤติกรรมสัตว์” ซึ่งเป็นสิ่งที่สากลมากและทำให้เราไม่ต้องเหนื่อยอ่านซับเลย (เพราะมีแต่เสียวเมี๊ยวๆ ตลอดทั้งเรื่อง)
(4) เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Flow พุ่งทะยานขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ คือ ความทำถึง แน่นอนว่าหากคุณมีทุนสร้างระดับร้อยล้านคงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่กับอนิเมชั่นแมวเหมียวเรื่องนี้ที่ทุนสร้างต่างกันหลายสิบเท่าจนเกือบจะร้อยเท่ากลับให้งานภาพที่ “วิจิตรตระการตา” ทัดเทียมกันอย่างน่าทึ่ง ว่ากันว่าสิ่งที่ยากที่สุดในการสร้างอนิเมชั่น คือ การสร้างของเหลว และใช่แล้ว Flow นั้นเต็มไปด้วยน้ำตลอดทั้งเรื่อง จนคิดไม่ออกเลยว่าพวกเขาและตัวผู้กำกับกินต์ ซิลบาโลดิส สร้างอนิเมชั่นเรื่องนี้ภายใต้ทุนสร้างอันกระจ้อยร่อยได้อย่างไร
(5) และเมื่อเลือกทางว่าต้องดำเนินเรื่องแบบไม่มีบทพูด จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากว่าจะทำอย่างไรออกมาให้ไม่น่าเบื่อ โดยตัวผู้กำกับซิลบาโลดิส เลือกใช้วิธีจะปล่อยให้ “สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม” คือ แมวทำอย่างแมวและหมาก็ทำอย่างหมาไปนั่นแหละ (สำหรับทาสแมวหรือหมาก็อาจจะถูกใจความน่ารักน่าเอ็นดูของพวกเขาไม่น้อย) จะเห็นว่าในช่วงแรกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องของการหนีและใช้สัญชาตญาณเอาตัวรอดซะส่วนใหญ่ ด้วยความพิถีพิถันของอนิเมชั่นที่จำลองพฤติกรรมของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่แบบละเอียดสมจริง ทำให้เกิดความลุ้นระทึกขึ้นโดยปริยายว่าพวกเขาจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ต่อให้เป็นมนุษย์เองก็คงยากที่จะเอาตัวรอดนี้ได้อย่างไร
(6) แต่นี่ไม่ใช่สารคดีสัตว์โลกหรรษาที่ต้องทำตามธรรมชาติร้อยเปอร์เซนต์ ดังนั้น ตั้งแต่ช่วงกลางๆ เรื่องเป็นต้นไป พวกสัตว์น้อยใหญ่เริ่มมีการกระทำที่ใกล้เคียงกับมนุษย์มากขึ้น เช่น มีการช่วยเหลือกันด้วยการแบ่งปันอาหาร การหวงแหนสมบัติของลีเมอร์หางแหวน หรือการบังคับเรือของนกเลขานุการ ซึ่งเข้าใจได้ว่า หากไม่ทำแบบนี้ก็จะไม่สามารถดำเนินเรื่องไปในทิศทางที่ต้องการได้ และถ้าจะเอาสมจริงสมจังก็พูดได้เต็มปากว่าพวกเขาคงไม่รอดมาถึงเรื่องแน่นอนกับสภาพระดับภัยพิบัติยิ่งกว่า 2012(ภาพยนตร์) ที่เกิดขึ้น
(7) งานศิลปะที่มีคุณค่าก็ย่อมต้องสอดแทรกประเด็นที่ลึกซึ้งไว้เบื้องหลัง ฉากหลังของ Flow ก็มีการหยิบยืมตำนานของเรือโนอาห์ที่ว่าด้วยเหตุการณ์ภัยพิบัติฝนตกหนักเป็นเวลา 40 วัน จนน้ำท่วมโลกมาใช้อยู่เนืองๆ ประกอบกับมนุษย์ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยน่าจะมีความหมายถึงการล้างบาปบางอย่าง
(8) และตัวละคร(สัตว์)นำทั้ง 5 ได้แก่ แมวดำเก้าชีวิตสุดแกร่ง ลีเมอร์หางแหวนจอมหวง สุนัขลาบราดอร์แสนซน คาปิบาราจอมขี้เกียจ และผู้นำกลุ่มอย่างนกเลขานุการผู้เรืองปัญญา ก็เป็นตัวแทนมนุษย์อย่างเราๆ ที่มีหลายประเภททั้งเห็นแก่ตัวและเอื้ออาทร แต่เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ต้องช่วยเหลือกัน และอีกหลากประเด็นที่มนุษย์อย่างเราๆ สามารถเรียนรู้ได้มากมายจากสัตว์ร่วมโลก
(9) สำหรับบทบาทบนเวทีออสการ์ Flow มีชื่อเข้าชิงในสาขาภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม ซึ่งน่าตลกตรงที่ผู้เข้าชิงที่เหลือก็คือรายชื่อเดียวกันจากเวทีลูกโลกทองคำทั้งหมด ขาดแต่แค่ Moana 2 เพราะออสการ์เข้าชิงได้แค่ 5 เรื่องเท่านั้น ในขณะที่อีกสาขาที่เข้าชิงอย่างสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมก็น่าขันเช่นกันว่า ตลอดทั้งเรื่องที่ไม่มีบทพูดเป็นภาษามนุษย์เลยแต่กลับได้อยู่ในสาขาภาษาต่างประเทศ หรืออาจจะมองได้อีกอย่างว่านี่เป็นภาษาต่างเผ่าพันธุ์ก็อาจจะเข้าข่ายอยู่
(10) แต่อย่างไรก็ตามแม้ไม่มีบทพูด “มีเหมียว มีกัน วันน้ำท่วมโลก” ก็พิสูจน์แล้วว่าหาใช่เรื่องสำคัญไม่ ในเมื่องานศิลปะในรูปแบบอนิเมชั่นเรื่องนี้ สามารถพาผู้ชมให้ตื่นตาไปกับผจญภัยที่ชุ่มฉ่ำของเจ้าเหมียวและผองเพื่อนร่วมทาง และตรึงใจด้วยคุณภาพการผลิตที่งดงามเหนือทุนสร้างได้ตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนต้องมนต์สะกด จนรู้สึกตัวอีกที เวลา 90 นาทีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียแล้ว พร้อมกับนัยยะที่บอกว่า ทุกสิ่งมีชีวิตย่อมต้องดำเนินไปตามวัฎจักรของธรรมชาติ ก็เป็นเครื่องเตือนใจชั้นดีสำหรับมนุษย์ผู้ทะเยอทยานที่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปกว่าธรรมชาติ
Story Decoder