ขอเท้าความก่อน เราเป็นแคชเชียร์ของห้างดังแห่งหนึ่ง (สีเขียวๆ) วันที่ 16 ที่ผ่านมา มีลูกค้าคนนึงเป็นผู้หญิงเขามาซื้อสินค้าเป็นผ้าอ้อมเด็กเพื่อนำไปไลฟ์สดขายต่อในเฟซบุ๊ค ไม่ใช่ลูกค้าประจำแต่เขาก็มาซื้อสินค้าที่ห้างอยู่เรื่อยๆ โดยทุกครั้งที่เขามาเขาจะไลน์คุยกับ PC ที่รับผิดชอบผ้าอ้อมเด็กก่อนเสมอและเข้าล็อคของเราตลอด(ทั้งๆที่ล็อคอื่นก็ว่าง) ว่าวันนี้ต้องการสินค้าเท่านี้ๆ แล้ว PC ก็จัดสินค้าให้กับลูกค้าคนเนี้ย จำนวนก็หลายกล่องอยู่ โดย 1 กล่องจะมีสินค้าอยู่ 3 ชิ้น ยอดก็หลักพันขึ้น
แล้ววันนั้นลูกค้าคนเนี้ยมาซื้อสินค้าตัวเดิม แต่เขาซื้อมากกว่าปกติ โดยปกติแล้วเขาจะซื้อประมาณ 1-2 รถเข็น แต่วันที่ 16 เขาซื้อมากถึง 3 รถเข็นในบิลเดียว ด้วยความที่ว่าหน้าเลนแคชเชียร์มีคิวลูกค้าที่รอจ่ายเงินอยู่จำนวนมาก เราเองก็ไม่ทันได้สังเกตุว่าลูกค้าแต่ละคนซื้อสินค้ายอดเท่าไหร่บ้างหรือมีสินค้าอะไรบ้าง เราก็แสกนๆ แล้วก็คิดเงินไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้เอะใจอะไร
เข้าวันที่ 17 PC ผ้าอ้อมคนเนี้ยมาทำงานตามปกติ เขาเอะใจว่าทำไมสินค้าในสต๊อกถึงเหลือนิดเดียว (ตามคำบอกเล่าของพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์) แต่ยอดขายไม่ได้ตามยอดสินค้าที่ขายไป เขาก็เลยเรียกหัวหน้าแผนกไปช่วยนับสต๊อกปรากฎว่าของหายไปทั้งหมด 300 ชิ้นก็เท่ากับว่าหายไป 100 กล่อง เขาก็เลยไปย้อนดูกล้องวงจรปิดของห้างดู ถึงได้รู้ว่าลูกค้าคนนี้นำสินค้าออกจากล็อคของเรา ซึ่งช่วงบ่ายฝ่ายจัดการของห้างก็เรียกเราไปสอบสวนเพื่อหาความจริง เขาเค้นถามเราว่า "รู้จักหรือสนิทกับลูกค้าคนนี้เหรอทำไมถึงขายสินค้าออกไปโดยที่เก็บเงินมาไม่ครบนู้นนี่นั่น บลาๆ" สุดท้ายก็ไปจบที่โรงพักไม่ถึงขั้นแจ้งความ แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เฉยๆ โดยลูกค้าบอกว่าจะเอาสินค้าที่ยังไม่ได้ขายมาคืน และส่วนที่ขายไปแล้วจะชดใช้ให้ทั้งหมด โดยมีเราเป็นโจทก์ ลูกค้าเป็นจำเลย ห้างเป็นพยาน ลูกค้าให้การว่าจะคืนของทั้งหมดก่อนวันที่ 28 ก.พ.นี้
หลังจากวันนั้นเราโดนพักงานไป 2 วันและสุดท้ายต้องย้ายไปอยู่แผนกอื่น แต่สิ่งที่เราข้องใจคือ ทางห้างบอกว่าถ้าเกิดว่าลูกค้าคนนี้จ่ายค่าสินค้าที่หายไปไม่ครบหรือหนีหายไป ห้างจะให้เราเป็นคนชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด เราก็เลยเกิดคำถามว่า จะให้เรามาชดใช้อะไรในเมื่อเราขายสินค้าออกไปแล้ว สินค้าทั้งหมดก็อยู่ที่ลูกค้า ทำไมถึงไม่ไปทวงถามจากลูกค้าล่ะ เรายอมรับว่าเรามีความผิดฐานทำให้ห้างเกิดความเสียหายแต่เราไม่ได้ขโมยของไปหรือรู้จักกับลูกค้าคนนี้เลย ทำไมต้องให้เรามาชดใช้ด้วย
สิ่งที่อยากรู้คือ มีกฎหมายข้อไหนไหมที่เราสามารถเอาผิดกับทางห้างหรือลูกค้าคนนี้ได้บ้าง ในกรณีที่ลูกค้าไม่ยอมจ่าย จ่ายไม่ครบหรือหนีหายไป ขอคำแนะนำด้วยจากผู้รู้ทีเถอะ
ขอคำแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลด้านกฏหมายหน่อยเถอะ
แล้ววันนั้นลูกค้าคนเนี้ยมาซื้อสินค้าตัวเดิม แต่เขาซื้อมากกว่าปกติ โดยปกติแล้วเขาจะซื้อประมาณ 1-2 รถเข็น แต่วันที่ 16 เขาซื้อมากถึง 3 รถเข็นในบิลเดียว ด้วยความที่ว่าหน้าเลนแคชเชียร์มีคิวลูกค้าที่รอจ่ายเงินอยู่จำนวนมาก เราเองก็ไม่ทันได้สังเกตุว่าลูกค้าแต่ละคนซื้อสินค้ายอดเท่าไหร่บ้างหรือมีสินค้าอะไรบ้าง เราก็แสกนๆ แล้วก็คิดเงินไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้เอะใจอะไร
เข้าวันที่ 17 PC ผ้าอ้อมคนเนี้ยมาทำงานตามปกติ เขาเอะใจว่าทำไมสินค้าในสต๊อกถึงเหลือนิดเดียว (ตามคำบอกเล่าของพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์) แต่ยอดขายไม่ได้ตามยอดสินค้าที่ขายไป เขาก็เลยเรียกหัวหน้าแผนกไปช่วยนับสต๊อกปรากฎว่าของหายไปทั้งหมด 300 ชิ้นก็เท่ากับว่าหายไป 100 กล่อง เขาก็เลยไปย้อนดูกล้องวงจรปิดของห้างดู ถึงได้รู้ว่าลูกค้าคนนี้นำสินค้าออกจากล็อคของเรา ซึ่งช่วงบ่ายฝ่ายจัดการของห้างก็เรียกเราไปสอบสวนเพื่อหาความจริง เขาเค้นถามเราว่า "รู้จักหรือสนิทกับลูกค้าคนนี้เหรอทำไมถึงขายสินค้าออกไปโดยที่เก็บเงินมาไม่ครบนู้นนี่นั่น บลาๆ" สุดท้ายก็ไปจบที่โรงพักไม่ถึงขั้นแจ้งความ แค่ลงบันทึกประจำวันไว้เฉยๆ โดยลูกค้าบอกว่าจะเอาสินค้าที่ยังไม่ได้ขายมาคืน และส่วนที่ขายไปแล้วจะชดใช้ให้ทั้งหมด โดยมีเราเป็นโจทก์ ลูกค้าเป็นจำเลย ห้างเป็นพยาน ลูกค้าให้การว่าจะคืนของทั้งหมดก่อนวันที่ 28 ก.พ.นี้
หลังจากวันนั้นเราโดนพักงานไป 2 วันและสุดท้ายต้องย้ายไปอยู่แผนกอื่น แต่สิ่งที่เราข้องใจคือ ทางห้างบอกว่าถ้าเกิดว่าลูกค้าคนนี้จ่ายค่าสินค้าที่หายไปไม่ครบหรือหนีหายไป ห้างจะให้เราเป็นคนชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด เราก็เลยเกิดคำถามว่า จะให้เรามาชดใช้อะไรในเมื่อเราขายสินค้าออกไปแล้ว สินค้าทั้งหมดก็อยู่ที่ลูกค้า ทำไมถึงไม่ไปทวงถามจากลูกค้าล่ะ เรายอมรับว่าเรามีความผิดฐานทำให้ห้างเกิดความเสียหายแต่เราไม่ได้ขโมยของไปหรือรู้จักกับลูกค้าคนนี้เลย ทำไมต้องให้เรามาชดใช้ด้วย
สิ่งที่อยากรู้คือ มีกฎหมายข้อไหนไหมที่เราสามารถเอาผิดกับทางห้างหรือลูกค้าคนนี้ได้บ้าง ในกรณีที่ลูกค้าไม่ยอมจ่าย จ่ายไม่ครบหรือหนีหายไป ขอคำแนะนำด้วยจากผู้รู้ทีเถอะ