ตำนานแห่งสงครามหุ่นรบที่ยังคงตราตรึงใจแฟนเกม
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 1995 โลกได้รู้จักกับ Front Mission เป็นครั้งแรก เกมแนว Tactical RPG สุดคลาสสิกจาก Square (ปัจจุบันคือ Square Enix) ที่เปิดตัวบนเครื่อง Super Famicom และได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม ด้วยระบบการต่อสู้ที่ใช้หุ่นยนต์รบ “วานเซอร์ (Wanzer)” ผสานกับเนื้อเรื่องสุดเข้มข้นที่เต็มไปด้วยการเมืองและสงคราม ทำให้เกมนี้กลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่มีอิทธิพลอย่างมากในวงการเกมแนววางแผน

สงครามแห่งอนาคตและเรื่องราวสุดดราม่า
Front Mission มีฉากหลังอยู่ในปี 2090 บนเกาะสมมติชื่อว่า Huffman Island ซึ่งเป็นสมรภูมิของ “สงครามฮัฟฟ์แมนครั้งที่สอง” โดยผู้เล่นจะได้รับบทเป็น ลอยด์ คลาวซ์ (Lloyd Clive) อดีตทหารที่กลายเป็นทหารรับจ้าง และต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดท่ามกลางสงครามที่เต็มไปด้วยแผนการทางการเมืองและการทรยศหักหลัง เรื่องราวของเกมนี้ได้รับการยกย่องว่า “สมจริงและจริงจัง” แตกต่างจากเกมแนว RPG ทั่วไปในยุคนั้น

ระบบการต่อสู้ที่ล้ำลึกและไม่เหมือนใคร
สิ่งที่ทำให้ Front Mission แตกต่างจากเกมวางแผนทั่วไปคือการนำเสนอระบบการต่อสู้ที่ซับซ้อน หุ่นรบ Wanzer แต่ละตัวมีส่วนประกอบที่แตกต่างกัน ได้แก่ ลำตัว, แขนซ้าย, แขนขวา และขา ซึ่งแต่ละส่วนสามารถถูกทำลายได้ หากขาถูกทำลาย หุ่นจะเคลื่อนที่ไม่ได้ หากแขนขาด อาวุธที่อยู่ในมือนั้นจะใช้งานไม่ได้ และหากลำตัวถูกทำลาย หุ่นรบนั้นจะพังทลายไปโดยสิ้นเชิง ผู้เล่นต้องวางแผนเลือกโจมตีแต่ละส่วนให้เหมาะสมเพื่อสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้


ความสำคัญของการปรับแต่ง Wanzer
นอกจากการวางแผนการต่อสู้แล้ว การปรับแต่ง Wanzer ยังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเกมนี้ ผู้เล่นสามารถเลือกเปลี่ยน อาวุธ, เกราะ, ระบบขับเคลื่อน และสีของหุ่นรบ ได้อย่างอิสระ ทำให้สามารถสร้างหุ่นที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสายโจมตีหนัก, สายพลิ้วไหว หรือสายสนับสนุน


วิวัฒนาการของ Front Mission ตลอด 30 ปี
หลังจากภาคแรกเปิดตัวบน Super Famicom ในปี 1995 เกมได้รับความนิยมอย่างมาก จนถูกพอร์ตไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น WonderSwan Color ในปี 2002 และมีการสร้าง Front Mission 1st ซึ่งเป็นเวอร์ชันรีเมคบน PlayStation ในปี 2003 ตามมาด้วยเวอร์ชัน Nintendo DS ในปี 2007 ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้าไปอีก


Front Mission Remake – การคืนชีพของตำนาน
ในปี 2022 แฟนเกมได้กลับมาสัมผัสความคลาสสิกในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้นผ่านเกม Front Mission 1st: Remake ที่เปิดตัวบน Nintendo Switch เกมนี้ถูกปรับปรุงใหม่หมด ทั้ง กราฟิกแบบ 3D ระบบเสียงที่ได้รับการอัปเกรดเป็น ออร์เคสตราเต็มรูปแบบ และการพัฒนาอินเทอร์เฟซให้เหมาะกับผู้เล่นยุคใหม่
นอกจากนี้ ในปี 2024 Square Enix ยังได้ปล่อย Front Mission 2nd: Remake และประกาศแผนพัฒนา Front Mission 3rd: Remake ซึ่งจะนำภาคที่ได้รับความนิยมสูงสุดของซีรีส์นี้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบที่ล้ำสมัยกว่าเดิม


อนาคตของ Front Mission และแนวโน้มในวงการเกม
ปัจจุบัน เกมแนววางแผนการรบ (Strategy RPG) กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง การที่ Square Enix นำ Front Mission กลับมาในรูปแบบ Remake แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแฟรนไชส์นี้ในการดึงดูดผู้เล่นรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันก็สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนเกมดั้งเดิมที่ต้องการสัมผัสความคลาสสิกในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น
Front Mission ยังคงเป็นหนึ่งในซีรีส์เกมแนววางแผนที่มีเอกลักษณ์และได้รับการยกย่องจากแฟนเกมทั่วโลก ด้วยเนื้อเรื่องที่จริงจังและระบบต่อสู้ที่ซับซ้อน การกลับมาของเกมในรูปแบบ Remake ทำให้ซีรีส์นี้ยังคงมีชีวิตอยู่ และอาจปูทางไปสู่การพัฒนาเกมใหม่ ๆ ในอนาคตเลยครับ 🎮🔥
Cr. Famitsu
ขอฝากเพจเล็ก ๆ ที่ลงเกี่ยวกับ Jrock , Anime ด้วยครับ : zirodaisuki , Blogger