Lee yehan นักวิเคราะห์ทางการเงินได้
เขียนบทความปัจจัยที่ทำให้หุ้นวายจีพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงถึง 12.43% ในรอบสัปดาห์ที่
ผ่านมา ขึ้นถึงจุดสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์
เลยทีเดียว ปัจจัยแรกก็คือการที่ BLACKPINK
ประกาศ World Tour รอบใหม่เร็วกว่าที่
ทุกฝ่ายคาดการณ์ไว้ และคาดว่าจะมีจำนวน
ผู้ชมทั้งสิ้นเกินกว่า 2 ล้านที่นั่งอย่างแน่นอน
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมยอดรายได้ของวายจี
เป็นอย่างมาก ปัจจัยที่ 2 คือแนวโน้ม
ความนิยมของ BABYMONSTER พุ่งสูง
ขึ้นอย่างมากจากแฟนทั่วโลก โดยการขายบัตร
คอนเสิร์ตทั้ง Fan meeting รวมถึง
คอนเสิร์ต World Tour ครั้งแรกได้ทำ Sold Out
ทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถขาย Merch
สินค้าต่างๆของวงได้อีกมากมายด้วย
อีกทั้งยอดขายอัลบั้มก็ขายได้ดีมาก
ยอดขายอยู่ในระดับเดียวกับวงเจน 3 เจน 4
เลยทีเดียว ยิ่งกว่านั้น ยอดสตรีม Spotify 
ยอดวิว YouTube ยังมากเหนือเกิร์ลกรุ๊ป
ในเจน 4 เจน 5 ทั้งหมด และยังมีรายได้
เสริมขึ้นมาจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ
สินค้ามากมายหลายๆแบรนด์ จึงสรุปได้ว่า
ในขณะนี้ BABYMONSTER ได้ผ่าน
ช่วงลงเงินลงทุนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และได้ผ่านจุดคุ้มทุนไปเรียบร้อยแล้วอีกด้วย
หลังจากนี้ก็จะเป็นการสะสมกำไรเป็น
ระยะต่อไปนั่นเอง ปัจจัยส่วนอื่นๆอีกก็มี
เช่น การคาดการณ์ว่าไม่เกินกลางปี 2025 นี้
ทางการจีนจะทำการยกเลิกการคว่ำบาตร
อุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีอย่างสิ้นเชิง
นอกจากนั้นยังมีการคัมแบ็คของวง Treasure 
รวมทั้งคอนเสิร์ตรอบใหม่โดยเริ่มที่อเมริกา
เป็นที่แรก นอกจากนั้นยังมีคอนเสิร์ต 2NE1
รวมถึงการคัมแบ็คโดยจะเริ่มปลายปีนี้หรือ
ต้นปีหน้า ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้คาดได้ว่า
รายได้ของวายจีน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
ภายในปีนี้อย่างแน่นอนที่สุด ตามต่อ