เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.prachachat.net/finance/news-1759626
ช่อง 3 เปิดผลประกอบการปี 2567 กวาดรายได้รวม 4,319 ล้านบาท แต่กำไรลดลงเหลือ 96.28 ล้านบาท หลังเผชิญเรื่องเม็ดเงินโฆษณาที่ลดลง และค่าใช้จ่ายการปรับลดขนาดโครงสร้างองค์กร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยงบการเงิน ประจำปี 2567 โดยมีรายได้รวม 4,319.54 ล้านบาท เป็นรายได้ที่มาจากดำเนินธุรกิจรวม 4,251.46 ล้านบาท ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม 4,126.24 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 96.28 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ซึ่งมีรายได้รวม 4,652.9 ล้านบาท กำไร 210 ล้านบาท
BEC ระบุว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ที่ปรับตัวลดลง เป็นผลจากเม็ดเงินโฆษณาในสื่อโทรทัศน์ในปี 2567 ลดลง จากสภาพเศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับหลายปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ จึงทำให้นักลงทุนและผู้ประกอบการมีการมีการชะลอการใช้จ่ายภายในประเทศตลอดทั้งปี 2567
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวหลายรายการ ได้แก่ ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของค่านักแสดงและและผู้เขียนบทประพันธ์จ่ายล่วงหน้า ขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย ค่าใช้จ่ายการปรับลดขนาดโครงสร้างองค์กร ขาดทุนจากการด้อยค่าซึ่งเป็นไปดามมาดรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 (หนี้สงสัยจะสูญจากลูกหนี้การค้า) และบันทึกสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ รวมทั้งสิ้น 247.3 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าว บริษัทฯ จะมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
สำหรับเรื่องของรายได้ BEC ระบุว่า รายได้จากการขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม BEC ในปี 2567 อยู่ที่ 3,450.0 ล้านบาท ลดลง 513.1 ล้านบาท หรือลดลง 12.9% จากปี 2566 สืบเนื่องจากผู้ใช้โฆษณายังคงลงทุนและใช้จ่ายแบบระมัดระวัง จากหลายปัจจัยความไม่แน่นอนต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศตามที่กล่าวข้างต้น
รายได้จากการขายเวลาโฆษณายังคงเป็นรายได้หลักของกลุ่ม BEC อยู่ที่ 81.1% ของรายได้จากการดำเนินงาน โดยยังคงมาจากการขายเวลาโฆษณาของ “ช่อง 33” เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม กลุ่ม BEC สามารถทำรายได้เพิ่มจากรายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่น ซึ่งประกอบด้วยรายได้จากสามธุรกิจหลัก ได้แก่ รายได้จากธุรกิจการจัดจำหน่ายละครไปต่างประเทศ (Global Content Licensing) ธุรกิจแพล9ฟอร์ม (Digital Platform) และธุรกิจจัดกิจกรรมและบริหารศิลปิน (Events & Artist Management)
โดยรายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่นในปี 2567 อยู่ที่ 796.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.4 ล้านบาท หรือ 15.4% จากปี 2566 หลักจากหน่วยธุรกิจใหม่ จัดกิจกรรมและบริหารศิลปิน ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจในระหว่างปี ได้แก่ DHEVAPROM FAN CON AFTER PARTY, LINGORM 1st MEET ใจซ่อนรัก The Secret of Us และ Dear my love LING&ORM
นอกจากนี้ ในส่วนของหน่วยงานบริหารศิลปีนภายใต้สังกัดบริษัท สามารถเพิ่มรายใต้จากงานพรีเซนเดอร์ และงานโชว์ตัวทั้งในและด่างประเทศด้วย
ขณะที่ต้นทุนขายรวมของกลุ่ม BEC ในปี 2567 อยู่ที่ 3,285.2 ล้านบาท ลดลง 155.2 สำนบาทหรือ 4.596 จากปี 2566 แม้มีต้นทุนเพิ่มจากธุรกิจจัดกิจกรรมและบริหารศิลปีน แต่การใช้ละคร Re-Run มากขึ้น มีส่วนช่วยให้ต้นทุนขายรวมลดลง
ปี 2567 เกิดอะไรขึ้นกับ BEC... อ่านต่อข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/finance/news-1759626
งบการเงินโดยละเอียด
https://weblink.set.or.th/dat/news/202502/0592NWS210220251734380199T.pdf
ช่อง 3 ปี 2567 รายได้ทะลุ 4,000 ล้านบาท กำไรหดเหลือ 96.28 ล้านบาท
https://www.prachachat.net/finance/news-1759626
ช่อง 3 เปิดผลประกอบการปี 2567 กวาดรายได้รวม 4,319 ล้านบาท แต่กำไรลดลงเหลือ 96.28 ล้านบาท หลังเผชิญเรื่องเม็ดเงินโฆษณาที่ลดลง และค่าใช้จ่ายการปรับลดขนาดโครงสร้างองค์กร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยงบการเงิน ประจำปี 2567 โดยมีรายได้รวม 4,319.54 ล้านบาท เป็นรายได้ที่มาจากดำเนินธุรกิจรวม 4,251.46 ล้านบาท ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม 4,126.24 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 96.28 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ซึ่งมีรายได้รวม 4,652.9 ล้านบาท กำไร 210 ล้านบาท
BEC ระบุว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ที่ปรับตัวลดลง เป็นผลจากเม็ดเงินโฆษณาในสื่อโทรทัศน์ในปี 2567 ลดลง จากสภาพเศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับหลายปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ จึงทำให้นักลงทุนและผู้ประกอบการมีการมีการชะลอการใช้จ่ายภายในประเทศตลอดทั้งปี 2567
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวหลายรายการ ได้แก่ ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของค่านักแสดงและและผู้เขียนบทประพันธ์จ่ายล่วงหน้า ขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย ค่าใช้จ่ายการปรับลดขนาดโครงสร้างองค์กร ขาดทุนจากการด้อยค่าซึ่งเป็นไปดามมาดรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 (หนี้สงสัยจะสูญจากลูกหนี้การค้า) และบันทึกสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ รวมทั้งสิ้น 247.3 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าว บริษัทฯ จะมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
สำหรับเรื่องของรายได้ BEC ระบุว่า รายได้จากการขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม BEC ในปี 2567 อยู่ที่ 3,450.0 ล้านบาท ลดลง 513.1 ล้านบาท หรือลดลง 12.9% จากปี 2566 สืบเนื่องจากผู้ใช้โฆษณายังคงลงทุนและใช้จ่ายแบบระมัดระวัง จากหลายปัจจัยความไม่แน่นอนต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศตามที่กล่าวข้างต้น
รายได้จากการขายเวลาโฆษณายังคงเป็นรายได้หลักของกลุ่ม BEC อยู่ที่ 81.1% ของรายได้จากการดำเนินงาน โดยยังคงมาจากการขายเวลาโฆษณาของ “ช่อง 33” เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม กลุ่ม BEC สามารถทำรายได้เพิ่มจากรายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่น ซึ่งประกอบด้วยรายได้จากสามธุรกิจหลัก ได้แก่ รายได้จากธุรกิจการจัดจำหน่ายละครไปต่างประเทศ (Global Content Licensing) ธุรกิจแพล9ฟอร์ม (Digital Platform) และธุรกิจจัดกิจกรรมและบริหารศิลปิน (Events & Artist Management)
โดยรายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่นในปี 2567 อยู่ที่ 796.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.4 ล้านบาท หรือ 15.4% จากปี 2566 หลักจากหน่วยธุรกิจใหม่ จัดกิจกรรมและบริหารศิลปิน ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจในระหว่างปี ได้แก่ DHEVAPROM FAN CON AFTER PARTY, LINGORM 1st MEET ใจซ่อนรัก The Secret of Us และ Dear my love LING&ORM
นอกจากนี้ ในส่วนของหน่วยงานบริหารศิลปีนภายใต้สังกัดบริษัท สามารถเพิ่มรายใต้จากงานพรีเซนเดอร์ และงานโชว์ตัวทั้งในและด่างประเทศด้วย
ขณะที่ต้นทุนขายรวมของกลุ่ม BEC ในปี 2567 อยู่ที่ 3,285.2 ล้านบาท ลดลง 155.2 สำนบาทหรือ 4.596 จากปี 2566 แม้มีต้นทุนเพิ่มจากธุรกิจจัดกิจกรรมและบริหารศิลปีน แต่การใช้ละคร Re-Run มากขึ้น มีส่วนช่วยให้ต้นทุนขายรวมลดลง
ปี 2567 เกิดอะไรขึ้นกับ BEC... อ่านต่อข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/finance/news-1759626
งบการเงินโดยละเอียด
https://weblink.set.or.th/dat/news/202502/0592NWS210220251734380199T.pdf