เอาไงต่อกับความสัมพันธ์นี้ แฟนเป็นจิตเวช แถมติดกัญชาด้วย ที่บ้านไม่โอเค อยากให้เลิก

เรากับแฟนคบกันมา 1ปีกว่าๆแล้วค่ะ  1ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี แทบจะไม่ทะเลาะกันเลย 
แฟนเป็นนิ่งๆ เทคแคร์ดี ไม่เจ้าชู้ ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกดีมากๆกับความสัมพันธ์นี้
แต่ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป เมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ....
เรากับแฟนอยู่กันคนละที่ เราเช่าห้องอยู่ใน กทม. ให้แฟนอยู่ เขาอยู่ระหว่างการทำเรื่องจบกับสอบใบประกอบวิชาชีพสำหรับการทำงาน
ส่วนเราทำงานราชการ อยู่ ตจว.ภาคกลาง จะนั่งรถเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาอยู่กับเขาทุกอาทิตย์
เราใช้ชีวิตไปแบบนี้เรื่อยๆ ได้ประมาณ 7-8 เดือน  เรื่องก็เกิดขึ้น

- โดยปกติ เวลาเขาอยู่ว่างๆ เขาจะดูแลเรื่องการซักผ้าท ทำความสะอาดห้อง เวลาเราไปหา เขาจะดูแลทุกอย่าง
ว่างๆเราจะไปหาของอร่อยกิน หรือเที่ยวง่ายๆใน กทม. มีบ้างเราจะให้เขาช่วยทำงานเสริม (รายได้เสริมทางออนไลน์) ของเรา
ทำอยู่ช่วงนึงด้วยความที่เขาไม่ถนัดงานที่เราให้ทำ และเขามีอบรมออนไลน์ เลยเลิกทำไป

- เขามีอาการนอนไม่หลับมาพักใหญ๋ๆ ซึ่งเราก็แนะนำให้เขาทานยาประจำตัว (ยาจิตเวช) เพื่อช่วงให้เขาผ่อนคลายแล้วนอน
ซึ่งเขาก็ทานบ้างไม่ทานบ้าง

-ห้องเช่าที่เราเช่าอยู่ เป้นห้องเช่าที่มีญาติของเขาเช่าอาศัยอยู่ด้วย (พี่สาว+พี่เขย+หลาน) เราเลยเช่าที่นี่ เพราะเวลาเราไม่อยู่
เขาได้ไปนั่งคุยกับญาติเขาได้ จะได้ไม่เหงา และมีพี่สาวคอยดูแเขาด้วย

- พี่เขยเขาเป็นสายเขียวค่ะ และเขาเองก็เหมือนกัน เวลาช่วงเย็นๆ เขาจะลงไปช่วยพี่เขยดูแลหลาน รอให้พี่สาวเลิกงงานกลับบมาแล้วทานข้าวพร้อมกัน
พี่สาวพี่เขยดูแลเขาดีมากๆ และด้ววยความที่แฟนเราเป้นสายเขียว จึงมักจะขอพี่เขยสูบ weed บ่อยๆ ซึ่งพี่เขยเองเขาก็เห็นว่าแฟนเราช่วยเลี้ยงหลานเลยให้แฟนเราได้สูบทุกวัน

-แรกๆเราไม่ทราบ แต่พอเราเห็นอาการของเขาในบางครั้ง ทำให้เราสงสัยและถาม จึงได้รู้ว่าเขาสูบจากที่ไหน และมันก็ดำเนินมาแบบนี้ตลอด
ตัวเราเองไม่ค่อนแนะนำแต่ก็ไม่ได้จะบังคับเขา เพราะคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไร เขาก็ปกติไม่มีพฤติกรรมอื่นๆ

-ช่วงหลังๆ เขาเริ่มเครียดเรื่องหางาน เขาทำงานที่ต้องออกเรือไกลหลายเดือน ซึ่งเขาไม่ชอบงานที่เขาทำ ไม่ชอบสิ่งที่เขาเรียนมา เขาอยากออกมาค้าขาย เราแนะนำเขาว่าลองหางานทำบนฝั่ง งานบริษัท งานโรงงานทั่วไป ดูก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องการลงทุนทำการค้าขาย 

-เขาไปสมัครงานเป็นช่างเชื่อมของบริษัทรับเหมาแห่งนึง ย่านสุขุมวิท ใจเราก็เป็นห่วงเขาเรื่องความปลอดภัยเพราะต้องอยู่บนตึกสูง แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไร
และไปเป็นเพื่อนเขาสมัครงานด้วย เราสนับสนุนเขาทุกอย่าง เรื่องเล่มจบ รายงาน การทำเอกสาร เขียนใบสมัครงาน ทำ resume เราทำให้ทุกอย่าง
เราก็อยากให้เขาได้ทำงาน ทำให้เขาไม่กังวล

-หลังจากได้งานที่บริษัทรับเหมา พ่อของเขาก็ป่วยและต้องขึ้นมารักษาตัวที่รพ.จุฬา ตัวเองเขาเลยต้องไปเฝ้าพ่อ ซึ่งเราเองก็มาเป็นเพื่อนเขาช่วงสุดสัปดาห์ เขามีความกังวลและเสียดายเรื่องงานที่พึ่งจะสมัครไป เราก็ปลอบใจเขาว่าไม่เป็นไร งานหาตอนไหนก็ได้ 

-หลังจากทีพ่อของเขากลับไปบ้านต่างจังหวัด เขาก็เริ่มมีอการผิดปกติ เขาดูหงุดหงิด และเบลอๆ เราบอกเขาว่าให้พักผ่อน กินยาบ้าง ถ้าไม่ไหวให้บอก จะได้ไปพบหมอจิตแพทย์ที่รักษาอยู่
 
-หลังจากวันนั้นเขาก็เปลี่ยนไป ก้าวร้าว ดื่มเบียร์ ไม่นอน หัวเราะคนเดียว ตอนนั้นยังเป็นวันทำงานอยู่ เราเห็นเขาผ่านการคอล เราพยามบอกให้เขาไปนอน
เขาก็ไม่ทำตาม เราขู่ว่าจะเลิกเขาก็ไม่สนใจ ปกติเขาแคร์เรามาก ให้ทำไรเขาจะทำตามตอนนี้เขาอยู่ในโหมดที่ควบคุมไม่ได้  เขาเอาแต่นั่งหัวเราะคนเดียว
เรากลัวมากเลยบล็อคเขาไป 

- จากนั้นวันศุกร์เราก็เดินทางมาหาเขาตามปกติ จะพาเขาไปหาจิตแพทย์ เรามาเจอเขาในสภาพห้องรก ของพัง เขานอนปิดไฟอยู่มืดๆ พอเห็นเรามา เขาก็กอดเราร้องไห้ตัวสั่น เราสงสารเขาจับใจ เลยบอกเขาว่าพรุ่งนี้ไปหาหมอกันนะ เขาก็พยักหน้าตามโดยดี เราพาเขาไปทานข้าวและมานั่งเล่นกับหลานที่ห้องพี่สาว เขาก็อาการปกติ เราเลยคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว

-แต่พอกลับห้องเขาก็มีอาการเดิม หัวเราะคนเดียว สูบบุหรี่จัด มีอาการหลอน แบบนอนตาค้างมองเพดาน  เราพยามเรียกเขาก็ไม่สนใจ แล้วลุกขึ้นมาทำท่าแปลกๆ เราทนไม่ไหวเลยดุเขาให้หยุดการกระทำดังกล่าว แต่เขาไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น เราเลยเก็บของจะไปนอนที่อื่น เขาก็มาดึงตัวเราไว้ไม่ให้เราไป
เราแปลกใจมากๆ เขาได้ยินเราทุกอย่างแต่เขากลับทำท่าประสาทหลอนใส่เรา เราเดินออกไปข้างนอกไปนั่งแถวๆร้านข้าวที่มีคนเยอะๆ ดูว่าเขายังมีอาการเดิมไหม เขากลับไม่เป็น เหมือนตั้งใจหลอนใส่เราคนเดียว เราก็หงุดหงิดมากๆเลยนะคะ คืนนั้นบังคับให้เขากินยานอน กว่าจะสงบสติลงได้ก็ปาไป ตี3

-เช้าพบหมอ หมอบอกว่าเกิดจาการหยุดยาเอง ทานยาไม่เป็นประจำตามแพทย์สั่ง และพฤติกรรมหลอนๆที่เขาทำ เราถามว่าเกิดจาการขาดยาไหมคะ?
หมอตอบว่าเกิดจาการเสพกัญชา หลังจากได้ยามา เราพูดคุยกับเขา โดยขอร้องว่าช่วงนี้ช่วงนี้ช่วยหยุดการใช้กัญชาได้ไหม และทานยาตามคุณหมอบอกห้ามหยุดทานเด็ดขาด ถ้าไม่อย่างนั้น เราจะบอกพ่อแม่เขาและให้เขากลับไปอยู่ที่บ้าน ตจว. เขาตกลงทำตาม

-แต่เขาก็ไม่ทำตามเลย เช้าวันต่อมาเป้นวันเกิดเราพอดี เราชวนเขาไปทำบุญเที่ยวตามประสา เขาบอกเราว่าขอลงไปห้องพี่ก่อนได้ไหม ปกติเขาจะไม่ลงเช้าค่ะ ยิ่งเป็นวันหยุด ถ้าไม่มีความจำเป้นอะไรเขาไม่ลงไป เขาลงไปเฉพาะช่วงบ่ายๆเย็นที่ต้องไปช่วยดูหลาน เราก็เลยพูดดักเขาไว้ว่า ถ้าไปใช้กัญชา
เราจะบอกแม่นะ เตรียมตัวกลับไปอยู่บ้านได้เลย เขาก็ตกลงว่าจะไม่ใช้ แต่พอขึ้นมา ทั้งกลิ่น ทั้งตา เยิ้มมาเลย ซึ่งไม่มีเหตุผลที่จะต้องใช้มันอ่ะ เรากำลังไปเที่ยวไปทำบุญกัน ทำไมต้องไปใช้ เราทะเลาะกับเขา เขาแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวใส่เรา มองหน้าแบบเยาะเย้ยว่าแล้วจะทำไม จะทำไรเขาได้ เราคิดว่าปล่อยไปแบบนี้ ท่าจะไม่ดี เลยตัดสินใจบอกทางบ้าน ตามคาดที่บ้านเขาให้เขากลับไปอยู่บ้าน ตจว. 

-เราเสียใจก็เสียใจนะคะ แต่เราหวังดีกับเขา ช่วงห่างกัน ก็เหนื่อย เขากลับทำตัวแย่กว่าเดิม ยาก็ไม่ทานก่อนนอน เขาไปหางานที่ต้องทำช่วงกลางคืนเลิกงานก็ตี3 กว่าจะกลับบ้าน ตี4-5 แล้วค่อยทานยา  เราเองก็เหนื่อยเครียดมา 2-3 เดือนแล้ว อยากให้เขาดีขึ้น แต่ทุกอย่างดูแย่

- ล่าสุด เขาหลอนหนักจนกระทั่งว่าเราโทรไปหา พูดเรื่องพ่อที่เสียด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งตอนนั้นเขากำลังสูบ...พอดี แล้วเขาทำได้แค่ยิ้มกับหัวเราะ เขาไมไ่ด้ฟังที่เราาพูด เราเสียใจ รู้สึกว่า ณ ช่วงเวลาที่เราแย่ที่สุด เราหวังให้เขาเป็นที่รับฟังเรา ปลอบใจเรา แต่กลับต้องมาเจอเขาในสภาพนี้ เราเก็บเรื่องนี้ไม่ได้บอกใคร ยุ่งอยู่กับงานศพพ่อ ซึ่งอยู่คนละที่กับบ้านแม่ คนละจังหวัด  แม่เราไม่ได้สะดวกไป เรามีหน้าที่จัดการทุกอย่างแทน 

- แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือเขาไปหาแม่เราทุกวันไป ไปคุยเรื่องลงทุนเปิดร้านขายของให้แม่เราฟัง แรกๆแม่เราก็เห็นใจและเอ็นดู เลยให้คำปรึกษา สอนเขาในหลายเรื่องๆ แต่เขากลับเอาเรื่องที่เขาสูบ..ตอนที่เราโทรไปหาเขาเรื่องพ่อ เขาบอกแม่ว่าเขาเมาอยู่ เราโทรไปพอดี เราเลยโกรธเขา ซึ่งนั้นเราไม่เข้าใจว่าเขาไปพูดแบบนั้นกับแม่เราทำไม แม่เรารับไม่ได้ โทรมาให้เราตัดขาดกับเขา เราซึ่งรู้และเข้าใจดี แต่ใจกลับยังไม่ยอมเลิกกลับเรื่องนี้ พยามบอกแม่ว่าเขาเป็นซึมเศร้ามาก่อนนะ เขามีปัญหาหลายอย่าง แต่แม่เราคงมองออกแล้วว่าเขาเป็นยังไง เลยยื่นคำขาดให้เราเลิก 

เราเกลียดตัวเองที่ไม่อยากเลิกกับเขา ทั้งๆที่ทุกอย่างมันแย่ไปถึงขั้นนี้แล้ว

1.ช่วยบอกที่ว่า พฤติกรรมต่างๆมันมีผลจาการที่เขาป่วยอยู่ด้วยไหม 
2.เราควรทำอย่างไรดี หากจะไปต่อ มีคำแนะนำไหมว่าต้องทำอย่างไร?
3.หรือกับทางที่ต้องเลิก ควรถอยห่างมายังไง เพื่อให้ตัวเองเขาไม่แย่ด้วย ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่