การเจรจารัสเซีย-สหรัฐฯ ที่ซาอุดีอาระเบียเปิดทางสู่ความร่วมมือ - ผู้นำปูตินและทรัมป์อาจพบกันเร็วๆ นี้
19 February 2025
POLITOCO Europe รายงานว่า การเจรจาระดับสูงระหว่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซียที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยฝ่ายรัสเซียให้การประเมินว่า "ไม่เลว" พร้อมประกาศความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในความสัมพันธ์ทวิภาคี
คณะเจรจาระดับสูงนำโดยนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ใช้เวลาหารือทวิภาคีนานถึง 4 ชั่วโมงครึ่ง
นายยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยคนสำคัญของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เปิดเผยกับสื่อมวลชนหลังการประชุมว่า การเจรจาครั้งนี้ "เป็นไปด้วยดี" โดยสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียรายงานคำพูดของอูชาคอฟว่า "มีการพูดคุยกันอย่างจริงจังในทุกประเด็นที่เราต้องการหยิบยกขึ้นมา"
ประเด็นสำคัญในวาระการประชุม คือ....เรื่องอนาคตของยูเครน (emoji) ซึ่งรัสเซียได้ทำสงครามเต็มรูปแบบมาเป็นเวลาสามปีแล้ว อย่างไรก็ตาม การเจรจาครั้งนี้ไม่มีตัวแทนจากยูเครนเข้าร่วม ซึ่งก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนได้แสดงความเห็นว่า "การเจรจาสันติภาพในยูเครนโดยไม่มีเคียฟจะไม่เกิดผลใดๆ"
ตามคำกล่าวของอูชาคอฟ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของกันและกัน พร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยมอสโกและวอชิงตันจะทำงานร่วมกันเพื่อจัดการประชุมระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ แม้ว่าการประชุมระหว่างประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีทรัมป์นั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า เนื่องจากยังต้องมี "การทำงานอย่างเข้มข้น" ก่อน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประเมินการประชุมครั้งนี้ว่าเป็น "ก้าวสำคัญไปข้างหน้า" โดยรัฐมนตรีลาฟรอฟและรูบิโอได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งคณะเจรจาระดับสูงเพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน "โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในลักษณะที่ยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย"
นางแทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการเจรจาว่า "สหรัฐฯ ต้องการยุติการสังหาร และกำลังใช้อิทธิพลระดับโลกเพื่อนำประเทศต่างๆ เข้ามาร่วมมือกัน"
นอกจากการจัดตั้งคณะเจรจาแล้ว วอชิงตันและมอสโกยังตกลงที่จะจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือเพื่อแก้ไข "ปัญหาที่เป็นอุปสรรค" ในความสัมพันธ์ทวิภาคี "โดยมีเป้าหมายเพื่อดำเนินขั้นตอนที่จำเป็นในการทำให้การปฏิบัติงานของคณะผู้แทนทางการทูตของแต่ละฝ่ายเป็นปกติ" และ "วางรากฐานสำหรับความร่วมมือในอนาคตในประเด็นที่มีผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ร่วมกัน รวมถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและการลงทุนที่สำคัญ"
ภายหลังการเจรจาทวิภาคี นายคิริลล์ ดมิทรีเยฟ ผู้เจรจาฝ่ายรัสเซียและผู้อำนวยการกองทุนการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund) ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียได้มีการหารือแยกต่างหากเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งรวมถึงประเด็นราคาพลังงานในตลาดโลกด้วย
การเจรจารัสเซีย - สหรัฐฯ ที่ซาอุดีอาระเบียเปิดทางสู่ความร่วมมือ - ผู้นำปูตินและทรัมป์อาจพบกันเร็วๆ นี้
19 February 2025
POLITOCO Europe รายงานว่า การเจรจาระดับสูงระหว่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซียที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยฝ่ายรัสเซียให้การประเมินว่า "ไม่เลว" พร้อมประกาศความสำเร็จในการบรรลุข้อตกลงจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในความสัมพันธ์ทวิภาคี
คณะเจรจาระดับสูงนำโดยนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ใช้เวลาหารือทวิภาคีนานถึง 4 ชั่วโมงครึ่ง
นายยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยคนสำคัญของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เปิดเผยกับสื่อมวลชนหลังการประชุมว่า การเจรจาครั้งนี้ "เป็นไปด้วยดี" โดยสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียรายงานคำพูดของอูชาคอฟว่า "มีการพูดคุยกันอย่างจริงจังในทุกประเด็นที่เราต้องการหยิบยกขึ้นมา"
ประเด็นสำคัญในวาระการประชุม คือ....เรื่องอนาคตของยูเครน (emoji) ซึ่งรัสเซียได้ทำสงครามเต็มรูปแบบมาเป็นเวลาสามปีแล้ว อย่างไรก็ตาม การเจรจาครั้งนี้ไม่มีตัวแทนจากยูเครนเข้าร่วม ซึ่งก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนได้แสดงความเห็นว่า "การเจรจาสันติภาพในยูเครนโดยไม่มีเคียฟจะไม่เกิดผลใดๆ"
ตามคำกล่าวของอูชาคอฟ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของกันและกัน พร้อมส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยมอสโกและวอชิงตันจะทำงานร่วมกันเพื่อจัดการประชุมระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ แม้ว่าการประชุมระหว่างประธานาธิบดีปูตินและประธานาธิบดีทรัมป์นั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า เนื่องจากยังต้องมี "การทำงานอย่างเข้มข้น" ก่อน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประเมินการประชุมครั้งนี้ว่าเป็น "ก้าวสำคัญไปข้างหน้า" โดยรัฐมนตรีลาฟรอฟและรูบิโอได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งคณะเจรจาระดับสูงเพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน "โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในลักษณะที่ยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย"
นางแทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการเจรจาว่า "สหรัฐฯ ต้องการยุติการสังหาร และกำลังใช้อิทธิพลระดับโลกเพื่อนำประเทศต่างๆ เข้ามาร่วมมือกัน"
นอกจากการจัดตั้งคณะเจรจาแล้ว วอชิงตันและมอสโกยังตกลงที่จะจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือเพื่อแก้ไข "ปัญหาที่เป็นอุปสรรค" ในความสัมพันธ์ทวิภาคี "โดยมีเป้าหมายเพื่อดำเนินขั้นตอนที่จำเป็นในการทำให้การปฏิบัติงานของคณะผู้แทนทางการทูตของแต่ละฝ่ายเป็นปกติ" และ "วางรากฐานสำหรับความร่วมมือในอนาคตในประเด็นที่มีผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ร่วมกัน รวมถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและการลงทุนที่สำคัญ"
ภายหลังการเจรจาทวิภาคี นายคิริลล์ ดมิทรีเยฟ ผู้เจรจาฝ่ายรัสเซียและผู้อำนวยการกองทุนการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund) ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียได้มีการหารือแยกต่างหากเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งรวมถึงประเด็นราคาพลังงานในตลาดโลกด้วย