ทำบริษัทสตาร์ทอัพเล็กๆ มีพนักงานประจำอยู่ 8 คน ก่อนหน้านี้บริษัทเป็นผู้กำหนดให้เองว่าจะมีสวัสดิการอะไรบ้าง เช่น อาหารเที่ยงฟรี เครื่องดื่มฟรี นวดฟรี แล้วก็กำลังจะมีให้เรียนภาษาอังกฤษฟรี ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิต
ที่ผ่านมามีหลายเสียงบ่นตามสายลมมาให้ได้ยินบ่อยๆว่า ไม่ได้ต้องการสวัสดิการอะไรพวกนี้เลย ข้าวเที่ยงจริงๆก็อยากได้เป็นเงินมากกว่า นวดก็ไม่ได้อยากนวดไม่ชอบนวด เครื่องดื่มก็อยากไปซื้อกินเอง ภาษาก็ไม่ได้อยากเรียน ประกันต่างๆ ก็ใช้ประกันสังคมก็ได้ เคยว่าจะพาไปเที่ยวทั้งบริษัท พนักงานส่วนมากก็ไม่อยากไป ถ้าจะไปจริงๆก็คงมีแค่คนสองคนไป พนักงานที่เหลือคืออยากได้เป็นเงินสดแทนมากกว่าถ้าจะให้ไปเที่ยวจริงๆ สรุปแล้วไม่ว่าบริษัทจะเลือกอะไรมาให้ก็มีเสียงตามสายลมมาตลอดว่าไม่พอใจ
ก็เลยให้ไปทำแบบสำรวจมาดูว่าแล้วต้องการอะไร? ซึ่งหลังจากโหวตกันครบแล้ว ปรากฏว่า อันดับหนึ่งเลยคือเสียงครึ่งนึงอยากได้โบนัส (แบบการันตี) แทนสวัสดิการ แต่ถ้าเลือกได้มากกว่า 1 อย่าง ก็ยังคงเลือกเหมือนเดิมคือ เลือกโบนัส แล้วก็เลือกให้เพิ่มเงินเดือนแทนสวัสดิการต่างๆ เป็นลำดับต่อมา (ส่วนลำดับสามเลือกไม่ซ้ำกัน)
ทีนี้ เสียงอีกครึ่งนึงที่เหลือ กระจัดกระจายกันไปตามแต่ละข้อ ไม่มีความเห็นพ้องต้องกัน มีเพียง 4 เสียงแรกที่เห็นพ้องต้องกัน
เลยคิดว่า จริงๆบริษัทก็ขาดทุนมาตลอดหลายปี ถ้าจะให้เป็นโบนัสแบบการันตีจริงๆ ก็คงต้องเอาเงินสวัสดิการมาจ่ายให้แทน ซึ่งเมื่อบวกลบคูณหารแล้ว เท่ากับว่า ใน 1 ปีจะได้โบนัสแบบรับประกันว่าจ่ายแน่นอน 1 เดือนโดยไม่สนใจผลงาน หรือถ้าจะเอาแบบให้ขึ้นเงินเดือน ณ เดี๋ยวนี้เลย ก็ขึ้นได้ราวๆคนละ 8.33% ต่อคน แต่ก็แลกกับการที่จะไม่มีสวัสดิการอะไรเลยสักอย่างเดียว ซึ่งพนักงานที่เป็นเสียงข้างมาก (คิดแบบ plurality ไม่ใช่ majority) ดันชอบแบบนั้น
ถ้าจะเอาตามเสียงข้างมาก ก็คงต้องมาดูว่าที่เหลือจะยอมเปลี่ยนสภาพการจ้างมั้ย จะขัดต่อกฎหมายแรงงานหรือเปล่า และถ้าสมมติว่าไม่มีอะไรขัดข้องเลย ก็ยังมีประเด็นอีกว่า ต่อไปการรับสมัครพนักงานใหม่จะมีความน่าดึงดูดน้อยลง เพราะนอกจากเป็นบริษัทเล็กแล้ว ยังไม่มีสวัสดิการใดๆ เลย ซึ่งพนักงานเสียงข้างมากก็คงไม่ได้สนใจ และถ้าสุดท้ายแล้วไม่มีคนมาสมัครงาน ทำให้งานไม่เดิน ส่งงานตามกำหนดการไม่ได้ ลงเอยด้วยการล้มละลาย พนักงานก็แค่รอรับค่าชดเชย แล้วก็ไปหางานใหม่ต่อไป นี่คงเป็นกรณีที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้น (หรือถ้าเอาแย่กว่านี้คือไม่มีเงินจ่ายค่าชดเชยด้วย และพนักงานต้องเปลี่ยนสภาพเป็นเจ้าหนี้แทนบริษัท)
ถ้าเป็นเพื่อนๆ จะ "ทดลอง" ให้เงินเป็นโบนัสแบบรับประกัน 1 เดือนไปตามเสียงข้างมากดู ให้มันจบๆไป หรือว่าจะยืนหยัดทำตามสิ่งที่ผู้บริหาร "คิดว่า" ดีที่กว่าเพื่อทุกคน (ที่ไม่ได้แปลว่าทุกๆคน)?
ป.ล. รายละเอียดยิบย่อยค่อนข้างเยอะ เขียนเฉพาะที่พอจะนึกออกตอนนี้ ถ้ามีอะไรขาดหล่นอาจต้องเพิ่มเติมในความเห็นย่อยแทน ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นล่วงหน้า
ลูกจ้างเสียงข้างมากลงมติให้เปลี่ยนสวัสดิการเป็นเงินแทน ควรให้ ให้จบๆไปมั้ย?
ที่ผ่านมามีหลายเสียงบ่นตามสายลมมาให้ได้ยินบ่อยๆว่า ไม่ได้ต้องการสวัสดิการอะไรพวกนี้เลย ข้าวเที่ยงจริงๆก็อยากได้เป็นเงินมากกว่า นวดก็ไม่ได้อยากนวดไม่ชอบนวด เครื่องดื่มก็อยากไปซื้อกินเอง ภาษาก็ไม่ได้อยากเรียน ประกันต่างๆ ก็ใช้ประกันสังคมก็ได้ เคยว่าจะพาไปเที่ยวทั้งบริษัท พนักงานส่วนมากก็ไม่อยากไป ถ้าจะไปจริงๆก็คงมีแค่คนสองคนไป พนักงานที่เหลือคืออยากได้เป็นเงินสดแทนมากกว่าถ้าจะให้ไปเที่ยวจริงๆ สรุปแล้วไม่ว่าบริษัทจะเลือกอะไรมาให้ก็มีเสียงตามสายลมมาตลอดว่าไม่พอใจ
ก็เลยให้ไปทำแบบสำรวจมาดูว่าแล้วต้องการอะไร? ซึ่งหลังจากโหวตกันครบแล้ว ปรากฏว่า อันดับหนึ่งเลยคือเสียงครึ่งนึงอยากได้โบนัส (แบบการันตี) แทนสวัสดิการ แต่ถ้าเลือกได้มากกว่า 1 อย่าง ก็ยังคงเลือกเหมือนเดิมคือ เลือกโบนัส แล้วก็เลือกให้เพิ่มเงินเดือนแทนสวัสดิการต่างๆ เป็นลำดับต่อมา (ส่วนลำดับสามเลือกไม่ซ้ำกัน)
ทีนี้ เสียงอีกครึ่งนึงที่เหลือ กระจัดกระจายกันไปตามแต่ละข้อ ไม่มีความเห็นพ้องต้องกัน มีเพียง 4 เสียงแรกที่เห็นพ้องต้องกัน
เลยคิดว่า จริงๆบริษัทก็ขาดทุนมาตลอดหลายปี ถ้าจะให้เป็นโบนัสแบบการันตีจริงๆ ก็คงต้องเอาเงินสวัสดิการมาจ่ายให้แทน ซึ่งเมื่อบวกลบคูณหารแล้ว เท่ากับว่า ใน 1 ปีจะได้โบนัสแบบรับประกันว่าจ่ายแน่นอน 1 เดือนโดยไม่สนใจผลงาน หรือถ้าจะเอาแบบให้ขึ้นเงินเดือน ณ เดี๋ยวนี้เลย ก็ขึ้นได้ราวๆคนละ 8.33% ต่อคน แต่ก็แลกกับการที่จะไม่มีสวัสดิการอะไรเลยสักอย่างเดียว ซึ่งพนักงานที่เป็นเสียงข้างมาก (คิดแบบ plurality ไม่ใช่ majority) ดันชอบแบบนั้น
ถ้าจะเอาตามเสียงข้างมาก ก็คงต้องมาดูว่าที่เหลือจะยอมเปลี่ยนสภาพการจ้างมั้ย จะขัดต่อกฎหมายแรงงานหรือเปล่า และถ้าสมมติว่าไม่มีอะไรขัดข้องเลย ก็ยังมีประเด็นอีกว่า ต่อไปการรับสมัครพนักงานใหม่จะมีความน่าดึงดูดน้อยลง เพราะนอกจากเป็นบริษัทเล็กแล้ว ยังไม่มีสวัสดิการใดๆ เลย ซึ่งพนักงานเสียงข้างมากก็คงไม่ได้สนใจ และถ้าสุดท้ายแล้วไม่มีคนมาสมัครงาน ทำให้งานไม่เดิน ส่งงานตามกำหนดการไม่ได้ ลงเอยด้วยการล้มละลาย พนักงานก็แค่รอรับค่าชดเชย แล้วก็ไปหางานใหม่ต่อไป นี่คงเป็นกรณีที่แย่ที่สุดที่จะเกิดขึ้น (หรือถ้าเอาแย่กว่านี้คือไม่มีเงินจ่ายค่าชดเชยด้วย และพนักงานต้องเปลี่ยนสภาพเป็นเจ้าหนี้แทนบริษัท)
ถ้าเป็นเพื่อนๆ จะ "ทดลอง" ให้เงินเป็นโบนัสแบบรับประกัน 1 เดือนไปตามเสียงข้างมากดู ให้มันจบๆไป หรือว่าจะยืนหยัดทำตามสิ่งที่ผู้บริหาร "คิดว่า" ดีที่กว่าเพื่อทุกคน (ที่ไม่ได้แปลว่าทุกๆคน)?
ป.ล. รายละเอียดยิบย่อยค่อนข้างเยอะ เขียนเฉพาะที่พอจะนึกออกตอนนี้ ถ้ามีอะไรขาดหล่นอาจต้องเพิ่มเติมในความเห็นย่อยแทน ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นล่วงหน้า