chat GPT
เครื่องฟอกอากาศมีราคาสูงเพราะหลายปัจจัย เช่น

เทคโนโลยีการกรอง – เครื่องฟอกอากาศที่ดีใช้แผ่นกรองคุณภาพสูง เช่น HEPA (High-Efficiency Particulate Air) ที่สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% และบางรุ่นอาจมี Activated Carbon สำหรับกรองกลิ่นและสารเคมี หรือ UV-C Light ที่ช่วยฆ่าเชื้อโรค

เซ็นเซอร์คุณภาพอากาศ – รุ่นที่แพงมักมีเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่น PM2.5, ก๊าซพิษ หรือระดับความชื้น และสามารถปรับการทำงานอัตโนมัติตามสภาพอากาศในห้อง

ประสิทธิภาพและพื้นที่ครอบคลุม – รุ่นที่สามารถฟอกอากาศได้ในพื้นที่กว้าง (เช่น 40-100 ตร.ม.) ต้องใช้พัดลมและมอเตอร์ที่ทรงพลัง ทำให้มีต้นทุนสูง

ความเงียบและประหยัดพลังงาน – เครื่องฟอกอากาศคุณภาพดีมักออกแบบให้ทำงานเงียบและใช้พลังงานต่ำ ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีมอเตอร์และระบบไหลเวียนอากาศที่มีประสิทธิภาพ

ฟีเจอร์อัจฉริยะ – บางรุ่นรองรับ Wi-Fi และสามารถควบคุมผ่านแอปมือถือ หรือสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Alexa หรือ Google Assistant

แบรนด์และคุณภาพวัสดุ – แบรนด์ดังที่มีมาตรฐานสูง มักใช้วัสดุทนทานและมีการรับประกันที่ดีกว่า

แม้ว่าเครื่องฟอกอากาศจะมีราคาสูง แต่ถ้าเลือกตามความจำเป็นของการใช้งาน ก็สามารถช่วยให้อากาศในบ้านสะอาดขึ้น ลดปัญหาภูมิแพ้ และป้องกันโรคที่เกิดจากมลพิษทางอากาศได้ดี