สวัสดีครับ คิดว่าการเปิดกล่อง หรืออื่นๆ น่าจะมีคนรีวิวไปเยอะแล้ว
วันนี้เลยจะมาแชร์ ข้อแตกต่างที่นับเป็นข้อดี และข้อเสีย ของทั้ง iPhone (16 ProMax) และ Samsung (S25 Ultra) 
จากผู้ที่ใช้งานเป็นเครื่องหลัก ช่วงเวลาละเครื่องเดียว และเป็น User หรือผู้ใช้งานจริงๆ ไม่ใช่นักรีวิว นะครับ

ความแตกต่างระหว่าง iPhone 16 Promax และ Samsung S25Ultra (ความเห็นส่วนตัวของผมที่อยากแชร์นะครับ)
- ข้อดีของ iPhone
ตัวเครื่องดูหนักและพรีเมียมกว่า
เสียงจากลำโพง ดีกว่า
หน้าจอดูสบายตา และการปรับแสงหน้าจอทำได้ Smooth กว่า
การตั้งค่าต่างๆ และแอพการใช้งาน ไม่ซับซ้อนใช้งานง่าย ค่ามาตรฐาน ปลอดภัย
ระบบ Auto Fill OTP เหมือนจะใช้งานได้ดีกว่า
เคส และอุปกรณ์เสริมหาได้ง่ายและหลากหลายกว่า โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้งานได้เฉพาะรุ่น
ระบบปลดล็อคด้วย FaceID ใช้งานสะดวก ในที่มืด ใส่แมส หรือขยับเร็วๆ ก็แม่นยำ
ปุ่มปิดเสียงข้างตัวเครื่องใช้งานได้สะดวก
การถ่ายรูปไวมาก แตะถ่ายได้ในทันที
การถ่าย Video Smooth และดูลื่นใหลกว่า และการบันทึกเสียงใน Video ดีกว่า
เมนูใน Facebook และช่องค้นหาในซาฟารี อยู่ด้านล่าง รู้สึกใช้สะดวกกว่า (ของ SS ก็ปรับได้ในเบราเซอร์แต่ก็ยังอยู่ไม่ชินนัก)
สามารถแอบดูข้อความในไลน์ โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ว่าอ่านแล้วได้ (ของซัมซุง ต้องลงแอพเพิ่มและเปิดการแจ้งเตือน
การจัดรูปแบบใน แอพ เทเลแกรม โดยเฉพาะ Video ทำได้ดีกว่า
เวลาเปิดแอพใหม่ จากแอพเดิม สามารถย้อนกลับผ่านปุ่มมุมซ้ายบนได้ เช่น เติมทรูวอลเลต แล้วลิ้งไปแอพธนาคาร พอเติมเสร็จ กดมุมซ้ายบนจะกลับไปทรูวอลเลทเอง
มี Facetime โทรแบบเสียงและภาพ คุณภาพดีกว่าไลน์
มี Air Drop ส่งไฟล์ต่างๆให้เพื่อนที่ใช้ iPhone ได้ง่าย
การแบล็คอัพข้อมูลต่างๆ ทำได้ง่าย
Eco System ออกแบบมาให้การใช้งานกับ อุปกรณ์ต่างๆของแอปเปิ้ลเองทำได้ง่ายและสะดวก
ราคาขายต่อเครื่องสูงกว่าแอนดรอย
การ Render ตัดต่อแก้ไข วิธีโอทำได้สะดวกและไวกว่า
หลายๆ แอพชั้นนำจะพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ให้ iOS ก่อน เช่น อินสตาร์แกรม เฟสบุ๊ค ยูทูป ติ๊กตอก

- ข้อเสียของ iPhone
แอพค้างบ่อยเด้งออกบ้างค้างบ้างต้องปัดปิด และเปิดใหม่
เครื่องมีรีสตาร์ทเอง ขณะใช้งานบางครั้ง
ฟิมล์กันรอย ต้องเลือกดีๆหลายยี้ห้อติดมาแล้วขอบจอทัชยาก
เวลาโทรขณะใส่หูฟัง เสียงไปออกที่ลำโพงแนบหูของตัวเครื่อง ต้องคอยปรับ
แอพส่วนใหญ่เสียเงิน และเป็นแบบรายเดือน
เวลาถ่ายรูป หน้าชัดหลังเบลอ เป็นค่าเริ่มต้น ทำให้ตั้งปรับทุกครั้งก่อนถ่าย โดยเฉพาะ ถ่ายภาพอาหาร หรือการเชลฟี่กล้องหลัง
ไม่มีปุ่มเคลียร์ประวัติแอพ ไม่มีผลกับประสิทธิภาพแต่มีผลต่อจิตใจเวลาดูว่าเปิดแอพเยอะๆ

- ข้อดีของ Samsung s25 ultra
หน้าจอสวยกว่า ความละเอียดสูงกว่า และ เงาสะท้อนน้อยกว่า
มีปากกา S pen ใช้แต่งรูป วาดเขียนบนหน้าจอได้สะดวก
การแต่งรูปด้วย AI ลบวัตถุต่างๆ ทำได้ดีกว่า
โทนการถ่ายรูปสวยกว่า รายละเอียดในรูปดีกว่า และปรับแต่งได้เยอะกว่า
รองรับ LDAC ทำให้เชื่อมต่อหูฟังที่รองรับระบบนี้ และเสียงดีกว่า
แบตเตอร์รี่ ชาร์จเข้าได้ไวกว่า และ โอกาสหยุดชาร์จที่ 80% เพราะเครื่องร้อนแทบไม่มี
สามารถตั้งบันทึกเสียงสนทนาปลายได้ ได้แบบออโต้ และไม่มีแจ้งเตือนขณะบันทึก
การแคปหน้าจอแอพต่างๆ แบบยาวได้
สามารถโคลนแอพ Line Facebook หรือ โซเชียลอื่นๆ ได้มากกว่า 2 บัญชี เช่นเล่นไลน์ 2 บัญชี ในเครื่องเดียวและแอพแยกจากกันชัดเจน
สามารถซูมระยะไกลได้ดีกว่า แต่เพื่ออ่านหรือ ถ่ายว่าสิ่งนั้นคืออะไร
รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมได้หลากหลายกว่า
แอพต่างๆ ที่ไม่ใช่แอพมาตรฐาน ผู้พัฒนาทำมาให้รองรับ แอนดรอยมากกว่า
สามารถแชร์การชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์อื่นๆได้
NFC ใช้ได้ยืดหยุ่นกว่า เช่น แอพแม่มณีรองรับแตะบัตรเครดิตที่ตัวเครื่องเผื่อจ่าย
การบันทึกหน้าจอตั้งค่าได้มากกว่า เช่นตั้งค่าบันทึกเสียงได้ 3 แบบ ให้เลือกแสดงชุดที่จะสัมผัสหรือไม่ได้
การจัดการรูปย้ายอัลบัม และส่งต่อทำได้ง่ายและสะดวกกว่า
การใช้งานแอพมากกว่า หนึ่งแอพพร้อมกันสลับไปมา ทำได้ดีกว่า ระหว่างสลับ แอพที่ถูกพักไว้ ไม่หยุดการทำงานหรือ Error
มีระบบ DEX Mode จำลองเป็น แทบเลต เวลาต่อขึ้นจอทีวีหรือจอมอนิเตอร์
แอพ Line การเก็บประวัติแชท ทั้งรูปและข้อความเก็บได้นานกว่าและรูปไม่หายหากเคยโหลดไว้ดู แม้จะผ่านไปนานเป็นปีสองปีก็ตาม
แอพสตรีมมิ่ง ดีเลย์น้อยกว่า เวลาเอฟของ กดตะกร้า และอ่านคอมเม้น จะขึ้นไวกว่า มีโอกาสได้ของมากกว่า
การเปิดแอปสลับแอพทำได้ไวกว่า ไม่มีหน่วงเวลาถ้าค้างก็จะค้างไปเลย
ระบบจัดการ SMS ขยะทำได้ดีกว่า และการบล็อคเบอร์ สแปมทำได้ดี รวมไปทั้ง โฆษณาจากเว็บต่างๆ ในเบราเซอร์ ทำได้ดีประมาณนึง
ประวัติการโทร จะถูกรวมเข้าไว้ด้วยกันทำให้ดูง่ายกว่า
Quick Share ใช้งานได้สะดวกและง่ายกว่า ไอคลาวแชร์

- ข้อเสียของ Samsung S25Ultra
ระบบจัดการตัวเครื่องยังไม่ดี ใช้ไป 2-3 ปี อาจมีอาการหน่วงค้าง(คำว่าค้างหมายถึงสะดุดเฉยๆไม่ได้ค้างไปเลย) จากปริมาณข้อมูลที่เยอะ ต้องรีเซ็ทหรือเคลียร์ข้อมูลเอง
การแบล็คอัพต่างๆ มีรายละเอียดที่ซับซ้อนกว่า บางครั้งข้อมูลอาจมาไม่หมด
การเล่นเกมส์ ยังใหลลื่นสู้ iOS ไม่ได้ หรือได้เพียงใกล้เคียง (วัดจากเกมส์ที่นิยม เช่น Rov , Free Fire , Blade&Soul 2 , Diablo Immortal , League of Legends)
ระบบคลาวด์จัดเก็บข้อมูลแบบแบล็คอัพยังงงๆ ระหว่าง Google Drive และ One Drive และยิ่งงงไปอีกกับ Google One ที่ใช้ฟรี 6 เดือนพร้อม Ai Gamini
การปลดล็อคหน้าจอ สแกนหน้าไม่สะดวก แบบ Facetime ส่วนการสแกนนิ้วทำได้ดีประมาณนึง แต่มีข้อจำกัด เช่น นิ้วเปียก เปลี่ยนฟิมล์หน้าจอ
ไม่มีปุ่ม ปิดเสียงข้างตัวเครื่อง ต้องปลดล็อคเพื่อนเลื่อนปิดจากเมนูในเครื่อง
ระบบความปลอดภัย เวลาเครื่องหาย ยังไม่มีความมั่นใจเท่าฝั่ง iOS
การบริการหลังการขาย ความมืออาชีพ ความเป็นมิตร และความประทับใจ Apple Store ดีกว่า Samsung Shop

- จุดปรับตัวหากเปลี่ยนมาใช้ ซัมซุงจากชาว ios
ขนาดตัวเครื่องเปลี่ยนไป การถือ อาจจะไม่ถนัดมือในช่วงแรก
ความสูงและการเรียงตัวหนังสือในคีย์บอร์ดเปลี่ยนไป การพิมพ์ อาจจะต้องปรับตัวอย่างมากในช่วงแรก
การสลับแอพ ย้อนกลับ และปลอดล็อคหน้าจอเปลี่ยนไป ต้องปรับตัวเล็กน้อย
ในการใช้งานเครื่องแรกๆ มีสิ่งที่ต้องตั้งค่าเพิ่มค่อนข้างเยอะ แต่ได้ความละเอียดเฉพาะเจาะจงมากกว่า เช่นการแจ้งเตือนต่างๆ การจัดรูปแอพแอพ
แอพเดียวกัน เครดิตในแอพ อาจจะใช้ร่วมกันไม่ได้ เช่น Line เหรียญที่เคยเติมใน ios จะไม่ตามมาแอนดรอย ต้องเติมใหม่
บางแอพ แอพเดียวกัน แต่ต้องซื้อใหม่หรือสมัครใหม่ในซัมซุง
เคสหรืออุปกรณ์เสริมบางอย่าง ในแบรนด์ที่เคยใช้ อาจผลิตแค่ ไอโฟน ทำให้ต้องเปลี่ยนยี้ห้ออื่นแทน
แบตค่อนข้างหมดไวกว่า เมื่อปรับประสิทธิภาพสูง และใช้ความละเอียดหน้าจอสูงสุด ใช้งานระหว่างวัน iPhone จะแบตเหลือ 30-40 % ส่วน Samsung จะเหลือ 15%-25%
รู้สึกเวลาเล่นหรือใช้งาน เครื่องจะอุ่นค่อนไปทางร้อนแบบสังเกตุได้ (อาจเพราะใช้เคสหนา และติดฟิมล์กันรอยรอบตัวเครื่อง หรือการกระจายความร้อนรอบเครื่อง เพราะไอโฟนเขาว่าร้อนแค่จุดเดียวเพราะมันไม่กระจาย)

ข้อมูลทั้งหมด เป็นความเห็นส่วนของของผม เพียงคนเดียวนะครับ
หากสงสัยตรงไหนคอมเม้นไว้ได้ครับ