JJNY : รักชนกชำแหละงบประกันสังคม│ศิริกัญญาเผยสรุปคิวซักฟอกรมต.│กันวีร์ซัดซูเอี๋ยพวกค้ามนุษย์│หลิ จงอี้ ลุยชเวโก๊กโก่

รักชนก ชำแหละงบประกันสังคม ทริปดูงานสุดหรู นั่งเฟิร์สคลาส คอลเซ็นเตอร์ 100 ล. โทรไม่เคยติด
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5051774
  

  
รักชนก ชำแหละงบประกันสังคม ทริปดูงานสุดหรู นั่งเฟิร์สคลาส คอลเซ็นเตอร์ 100 ล. โทรไม่เคยติด
 
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. ในฐานะกรรมาะการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ โพสต์เฟซบุ๊ก สรุปงานกิจกรรม Hack งบประกันสังคม
 
ระบุว่า 

ครั้งแรกของการ #Hackงบประกันสังคม !!
 
กองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึงการใช้งบประมาณ ในการบริหารจัดการ ยังมีบางส่วนที่เป็นหลุมดำ
ซื้อแบบจำเพาะเจาะจงเยอะ ส่วนอันที่แข่งราคาก็ไม่โปร่งใส หากไม่มีบอร์ดประกันสังคมซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ประกันสังคมก้าวหน้า ประชาชนคงไม่มีโอกาส เข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ เอาน้ำจิ้มจากงานมาฝาก
 
ประเด็น การต่างประเทศ

ทริปดูงานทริปหนึ่งของ ประกันสังคม 6 วัน 5 คืน งบประมาณที่ใช้ 2.2 ล้าน สำหรับ 10 คน ค่าบัตรโดยสาร การเบิกเฟิร์สคลาส 160,000 บาท 2 คน ราคาตลาดต่างกันเกือบ 60,000 บาท ค่าที่พัก 16,000 บาท/วัน/คืน คือราคาระดับ 5 ดาวของญี่ปุ่น จำเป็นไหมต้องใช้จ่ายฟุ่มเพือยขนาดนี้ ค่าพาหนะในการเดินทางต่างประเทศ 35,000 บาท ต่อคน ไปดูงานทำไมไม่ใช้วิธีเหมารถ ประชาชนถามชัด ๆ ดัง ๆ ไปดูงานแล้ว ได้อะไรกลับ
ประเด็น งบภาพรวม

รายจ่ายประกันสังคม เพิ่มขึ้นทุกปี
ปี 63 4,000 ล้าน
ปี 64 5,281 ล้าน
ปี 65 5,332 ล้าน
ปี 66 6,614 ล้าน

งบยุทธศาสตร์ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ช่วง 63 – 64
 
จาก 965 ล้าน กระโดดไป 2000 ล้านบาท Call Center 1506 มีค่าใช้จ่ายหลัก 100 ล้านในทุก ๆ ปี เป็นค่าเช่าระบบ 50 ล้าน แต่คอลเซนเตอร์ สายไม่เคยว่าง กด 0 แล้วก็รอไปยาวๆ สุดท้ายขอข้อมูลอะไรไม่ได้
 
ในปี 66 โครงการใหญ่ เปลี่ยนระบบงานจากคอม เป็นเว็บแอป 550 ล้าน มีความจำเป็นหรือไม่ ?

ค่าใช้จ่ายจัดหาระบบสารสนเทศเพื่อกำหนดนโยบาย 117 ล้าน ผู้นำเสนอชี้ว่าหากผู้บริหารควรคิดเองบ้าง ไม่ใช่มาจ้างคนมากำหนด ไม่เช่นนั่นก็ไม่จำเป็นต้องมีผู้บริหารก็ได้จ้างเอกชนเอา

อีกประเด็นที่น่าสงสัย ค่าตอบแทนประจำปี (โบนัสหรือไม่ ?) 65 – 66 ปีละ 100 ล้าน ทำงานเหมาะสมกับโบนัสหรือไม่ ? สนง.ประกันสังคมมีการจัดซื้อแบบเฉพาะเจาะจงหลัก “ล้านล้านบาท” ในหลายปีที่ผ่านมา
 
ประเด็น งบอบรมสัมนา

เขียนโครงการเหมือนๆกันทุกปี อบรมหัวข้อเดิมๆกับคนกลุ่มเดิมแต่จัดทุกปี เช่น ปี 63 โครงการพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศ ใช้งบ 2.5 ล้าน ปี 64 ก็โครงการพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศ 2.5 ล้าน และทำแบบเดิมกันทุกปี การอบรมบางโครงการซ้ำซ้อน และบางโครงการถูกตั้งคำถามว่าจำเป็นหรือไม่ เช่น โครงการอบรมเทคนิคการเป็นวิทยากรมืออาชีพ โครงการพัฒนาสมรรถนะบุคลากรด้านการบริหารพัสดุ ทุกโครงการไร้เป้าหมาย ขาดการวัดผล
ประเด็น งบประชาสัมพันธ์ !!!

งบสำนักงาน 2567 5,303 ล้านบาท งบ PR ในงบสำนักงาน 336 ล้านบาท การเบิกจ่ายพอๆกันทุกปี จึงต้องเน้นดูผลลัพธ์ ซึ่ง TOR งานประชาสัมพันธ์ไม่เคยถูกช่วง 3ปีที่ผ่านมา

ปฏิทินประกันสังคม ปี 67 ใช้งบ 55 ล้าน และงบประมาณในการจัดทำปฏิทิน 8 ปีย้อนหลัง ไม่น้อยกว่า 450 ล้านบาท
ปี 59 ผลิตปฏิทิน ใช้วิธีกรณีพิเศษ (การจ้างผ่านหน่วยงานรัฐ) 75.91 ล้านบาท ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ชนะราคา
ปี 60 ผลิตปฏิทิน ใช้วิธีกรณีพิเศษ (การจ้างผ่านหน่วยงานรัฐ) 76 ล้านบาท ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ชนะราคา
ปี 62 ผลิตปฏิทิน ใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) 53.45 ล้านบาท บริษัท ยูไนเต็ดโปรดักชั่น เพรส จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคา
ปี 64 ผลิตปฏิทิน ใช้วิธีเฉพาะเจาะจง54.31 ล้านบาท ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ชนะราคา
ปี 65 ผลิตปฏิทิน ด้วยวิธีการคัดเลือก 54.98 ล้านบาท องค์กรสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ชนะราคา

อะไรทำให้ต้องการผลิตในราคารวม 50-70 ล้านบาท ซึ่งเมื่อดูข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง พบว่าใน 5ปี มี 2 ปี ใช้วิธี กรณีพิเศษ มี 1 ปี E-Biding มี 2 ปีเฉพาะเจาะจง งบประมาณก้อนใหญ่แต่ไม่ใช้ e-Bidding ให้แข่งราคา และปีที่ แข่งราคา e-Bidding เป็นยอดงบประมาณที่น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับการใช้วิธีอื่น

ประเด็น เทคโนโลยีสารสนเทศ

โครงการพัฒนา แอพพลิเคชั่น SSO+ งบประมาณ 276 ล้านบาท เป็นงบที่รวมถึงการจัดทำระบบ เมื่อตรวจข้อมูลจาก ACTAI พบว่า การจัดซื้อจัดจ้างมีความผิดปกติในการเสนอราคา ตัวแอพประชาชนให้เรทติ้ง 1.5 แสดงถึงความล้มเหลวของแพลตฟอร์ม ไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับงบประมาณที่ใช้ไป ทุกวันนี้ยังสแกนจ่ายค่าประกันสังคมผ่านแอพไม่ได้ ต้องจ่าย 7-11 ในการเปลี่ยนผ่านจาก SSO Connect ไปยัง SSO พลัส เลือกวิธีการเปลี่ยนตั้งแต่ฐานข้อมูลยันโปรแกรม ซึ่งไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่ที่ต้องทำทั้งหมด สิ้นเปลืองในการใช้งบประมาณ

ประเด็น พื้นฐานประกันสังคม
 
คอนเท้นที่สำนักงานประกันสังคมทำอยู่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ไม่ได้ คอนเท้นไม่ทันยุค โปสเตอร์ที่แจกให้รายละเอียดเยอะจริง แต่อ่านยากและรูปแบบไม่น่าสนใจคนไม่อยากอ่าน Tiktok เรื่องประกันสังคมที่แมสๆส่วนใหญ่มาจากคนนอกทำ ขั้นตอนในการเข้าถึงประกันสังคม เข้าใจยากสำหรับคนรุ่นใหม่ ย้อนแย้งกับงบประมาณ เพราะแต่ละปีงบประชาสัมพันธ์เยอะมาก แต่แม้กระทั่งคนใน กทม. ก็ไม่เคยเจอการประชาสัมพันธ์ของประกันสังคม ใช้งบกับการทำปฏิทินในปี 67 55 ล้าน วารสาร 15 ล้าน แผ่นพับ 5 ล้าน นี่คืองบ 1 ปี ที่ประกันสังคมใช้ประชาสัมพันธ์ ซึ่งหากนำเงินไปทำในสิ่งที่ได้ประโยชน์กับผู้ประกันตนจริง ๆ หรือ การนำไปทบเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับกองทุนมากขึ้น อาจจะดีกว่านี้

https://www.facebook.com/nanaicez112/posts/pfbid04PDb77Aqmmuv9NbjNwzPJ5DoTY1DrEkom98UG6KJdk6FXSQHiM52x9C6Xh1v4Ysbl
 

 
ศิริกัญญา เผยสรุปคิวซักฟอกรมต.วันนี้ รับถูกแจ้ง 112 มีผลการอภิปราย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5051835

ศิริกัญญา เผยสรุปคิวซักฟอกรมต.วันนี้ รับถูกแจ้ง 112 มีผลการอภิปราย
 
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า วันที่ 16 กุมภาพันธ์จะเป็นวันที่รวบรวมญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าแต่ละพรรคจะอภิปรายรัฐมนตรีคนไหนและข้อกล่าวหาเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อนำมาเรียบเรียงและเขียนเป็นญัตติเดียวของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก่อนจะเสนอต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ภายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ โดยจะเป็นการยื่นอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
 
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคปชน.เตรียมจะอภิปรายในประเด็นใดบ้าง น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เราจะอภิปรายทั้งในมุมเศรษฐกิจ การเมือง รวมถึงเรื่องการคอร์รัปชันซึ่งเป็นเรื่องเด่นที่เราต้องการใช้เวทีนี้ในการอภิปราย
 
ถามต่อว่า เบื้องต้นในส่วนของพรรค ปชน.เตรียมผู้อภิปรายไว้กี่คน น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ประมาณ 20 กว่าคน
 
เมื่อถามถึง กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริจแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งหนังสือลับเรียก 44 ส.ส.พรรคก้าวไกลรับทราบข้อกล่าวหา กระทำการอันเป็นการจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีร่วมกันลงชื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับช่วงฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายนั้น มองอย่างไร
 
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จริงๆ ไทม์ไลน์ของ ป.ป.ช. ก็เป็นไทม์ไลน์ที่เราสามารถคาดเดามาได้เรื่อยๆ อยู่แล้วว่าจะตรงกับเวลานี้ แต่ก็ไปจบกับช่วงเวลาที่เราจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ต้องบอกว่าก็กระชั้นชิดเช่นกันที่ต้องเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย และต้องมีการเข้าไปแก้ข้อกล่าวหากับทาง ป.ป.ช.ด้วย ซึ่งเวลาที่แต่ละคนจะต้องเข้าไปแก้ข้อกล่าวหาก็จะเป็นช่วงเวลาที่ไล่ๆ กันไป ไม่ได้เป็นเวลาเดียวกัน
 
เมื่อถามว่า กังวลอะไรหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่กังวล แต่ก็ค่อนข้างติดขัดเช่นกัน เนื่องจากมีการนัดหมายการประชุมที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย



กันวีร์ ซัดซูเอี๋ยพวกค้ามนุษย์ หลังตร.ชี้กลุ่มถูกลวงเป็นคอลเซ็นเตอร์ เต็มใจไป
https://www.matichon.co.th/politics/news_5051748

กันวีร์ ซัดซูเอี๋ยพวกค้ามนุษย์ หลังตร.ชี้กลุ่มถูกลวงเป็นคอลเซ็นเตอร์ เต็มใจไป
 
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นายกัณวีร์ สืบแสง​ ส.ส.​บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์เกี่ยวกับประเด็นการรับตัวแก๊งคอลจากเมียนมาส่งกลับประเทศ โดยระบุข้อความว่า 
 
“อย่าซูเอี๋ยให้ขบวนการค้ามนุษย์สิครับ ไม่งั้นอายชาวโลกเขา ว่าไทยเรามีเอี่ยวกับขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาตินี้จริงๆ

หากข่าวที่ว่าผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนระหว่างไทย-เมียนมา (ผมก็ไม่ทราบว่าคือท่านใด อาจเป็นท่าน ผวจ.ตาก) แจ้งให้ทางผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ว่าคนทั้ง 260 คนที่เป็นชาวต่างชาติทั้งหมดที่ได้รับการช่วยเหลือออกจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์จาก อ.พบพระ เมื่อวันที่ 12 ก.พ. มีแค่ 1 คน เท่านั้นที่เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์เป็นจริง ผมว่ากระบวนการคัดแยกระดับประเทศ NRM ของประเทศเรามีปัญหาอย่างหนัก!!
เสียหายระดับโลกแน่นอนถึงความไม่มีทักษะ ความรู้ ประสิทธิภาพ อย่านะครับ อย่าให้ข่าวนี้แพร่ออกไปมากนัก อายชาวโลกเค้า นี่เข้าขั้นซูเอี๋ยช่วยเหลือขบวนการค้ามนุษย์ โยนบาปและผิดให้กับผู้ถูกกระทำทันที !!
 
ผมฟังจากเหยื่อแล้วเห็นว่ามี 3 องค์ประกอบครบ acts, means, purposes ซึ่งตามกฎหมายทั้งสากลและของไทยถือว่าเป็นการค้ามนุษย์ เริ่มจากหลอกลวง จัดหา นำพา และบังคับใช้แรงงาน โดยกักขัง หน่วงเหนี่ยว ทรมาน และยึดเอกสารส่วนตัว
 
1.หลอกว่าจะมาทำงานที่แม่สอด และหลายแห่งในประเทศไทย อ่ะใช่เต็มใจมา เพราะโดนหลอกว่าจะมาทำงานที่ไทย ใครๆ ก็อยากมา แต่โดนหลอกมั้ย??
2.ติดต่อครอบครัวไม่ได้ พอไปถึงนู่นแล้ว
3.ยึดพาสปอร์ต
4.โดนขัง โดนทรมานและทำร้ายร่างกาย
 
อย่าลดทอนความเลวร้ายของขบวนการค้ามนุษย์คอลเซ็นเตอร์ จะเต็มใจหรือถูกหลอก ก็ไม่ควรถูกบังคับทรมาน หรือให้ซื้อขายชีวิตคน
เอาหละถ้าจะเล่นการเมืองกับชีวิตมนุษย์กันอย่างนี้ ก็คงว่ากันตามกฎหมายและชื่อเสียงประเทศชาติในเวทีโลกกันต่อไป เตรียมรับแรงปะทะต่อไปนะครับทุกคนที่เกี่ยวข้อง”

https://www.facebook.com/NolKannavee/posts/pfbid02e7H7cdgvXmW7Qt6JNmDmVXwvBC3SDmsmTEG1UYc5rMcb8CvAJzzoKXPisnDLsuGDl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่