คือเมื่อเดือนที่แล้วมีความคิดอยากจะหาท้าวเวสสุวรรณองค์เล็กๆมาห้อยติดตัวไว้สักองค์  ทีนี้ก็เลยตัดสินใจไปเดินตลาดและที่ตลาดก็จะมีโซนเกี่ยวกับพระและวัตถุมงคลต่างๆ เราก็เดินหาอยู่หลายร้านไม่ถูกใจเลย จนมาเจอร้านนึงเจ้าของร้านเป็นผู้หญิงอายุประมาณสัก 50น่าจะได้ เราก็เลือกๆดูก็สะดุดตากับองค์นึงเล็กๆน่ารักอัดกรอบให้แล้วเป็นท้าวเวสสุวรรณสีทององค์ยืนอัดกรอบแล้วเรียบร้อยสวยมากเราชอบ ก็ตัดสินใจจะซื้อ ก็ถามราคาเจ้แกไป เจ้แกก็บอกว่าถัาชอบก็เอาไปเลยไม่คิดตังค์หรอก แล้วแกก็เล่าเรื่องนั่นนี่ของแกให้ฟังส่วนมากจะเกี่ยวกับความเชื่อต่างๆ เราก็ฟังแกคุยจนจบก็กลับบ้านพร้อมด้วยท้าวเวสสุวรรณองค์เล็กนั่น พอเอาเข้ามาบ้านเราก็รู้สึกแปลกแบบไม่เคยเป็น พอตกกลางคืนแค่นั้นแหละ มันกึ่งหลับกึ่งตื่นนะ เราเห็นผู้หญิงผมยาวผมปิดหน้ายืนอยู่ตรงปลายเท้าเรา ความรู้สึกเราคือจะสวดมนต์แต่มันอ้าปากสวดไม่ได้ ได้แต่อื้อๆๆในคอแต่ไม่มีเสียงสวดแม้จะพยายามแค่ไหน เราก็พยายามฝืนตัวเองอ้าปากจนโมโหแล้วก็รู้สึกตัว ตอนที่เรารู้สึกตัวตาเราไม่ได้หลับนะแต่แค่หลี่ๆตาแค่นั่น สรุปคือเราไม่ได้ฝันรึป่าวเพราะตอนที่รู้สึกตัวเราไม่ได้สะดุ้งแล้วลืมตาแต่คือตามันตื่นอยู่แล้วประมาณนี้  พอรู้สึกตัวแล้วเราก็ภาวนาและสวดมนต์ไม่ให้เจอเหตุการณ์แบบนั้นอีก ก็หลับตานอนก็ไม่มีอะไรจนเช้า...เช้ามาก็เป็นวันหยุดก็ทำงานบ้านปกติทั่วไป พอทำงานเสร็จก็รู้สึกว่าเพลียและก็ง่วงด้วย ก็เลยกะว่าของีบสักหน่อย และเราก็คิดว่าเหตุการณ์ที่เจอเมื่อคืนอาจจะแค่ฝันหรือไม่ก็แค่ภาพหลอนที่เราคิดไปเองประมาณนี้ เอนตัวลงสักพักก็หลับไป คราวนี้กลางวันเลยจ้า กึ่งหลับกึ่งตื่นเหมือนเดิมแบบสลึมสลือ เราเห็นเป็นกุมารี (เขาเรียกเด็กผู้หญิงแบบนี้ใช่ไหม) มายืนอยู่ข้างๆที่เรานอนมากวนเหมือนไม่ให้นอนเราโมโหมากเหมือนเราดุเด็กด้วยนะ  ด้วยความโมโหทำให้เราฟิวส์หลุดก็เลยรู้สึกตัวขึ้นมา ตื่นมาเรากลัวมาก แล้วก็มานั่งคิดทบทวนดูว่าเป็นเพราะอะไรตอนนั้นเราไม่ค่อยเชื่อว่าเป็นที่องค์ท้าวเวสสุวรรณ เพราะท้าวเวสสุวรรณใครก็รู้ท่านขับไล่สิ่งไม่ดี เราก็เลยไม่เชื่อ เราก็เลยโทรถามแม่ แม่บอกว่าอาจจะมีอะไรที่ไม่ดีแฝงอยู่ในองค์ท่านก็เป็นได้ แม่เราบอกให้เอาไปทิ้ง พอตอนเย็นเรานึกได้ว่ามีตลาด(คนละตลาดกับที่เราเอามานะ)และมีแผงพระอยู่ เราเดินไปแผงลุงคนนึงเราก็เลยบอกแกว่าลุงหนูให้ลุงเอาไหม ลุงถามว่าทำไมไม่เอาไว้ เราบอกแกว่าเรากลัว ลุงบอกว่ามาเอามาเลยแรงๆนี่แหละชอบ😁 เราก็ให้แกไป หลังจากนั้นมาเราก็ไม่เจอเหตุการณ์นั้นอีก เพื่อนๆคิดว่าสิ่งที่แม่เราพูดมันน่าจะเป็นไปได้ไหม ใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้หรือแนวๆนี้มาแชร์กันหน่อย ส่วนตัวเราเชื่อแบบที่แม่พูด