มีเรื่องเล่า มันค้างคาใจมาก อยากขอความเห็นทุกคน ถามได้อ่าน จขกท. นี้ เริ่มเลยนะค่ะ เราคบกับแฟนเข้าสู่ปีที่7 ปีนี้เลย
เริ่มแรกคือ ตอนเราเจอกันช่วงปี2562 แรกๆกันก็หวานไปหมด ไปหมดไปด้วยกันตลอด จนมาถึงคบ3ปี ตอนนั้นช่วงโควิคระบาดมาก ใน กทม. แฟนตอนนั้นมีทั้งเพื่อน ซัพพอต เราดูแลเราอย่างดี ยืมคนนุ้นนี่จนกลายเป็น เพื่อนเริ่มห่างไปทีคนละคน ตัวหนูไม่ใช่ว่าไปช่วยหานะค่ะ ทักไปขอทางบ้านบ้าง แต่ไม่บ่อย เคยกู้ระบบบ้าง กับคนรู้จัก หลายคน จนนานๆไปมีปันหาการจ่ายหนี้สิน จ่ายไม่ตรง เลื่อนนัด แรกๆเจ้าหนี้ผ่อนหย่อนให้ หนักๆเขาดองจนเป็นหมื่นรวมดอกด้วย มันกลายเป็นทะเลาะกับแฟนเพราะหาจ่ายไม่ทันกดดันมาก หนผุทำงานร้านกาแฟ ส่วนแฟนเป็นเซลล์ขายในห้าง อย่างที่บอกพอช่วงโควิคอะไรติดขัดไปหมด เพราะเราพยายามทำทุกทางให้อยู่กันรอดทุกวัน ไม่มีใครสามารถซัพพอตเราได้ตลอด เงินเดือนออกก็จ่ายใช้หนี้ยืม กู้ รายจ่ายจิปาถะอีกที่จะเป็น ช่วงนั้นพวกหนูติดสังคมกันมาก เที่ยวดื่มแทบทุกวัน เหอนใช้เงินลืมตัว พอมาถึงคบปีที่3 มีเรื่องยาวทะเลาะหนักจนถึงไม่มีเงินกินข้าว หนผุเลยนั่งรถเมล์ไปหาทางบ้าน ทางบ้านหนูก็จน พ่อแม่หนูหาเช้ากินค่ำเหมือนกัน หนูได้ปรึกษาคุยกับแม่ เรื่องการใช้ชีวิตคู่ จนแม่บอกลองแยกกันอยู่มั้ย เผื่ออะไรดีขึ้น ช่วงนั้นหนูสับสน คิดอยู่ว่าทำยังไง จนหนูทักเฟสหาเพื่อนหาแฟนว่า จะเลิกกับแฟน ให้ฝากดูแลมันด้วยนะ ตอนที่คบกับแฟนแรกๆแฟนบอก เขาไม่มีใครเลย ครอบครัวแตกแยก ตอนนั้นหนูคงคิดน้อยไป เลยคิดไปแบบนั้นแล้ว แม่เลยพาหนูไปเก็บผ้า ที่พักที่หนูอยู่กับแฟน ก่อนไปหนูได้บอกแฟนแล้วนะค่ะว่าตัดสินใจแยกทาง แฟนอาการตอนนั้นคงโกดมาก เพราะไม่มีสัญญณาญเตือนเลย หนูคิดแล้วทำเลย พอมาถึงห้องพัก แฟนหนูนั่งหงอยมาก หนูก็ส่งสาร ใจก็ยังรัก ก็เลยใจอ่อน บอกแม่ หนูเอาแฟนมาอยู่ด้วยได้มั้ย แฟนหนูก็ยังรักหนูเหมือนกันตอนนั้น แม่บอกได้ หนูไปตามเขาไปด้วยกัน แต่เขาตัดสินจะกลับ บ้าน ตจว. ของเขาเพราะเพื่อนบอกห้กลับไปตั้งหลักใหม่ เพื่อนก็เลยไป แต่ยังคุยกันเหมือนเดิม รักกันเหมือนเดิม จนแฟนอยู่ ตจว. ได้4เดือน ก็ได้กลับมาอยู่กับหนู กทม. เหมือนเดิม ใช้ชีวิตปกติชีวิตดีขึ้น หลังจากแยกกันอยู่ไปสักพัก พอมาอยู่กันใหม่ แฮปปี้เริ่มชีวิตให้ม่ที่ดี พอเข้าปี่ที5 หลังเริ่มมากู้เงินใหม่อีก รอบนี้หนักกว่าเดิม หรูต้องให้ทางครอบครัว เลี้ยงชีวิตพวกหนอีก แตอนนั้นหนูทำงานร้านกาแฟเหมือนเดิม แต่แฟนมาทำขายครอสเรียน ขายได้ก็ได้ค่าคอม นิดหน้อย พอมีกินได้ทุกวัน ตรงหนูเงินออกสิ้นเดือน พอเริ่มมีรายจ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ หนี้สินเริ่มรุงรัง หนูเลยเริ่มบ่นทุกวันหาจ่ายทันยังไง ชื่อกู้ก๋เป็นหนูทั้งหมด ตอนนี้ 5-6เจ้าได้ กดดันมาก พอทะเลาะกันเรื่องเงินหนักเข้า แฟนหนูตกลงจะแยกทาง ตอนนั้นหนูไม่ยอม แหนบอกเบื่อบ่นพูดทุกวัน แฟนหนูจนปันหาที่จะไปหาที่ไหนมาให้ได้ จนกระทั่ง เพื่อนแฟนชวนไปอยู่ที่ ตจว. ด้วย เขาเลยเอาเราไปด้วยกัน พอไปถึง เพื่อนแฟนซัพพอตพวก้ราได้สักระยะ ตอนนั้นไปกันแต่ตัวไมามีเงินเลยสักบาท เพื่อนแฟนโอนเงินค่ารถมาให้ พอมีเงินค่อยคืนทีหลัง อยู่ไปเรื่อยๆ หนูก็หางานใหม่จนได้งานใหม่ แฟนก็ทำงานกับเพื่อนคือ เก็บเงินกู้ แรกๆก็ดี อยู่ได้สบาย พอไปเรื่อยๆ หนูกับแฟนเริ่มใช้เงินฟุ่มเฟือย เริ่มมีเงินคล่องตัวแล้ว ช่วงนี้น ะ่อหนูป่วยเป็นมะเร็ง แม่หนูก็ดูแลพ่อได้ถึง3เดือนกว่า พ่อก็เสีย หนูเสียใจที่ไม่ไปหาพ่อเลย ได้แต่คลอหา จนพ่อเสีย แฟนหนูไม่พาไปเสียใจมาก พอเข้าปีที่6 เที่ยวกันมาขึ้นเข้าสังคมใช้เงินกันจนเกินตัว จนรอบนี้แฟนได้เพิ่มหนี้มาอีกจากเพื่อน เยอะอยู่ แต่ขอไม่ยอด กลายเพื่อนกับแฟนถกเถียงกัน สุดท้ายไม่ลงตัว หนูกับแฟนก็ได้กับแม่อยู่กับแม่ กทม. อีกครั้ง อยู่ไปมา ก็ได้งานทำ จนออกมาเช่าห้องกันเอง เช่าห้องมาได้เกือบปี งานเริ่มไม่มั่นคง เลยะยายามหาทำรายวันกันเพื่อได้ปะทังชีวิตเราได้ทุกวัน เป็นอยู่แบบนี้ สุดท้ายงานรายวันเนี่ย ก็ไม่ได้มีทุกวัน นับวันหายมากขึ้น จนเราลำบากจนมากตอนนี้ ค่าห้องก็จี้ จ่ายไม่ครบ ไม่งั้นเข้าก็จะให้ออก ถ้าออกไปอยู่กับแม่ แม่บอกว่าให้หนูไปคนเดียว เขาเริ่มไม่ค่อยโอเครกัลแฟนหนูแล้ว ตลอด้วลาที่คบกับ ถามว่าแฟนรักหนูมั้ย คงรักละมั้ง ทะเลาะทีไร ไล่หนูให้ไปมีคนอื่นตลอด พอหนูบอกจะไป ก็มาพูดว่าไม่มีใครทนเธอได้เท่าเขาหรอก เห้อ
เข้าปีที่7 ปีนี้ ตอนนี้หนูสีบสนมาก ว่าถ้าแยกกันรอบนี้ แฟนหนูไม่เหลือใครอีกเลย ไม่รุ้ว่าอิ่มตัว เบื่อ อะไรหลายอย่างมาก จนนี้หนูควรทำยังไงค่ะ บางทีหนูลองพูดว่า ถ้า่ราแยกทางกันเทอไปอยู่บ่ไหน เขาบอกไม่มีทีไปแล้ว ที่ผ่านมา เขาเลือกเทอมตลอด ถ้านี่เทอจะไป เขาคงไม่เหลือใคร อาจจะไปฆ่าตัวตาย รึไปนอนวัดอะไรก็ได้ หนูสงสารเขามากเลย หนผุไม่อยากเป็นตราบาป เป็นคนผิดที่แยกกันไป ยิ่งอยู่ด้วยกันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย สะสมหลายอย่าง จนอยากแยก แต่กลัวเขาฆ่าตัวตาย ควรทำไงดีค่ะ
สับสน 2568
เริ่มแรกคือ ตอนเราเจอกันช่วงปี2562 แรกๆกันก็หวานไปหมด ไปหมดไปด้วยกันตลอด จนมาถึงคบ3ปี ตอนนั้นช่วงโควิคระบาดมาก ใน กทม. แฟนตอนนั้นมีทั้งเพื่อน ซัพพอต เราดูแลเราอย่างดี ยืมคนนุ้นนี่จนกลายเป็น เพื่อนเริ่มห่างไปทีคนละคน ตัวหนูไม่ใช่ว่าไปช่วยหานะค่ะ ทักไปขอทางบ้านบ้าง แต่ไม่บ่อย เคยกู้ระบบบ้าง กับคนรู้จัก หลายคน จนนานๆไปมีปันหาการจ่ายหนี้สิน จ่ายไม่ตรง เลื่อนนัด แรกๆเจ้าหนี้ผ่อนหย่อนให้ หนักๆเขาดองจนเป็นหมื่นรวมดอกด้วย มันกลายเป็นทะเลาะกับแฟนเพราะหาจ่ายไม่ทันกดดันมาก หนผุทำงานร้านกาแฟ ส่วนแฟนเป็นเซลล์ขายในห้าง อย่างที่บอกพอช่วงโควิคอะไรติดขัดไปหมด เพราะเราพยายามทำทุกทางให้อยู่กันรอดทุกวัน ไม่มีใครสามารถซัพพอตเราได้ตลอด เงินเดือนออกก็จ่ายใช้หนี้ยืม กู้ รายจ่ายจิปาถะอีกที่จะเป็น ช่วงนั้นพวกหนูติดสังคมกันมาก เที่ยวดื่มแทบทุกวัน เหอนใช้เงินลืมตัว พอมาถึงคบปีที่3 มีเรื่องยาวทะเลาะหนักจนถึงไม่มีเงินกินข้าว หนผุเลยนั่งรถเมล์ไปหาทางบ้าน ทางบ้านหนูก็จน พ่อแม่หนูหาเช้ากินค่ำเหมือนกัน หนูได้ปรึกษาคุยกับแม่ เรื่องการใช้ชีวิตคู่ จนแม่บอกลองแยกกันอยู่มั้ย เผื่ออะไรดีขึ้น ช่วงนั้นหนูสับสน คิดอยู่ว่าทำยังไง จนหนูทักเฟสหาเพื่อนหาแฟนว่า จะเลิกกับแฟน ให้ฝากดูแลมันด้วยนะ ตอนที่คบกับแฟนแรกๆแฟนบอก เขาไม่มีใครเลย ครอบครัวแตกแยก ตอนนั้นหนูคงคิดน้อยไป เลยคิดไปแบบนั้นแล้ว แม่เลยพาหนูไปเก็บผ้า ที่พักที่หนูอยู่กับแฟน ก่อนไปหนูได้บอกแฟนแล้วนะค่ะว่าตัดสินใจแยกทาง แฟนอาการตอนนั้นคงโกดมาก เพราะไม่มีสัญญณาญเตือนเลย หนูคิดแล้วทำเลย พอมาถึงห้องพัก แฟนหนูนั่งหงอยมาก หนูก็ส่งสาร ใจก็ยังรัก ก็เลยใจอ่อน บอกแม่ หนูเอาแฟนมาอยู่ด้วยได้มั้ย แฟนหนูก็ยังรักหนูเหมือนกันตอนนั้น แม่บอกได้ หนูไปตามเขาไปด้วยกัน แต่เขาตัดสินจะกลับ บ้าน ตจว. ของเขาเพราะเพื่อนบอกห้กลับไปตั้งหลักใหม่ เพื่อนก็เลยไป แต่ยังคุยกันเหมือนเดิม รักกันเหมือนเดิม จนแฟนอยู่ ตจว. ได้4เดือน ก็ได้กลับมาอยู่กับหนู กทม. เหมือนเดิม ใช้ชีวิตปกติชีวิตดีขึ้น หลังจากแยกกันอยู่ไปสักพัก พอมาอยู่กันใหม่ แฮปปี้เริ่มชีวิตให้ม่ที่ดี พอเข้าปี่ที5 หลังเริ่มมากู้เงินใหม่อีก รอบนี้หนักกว่าเดิม หรูต้องให้ทางครอบครัว เลี้ยงชีวิตพวกหนอีก แตอนนั้นหนูทำงานร้านกาแฟเหมือนเดิม แต่แฟนมาทำขายครอสเรียน ขายได้ก็ได้ค่าคอม นิดหน้อย พอมีกินได้ทุกวัน ตรงหนูเงินออกสิ้นเดือน พอเริ่มมีรายจ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ หนี้สินเริ่มรุงรัง หนูเลยเริ่มบ่นทุกวันหาจ่ายทันยังไง ชื่อกู้ก๋เป็นหนูทั้งหมด ตอนนี้ 5-6เจ้าได้ กดดันมาก พอทะเลาะกันเรื่องเงินหนักเข้า แฟนหนูตกลงจะแยกทาง ตอนนั้นหนูไม่ยอม แหนบอกเบื่อบ่นพูดทุกวัน แฟนหนูจนปันหาที่จะไปหาที่ไหนมาให้ได้ จนกระทั่ง เพื่อนแฟนชวนไปอยู่ที่ ตจว. ด้วย เขาเลยเอาเราไปด้วยกัน พอไปถึง เพื่อนแฟนซัพพอตพวก้ราได้สักระยะ ตอนนั้นไปกันแต่ตัวไมามีเงินเลยสักบาท เพื่อนแฟนโอนเงินค่ารถมาให้ พอมีเงินค่อยคืนทีหลัง อยู่ไปเรื่อยๆ หนูก็หางานใหม่จนได้งานใหม่ แฟนก็ทำงานกับเพื่อนคือ เก็บเงินกู้ แรกๆก็ดี อยู่ได้สบาย พอไปเรื่อยๆ หนูกับแฟนเริ่มใช้เงินฟุ่มเฟือย เริ่มมีเงินคล่องตัวแล้ว ช่วงนี้น ะ่อหนูป่วยเป็นมะเร็ง แม่หนูก็ดูแลพ่อได้ถึง3เดือนกว่า พ่อก็เสีย หนูเสียใจที่ไม่ไปหาพ่อเลย ได้แต่คลอหา จนพ่อเสีย แฟนหนูไม่พาไปเสียใจมาก พอเข้าปีที่6 เที่ยวกันมาขึ้นเข้าสังคมใช้เงินกันจนเกินตัว จนรอบนี้แฟนได้เพิ่มหนี้มาอีกจากเพื่อน เยอะอยู่ แต่ขอไม่ยอด กลายเพื่อนกับแฟนถกเถียงกัน สุดท้ายไม่ลงตัว หนูกับแฟนก็ได้กับแม่อยู่กับแม่ กทม. อีกครั้ง อยู่ไปมา ก็ได้งานทำ จนออกมาเช่าห้องกันเอง เช่าห้องมาได้เกือบปี งานเริ่มไม่มั่นคง เลยะยายามหาทำรายวันกันเพื่อได้ปะทังชีวิตเราได้ทุกวัน เป็นอยู่แบบนี้ สุดท้ายงานรายวันเนี่ย ก็ไม่ได้มีทุกวัน นับวันหายมากขึ้น จนเราลำบากจนมากตอนนี้ ค่าห้องก็จี้ จ่ายไม่ครบ ไม่งั้นเข้าก็จะให้ออก ถ้าออกไปอยู่กับแม่ แม่บอกว่าให้หนูไปคนเดียว เขาเริ่มไม่ค่อยโอเครกัลแฟนหนูแล้ว ตลอด้วลาที่คบกับ ถามว่าแฟนรักหนูมั้ย คงรักละมั้ง ทะเลาะทีไร ไล่หนูให้ไปมีคนอื่นตลอด พอหนูบอกจะไป ก็มาพูดว่าไม่มีใครทนเธอได้เท่าเขาหรอก เห้อ
เข้าปีที่7 ปีนี้ ตอนนี้หนูสีบสนมาก ว่าถ้าแยกกันรอบนี้ แฟนหนูไม่เหลือใครอีกเลย ไม่รุ้ว่าอิ่มตัว เบื่อ อะไรหลายอย่างมาก จนนี้หนูควรทำยังไงค่ะ บางทีหนูลองพูดว่า ถ้า่ราแยกทางกันเทอไปอยู่บ่ไหน เขาบอกไม่มีทีไปแล้ว ที่ผ่านมา เขาเลือกเทอมตลอด ถ้านี่เทอจะไป เขาคงไม่เหลือใคร อาจจะไปฆ่าตัวตาย รึไปนอนวัดอะไรก็ได้ หนูสงสารเขามากเลย หนผุไม่อยากเป็นตราบาป เป็นคนผิดที่แยกกันไป ยิ่งอยู่ด้วยกันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย สะสมหลายอย่าง จนอยากแยก แต่กลัวเขาฆ่าตัวตาย ควรทำไงดีค่ะ