Jurassic World The Experience ที่จะมาจัดที่เอเชียทีคในกลางปีหน้าจะเป็นโปรดักชันเดียวกับ Jurassic World The Exhibition ที่เดินสายแสดงมาแล้วในหลายประเทศ
ภายในงาน ทุกคนจะได้เข้าไปสัมผัสโลกของ Jurassic World อย่างใกล้ชิดตั้งแต่ห้องฟักไข่ โซนจัดแสดงหุ่นไดโนเสาร์ที่เคลื่อนไหวอย่างสมจริง พร้อมเหล่าซุปตาร์จากภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็น Blue: The Velociraptor, Indominus Rex, T-Rex รวมไปถึงร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก
เจ้าของ ‘จูราสสิค เวิลด์’ ประกาศลงทุนในกรุงเทพฯ สร้าง ‘Jurassic World: The Experienc’ แห่งแรกในอาเซียน ทุ่ม 1,200 ล้าน หนุนท่องเที่ยวไทย ปั้นแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุง ‘บีโอไอ’ ไฟเขียวแล้ว
10 ก.พ. 2568 – นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อนุมัติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนโครงการสร้างแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ “Jurassic World: The Experience” ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ แอทแทรคชั่น แอนด์ รีเทล จำกัด ในเครือของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย มูลค่าการลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท บนพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ เดสติเนชัน ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยบริษัทจะพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพฯ และประเทศไทย
นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นการลงทุนสร้างศูนย์กลางการท่องเที่ยวและความบันเทิงระดับโลกโดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากแฟรนไชส์ภาพยนตร์ชื่อดัง “Jurassic World” จาก Universal Pictures และ Amblin Entertainment มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างไดโนเสาร์แอนิมาทรอนิกส์ที่มีการเคลื่อนไหวเสมือนจริง โดยใช้นวัตกรรมการออกแบบ 3 มิติ และใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมการเคลื่อนไหว เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่สมจริงมากที่สุด ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะแฟนคลับคนรักไดโนเสาร์ที่มีอยู่ทั่วโลก โดยโครงการนี้ถือเป็นประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบอิมเมอร์ซีฟที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก และเป็นแห่งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ภาคการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยในการนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย โดยปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเมืองไทยมากกว่า 35 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 1.67 ล้านล้านบาท ในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฮับการท่องเที่ยวของภูมิภาค เราจำเป็นต้องเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวให้พร้อม ทั้งด้านบุคลากร คุณภาพของการบริการ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การจัดกิจกรรมนานาชาติหรืออีเวนต์ขนาดใหญ่ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมทั้งการสร้างแหล่งท่องเที่ยวแบบ Man-made ที่จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของประเทศ” รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ.
เพื่อนๆว่า ปัง ไหม?
เจ้าของ ‘จูราสสิค เวิลด์’ ประกาศลงทุนในกรุงเทพฯ สร้าง ‘Jurassic World: The Experienc’ แห่งแรกในอาเซียน ทุ่ม 1200ล้าน
Jurassic World The Experience ที่จะมาจัดที่เอเชียทีคในกลางปีหน้าจะเป็นโปรดักชันเดียวกับ Jurassic World The Exhibition ที่เดินสายแสดงมาแล้วในหลายประเทศ
ภายในงาน ทุกคนจะได้เข้าไปสัมผัสโลกของ Jurassic World อย่างใกล้ชิดตั้งแต่ห้องฟักไข่ โซนจัดแสดงหุ่นไดโนเสาร์ที่เคลื่อนไหวอย่างสมจริง พร้อมเหล่าซุปตาร์จากภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็น Blue: The Velociraptor, Indominus Rex, T-Rex รวมไปถึงร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก
เจ้าของ ‘จูราสสิค เวิลด์’ ประกาศลงทุนในกรุงเทพฯ สร้าง ‘Jurassic World: The Experienc’ แห่งแรกในอาเซียน ทุ่ม 1,200 ล้าน หนุนท่องเที่ยวไทย ปั้นแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางกรุง ‘บีโอไอ’ ไฟเขียวแล้ว
10 ก.พ. 2568 – นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อนุมัติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนโครงการสร้างแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ “Jurassic World: The Experience” ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ แอทแทรคชั่น แอนด์ รีเทล จำกัด ในเครือของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย มูลค่าการลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท บนพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ เดสติเนชัน ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยบริษัทจะพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพฯ และประเทศไทย
นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นการลงทุนสร้างศูนย์กลางการท่องเที่ยวและความบันเทิงระดับโลกโดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากแฟรนไชส์ภาพยนตร์ชื่อดัง “Jurassic World” จาก Universal Pictures และ Amblin Entertainment มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างไดโนเสาร์แอนิมาทรอนิกส์ที่มีการเคลื่อนไหวเสมือนจริง โดยใช้นวัตกรรมการออกแบบ 3 มิติ และใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมการเคลื่อนไหว เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่สมจริงมากที่สุด ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะแฟนคลับคนรักไดโนเสาร์ที่มีอยู่ทั่วโลก โดยโครงการนี้ถือเป็นประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบอิมเมอร์ซีฟที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก และเป็นแห่งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ภาคการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยในการนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย โดยปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเมืองไทยมากกว่า 35 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 1.67 ล้านล้านบาท ในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฮับการท่องเที่ยวของภูมิภาค เราจำเป็นต้องเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวให้พร้อม ทั้งด้านบุคลากร คุณภาพของการบริการ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การจัดกิจกรรมนานาชาติหรืออีเวนต์ขนาดใหญ่ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมทั้งการสร้างแหล่งท่องเที่ยวแบบ Man-made ที่จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของประเทศ” รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ.
เพื่อนๆว่า ปัง ไหม?